‘ณัฏฐพล’ ยันไม่เลื่อนปิดเทอม เล็งหารือ ‘ดีอีเอส’ ช่วยสนับสนุนอินเตอร์เน็ตให้ครู
เมื่อวันที่ 4 มกราคม นายณัฎฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยภายหลังการประชุมผู้บริหารระดับสูงของ ศธ. ว่า ที่ประชุมได้วางแผนรับมือหลังจากที่ตนสั่งการปิดสถานศึกษาใน 28 จังหวัดที่มีความเสี่ยงสูง ตั้งแต่วันที่ 4-31 มกราคม เพื่อให้นักเรียน ผู้ปกครอง และบุคลากรทางการศึกษา ให้ได้รับความปลอดภัยจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ซึ่งที่ประชุมได้หารือรายละเอียดและแผนรับมือปัญหาที่ตามมาเพื่อให้มีผลกระทบน้อยที่สุด เช่น การปรับการเรียนการสอน การเปิดปิดภาคเรียน และการสมัครเข้าเรียนในระดับชั้น ม.1 และ ม.4 เป็นต้น ซึ่งตนมองว่าในสถานการณ์นี้ ศธ.ยังสามารถบริหารจัดการได้อยู่ แต่ ศธ.ต้องเตรียมการสนับสนุนครูที่อาจจะมีความลำบาก มีค่าใช้จ่ายในการจัดพิมพ์เอกสาร และมีความลำบากในการสื่ออนไลน์มากขึ้น ซึ่งตนจะหารือกับนายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) เพื่อหาทางช่วยเหลือ และสนับสนุนเรื่องการใช้อินเทอร์เน็ตของครูต่อไป
“การปิดสถานศึกษาอาจจะส่งผลกระทบต่อผู้ปกครอง ทั้งนี้ขอให้รอฟัง ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. ประกาศอีกครั้งถ้า ศบค.สนับสนุนให้ประชาชนทำงานที่บ้าน ก็จะทำให้ผู้ปกครองอยู่บ้านดูแลบุตรหลานได้ ส่วนจะมีการเลื่อนปิดภาคเรียนหรือไม่ ผมมองว่าขณะนี้ช่วงเวลาการเรียนยังรับได้อยู่ เพราะยังไม่กระทบต่อการจัดการศึกษาภาพรวมของนักเรียนทั้งประเทศ แต่ในอนาคตศธ.จะนำชั่วโมงเรียน เวลาเรียนมาเป็นตัวกำหนดในการปิดเรียน หรือการคำนวนผลการเรียนต่อไป” นายณัฏฐพล กล่าว
นายณัฏฐพล กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ที่ประชุมหารือถึงการสอบเข้า ม.1 และ ม.4 ด้วย ซึ่งตนเห็นว่ายังสามารถบริหารจัดการได้อยู่ โดยอาจจะนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วย อาจจะจัดสอบคนละเวลา เป็นต้น ทั้งนี้ ศธ.และสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) จะหารือวางแผนจัดการเรื่องนี้ต่อไป
ผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะนี้สัญญาณใช้สื่อการสอนของมูลนิธิการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม ในพระราชูปถัมภ์ (ดีแอลทีวี) ผ่านโทรทัศน์ระบบดิจิทัลหมดลงแล้ว ศธ.จะต่อสัญญาณหรือไม่ นายณัฏฐพล กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 รอบแรก ศธ. พบว่าช่องทีวีที่นักเรียนใช้ อย่างมีเข้มข้นเพียง 3 ช่องเท่านั้น ถ้า ศธ.ยังเปิดช่องดีแอลทีวีเหมือนเดิม จะมีค่าใช้จ่าย 3.5 ล้าน ต่อช่องต่อเดือน แต่ถ้า จึงจะไม่ต่อสัญญาณต่อ เพื่อให้ ศธ.จัดสรรงบประมาณที่มีอย่างมีประสิทธิภาพ อาจจะนำงบประมาณส่วนนั้นมาใช้ในการแก้ไขปัญหาในส่วนอื่นๆ เพราะปัจจุบันยังไม่มีการแพร่ระบาดที่ครอบคลุมทั่วประเทศ ถือเป็นแนวทางที่ ศธ.จะนำไปบริหารจัดการต่อไป ทั้งนี้ตนขอบคุณดีแอลทีวี ที่ผ่านมาได้ช่วยเหลือการศึกษาของประเทศท่างกลางวิกฤตที่ผ่านมาก่อนหน้านี้
ด้านนายอรรถพล ตรึกตรอง เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (กช.) กล่าวว่า ขณะนี้โรงเรียนเอกชนที่อยู่ใน 28 จังหวัดพื้นที่ควบคุมสูงสุด ได้ปิดเรียนและให้ทำการสอนผ่านระบบออนไลน์แล้ว ตามมาตรการของ ศบค. แม้จะยกเว้นให้โรงเรียนที่มีนักเรียนต่ำกว่า 20 คน แต่ก็ได้กำชับให้ทุกโรงเรียนปฏิบัติมาตรการของศบค.อย่างเคร่งครัด ซึ่งทางสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) อยู่ระหว่างหามาตรการช่วยเหลือโรงเรียนที่ได้รับผลกระทบ
