จีนเริ่มแล้ว !! คุมสินค้าเข้ารหัสที่เข้าข่ายเป็นสินค้าที่ใช้ได้สองทาง

นายธัชชญาน์พล อภิมนต์เตชบุตร รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า สำนักงานพาณิชย์ในต่างประเทศ ณ กรุงปักกิ่ง แจ้งว่า กระทรวงพาณิชย์ สำนักงานการเข้ารหัสของรัฐ (The State Cryptography Administration : SCA) และสำนักงานศุลกากรกลางของจีนได้เผยแพร่ประกาศรายการผลิตภัณฑ์เข้ารหัสเชิงพาณิชย์ที่ต้องมีใบอนุญาตนำเข้าและควบคุมการส่งออก (Import Licensing And Export Control List For Commercial Passwords) เพื่อปกป้องเทคโนโลยีรหัสผ่านเชิงพาณิชย์ในการจัดการการนำเข้าและส่งออก และปกป้องความมั่นคงของชาติและผลประโยชน์ทางสังคมและสาธารณะ มีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 มกราคม 2564 เป็นไปตามบทบัญญัติที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายเกี่ยวกับการจัดการรหัสผ่านของจีน (Password Law) กฎหมายควบคุมการส่งออก (Export Control Law) สรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้

1.กำหนดสินค้าที่ต้องมีใบอนุญาตนำเข้า โดยมีรายการผลิตภัณฑ์เข้ารหัสที่ต้องมีใบอนุญาตนำเข้า (Encryption Import List) เช่น โทรศัพท์ที่เข้ารหัส (Encrypted Phones) เครื่องแฟกซ์ที่เข้ารหัส (Encrypted Fax Machines) และ 2.กำหนดสินค้าที่ต้องมีใบอนุญาตส่งออก โดยมีรายการผลิตภัณฑ์เข้ารหัสที่ต้องมีใบอนุญาตส่งออก (Encryption Export List) เช่น ชิปความปลอดภัย (Security Chips) เครื่องเข้ารหัส (บัตรเข้ารหัส) (Cipher Machine (Cipher Card))

นายธัชชญาน์พล กล่าวว่า ผลิตภัณฑ์เข้ารหัสเชิงพาณิชย์ดังกล่าว เข้าข่ายเป็นสินค้าที่ใช้ได้สองทาง (Dual-Use Items: DUI) อย่างไรก็ดี กรณีที่เป็นสินค้าที่ใช้สำหรับผู้บริโภคที่มีลักษณะการซื้อขายทั่วไปอย่างแพร่หลาย (Commercial Encryption Used In Mass Consumer Products) จะไม่อยู่ภายใต้การควบคุมดังกล่าว เนื่องจากประชาชนสามารถซื้อผ่านช่องทางค้าปลีกทั่วไป สำหรับการใช้งานส่วนตัว ซึ่งมีความเสี่ยงเล็กน้อยต่อความมั่นคงของประเทศ

นายธัชชญาน์พล กล่าวต่อว่า กรณีที่มีการฝ่าฝืนกฎหมาย มีบทลงโทษ ดังนี้ กรณีที่มีการฝ่าฝืนกฎหมายโดยส่งออกหรือนำเข้าโดยไม่ได้รับอนุญาต อาจมีการเรียกเก็บค่าปรับสูงถึง 5 ล้านหยวน (758,000 เหรียญสหรัฐฯ) หรือ 10 เท่าของมูลค่าการซื้อขายที่เกิดขึ้น พร้อมกับการระงับการดำเนินธุรกิจและการเพิกถอนคุณสมบัติของธุรกิจส่งออก และ กรณีที่ได้รับใบอนุญาตส่งออกหรือนำเข้าโดยมิชอบ เจ้าหน้าที่จะเพิกถอนใบอนุญาต ยึดรายได้ที่ผิดกฎหมาย ทั้งนี้ หากมูลค่าการซื้อขายที่ผิดกฎหมายน้อยกว่า 200,000 หยวน (30,300 เหรียญสหรัฐฯ) จะปรับตั้งแต่ 200,000 หยวน ถึง 2 ล้านหยวน (303,030 เหรียญสหรัฐฯ) หากมูลค่าการซื้อขายที่ผิดกฎหมายมากกว่า 200,000 หยวน จะกำหนดค่าปรับที่สูงขึ้น 5 – 10 เท่าของมูลค่าการซื้อขายที่ผิดกฎหมาย

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image