ยอดติดโควิดยังพุ่งทั่วโลก ขณะวัคซีนเริ่มขาดแคลน หลายชาติคุมเข้มสั่ง เคอร์ฟิว-ล็อกดาวน์
เอเอฟพีรายงานเมื่อวันที่ 3 มกราคมนี้ว่า ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ยังคงพุ่งสูงขึ้นในหลายประเทศทั่วโลก ส่งผลให้มีการห้ามจำหน่ายแอลกอฮอล์ ประกาศล็อกดาวน์ ประกาศเคอร์ฟิว และเร่งรัดให้มีการกระจายวัคซีนออกไปให้ทั่วถึงเร็วที่สุด จนเกิดปัญหาขาดแคลน เพราะผลิตไม่ทันกับความต้องการ
ทั้งนี้ ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 สะสมทั่้วโลกเพิ่มขึ้นเป็น 84.5 ล้านคนแล้วในวันนี้ ในขณะที่มีผู้เสียชีวิตไปแล้ว 1.84 ล้านราย หลังการระบาดในระลอกใหม่ยังไม่มีทีท่าว่าจะผ่อนคลายลงแต่อย่างใด แต่ผู้เชี่ยวชาญกำลังกังวลว่าสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดยังมาไม่ถึง เพราะเชื่อว่าในช่วงหลายสัปดาห์ถัดจากการฉลองเทศกาลปีใหม่นี้ ทั้งยอดติดเชื้อและยอดเสียชีวิตจะเพิ่มขึ้นอีกมากทั่วโลก
หลายประเทศเลือกที่จะใช้มาตรการควบคุมเข้มงวดอีกครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฝรั่งเศสซึ่งทางการประกาศเคอร์ฟิวในหลายพื้นที่ ตั้งแต่เวลา 18.00 น. ขยายเวลาเคอร์ฟิวเพิ่มขึ้น 2 ชั่วโมงจากเดิมเริ่มที่ 20.00 น. แต่ยังไม่ครอบคลุมถึงพื้นที่กรุงปารีส ในขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมและเปรียบเทียบปรับบรรดาผู้ที่ฝ่าฝืนเคอร์ฟิวเพื่อฉลองปีใหม่ไปแล้ว 800 คน
ที่สหรัฐอเมริกายอดติดเชื้อรายวันเมื่อวันที่ 2 มกราคมที่ผ่านมาทำสถิติสูงสุดใหม่อีกครั้ง ที่กว่า 277,000 คนต่อวัน ยอดสะสมเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 20 ล้านรายแล้ว ในขณะที่รัฐบาลพยายามเร่งรัดให้มีการฉีดวัคซีนกระจายออกไปอย่างรวดเร็วมากขึ้น ตรงกันข้ามกับในภาคพื้นยุโรปที่การฉีดวัคซีนยังคงจำกัดอย่างยิ่ง นางสเตลลา ไคเรียไคเดส กรรมาธิการสาธารณสุขของสหภาพยุโรป (อียู) ยืนยันว่า ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ระบบการกระจายวัคซีนของอียู แต่เป็นเพราะวัคซีนผลิตไม่ทันกับความต้องการ จนเกิดภาวะคอขวดและทำให้ขาดแคลนวัคซีนแล้วในหลายประเทศ
ด้าน นายมิกฮาอิล มูราชโก รัฐมนตรีสาธารณสุขรัสเซีย เปิดเผยว่า จนถึงขณะนี้มีผู้ได้รับวัคซีน สปุตนิค วี ซึ่งรัสเซียพัฒนาขึ้นเองไปแล้วกว่า 800,000 คน และมีการแจกจ่ายวัคซีนออกไปอีก 1.5 ล้านโดสทั่วประเทศ เพื่อรองรับประชากรทั้งหมด 147 ล้านคน ส่วนที่ยิบรอลตา ดินแดนใต้อาณัตของอังกฤษติดกับสเปน ทางการประกาศล็อกดาวน์ทั่วพื้นที่เป็นเวลา 14 วัน เพื่อหวังควบคุมการแพร่ระบาดให้ได้
ในประเทศเดนมาร์กมีการค้นพบผู้ติดเชื้อโควิดกลายพันธุ์จากประเทศอังกฤษสูงถึง 86 ราย เช่นเดียวกับที่ประเทศเวียดนาม ขณะที่ผู้ว่าการกรุงโตเกียวออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลญี่ปุ่นประกาศภาวะฉุกเฉินครั้งใหม่ เมื่อยอดติดเชื้อพุ่งสูงเป็นวัติการณ์อีกครั้งในการระบาดระลอกที่ 3 ส่วนทางการเกาหลีใต้ ประกาศขยายเวลาใช้มาตรการเข้มงวดเพื่อต่อต้านการระบาดในพื้นที่กรุงโซล ออกไปเป็นจนถึงวันที่ 17 มกราคม ทั้งนี้ตามประกาศดังกล่าวห้ามการชุมนุมเกิน 4 คนที่ครอบคลุมไปทั่วประเทศ
