คต.เฝ้าระวังต่างชาติแอบอ้างถิ่นกำเนิด สวมสิทธิส่งออกทุเรียนไทย

นายกีรติ รัชโน อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมได้รับแจ้งจากสำนักงานพาณิชย์และผู้ส่งออก จังหวัดจันทบุรี ว่าปัจจุบันอาจมีการนำเข้าทุเรียนจากประเทศเพื่อนบ้าน มาสวมสิทธิเป็นทุเรียนไทยและส่งออกไปยังประเทศจีน โดยใช้หนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้า Form E เพื่อขอรับสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร ซึ่งการกระทำดังกล่าวนั้น เข้าข่ายการแอบอ้างถิ่นกำเนิดสินค้า โดยใช้ไทยเป็นฐานการปลอมแปลงถิ่นกำเนิด ส่งผลต่อภาพลักษณ์และชื่อเสียงของทุเรียนไทย

เพื่อป้องกันการสวมสิทธิทุเรียนไทย และป้องกันการแอบอ้างถิ่นกำเนิด กรมจึงได้ดำเนินการเพิ่มสินค้าทุเรียนในบัญชีรายการสินค้าเฝ้าระวัง (Watch-List) ซึ่งจะทำให้ขั้นตอนในการพิจารณาออกหนังสือรับรองฯ เข้มงวดและรัดกุมยิ่งขึ้น สำหรับสินค้าทุเรียนอาจถูกสวมสิทธิได้ ประกอบด้วย ทุเรียนสด และทุเรียนแช่แข็ง ซึ่งกรมได้กำหนดแนวปฏิบัติในการออกหนังสือรับรองฯ ทุกประเภท สำหรับสินค้าทุเรียนดังกล่าว โดยให้ผู้ยื่นขอหนังสือรับรองฯ ต้องระบุข้อความยืนยันแหล่งที่มาของทุเรียนในประเทศที่ขอรับหนังสือรับรองฯ เพิ่มเติมลงในแบบขอรับการตรวจคุณสมบัติของสินค้าทางด้านถิ่นกำเนิดเพื่อขอใช้สิทธิพิเศษทางด้านภาษีศุลกากร (สินค้าพิกัดอัตราศุลกากรตอนที่ 01-24) ตั้งแต่วันที่ 21 ธันวาคม 2563 เป็นต้นไป

“แนวปฏิบัติดังกล่าว เป็นการดำเนินงานเชิงรุกในการป้องกันการสวมสิทธิและการแอบอ้างถิ่นกำเนิดสินค้าทุเรียน เพื่อให้ประเทศไทยได้รับความเชื่อถือและความมั่นใจจากประเทศคู่ค้าว่า ทุเรียนที่ส่งออกจากไทยเป็นทุเรียนที่มีถิ่นกำเนิดไทยจริง อีกทั้งยังช่วยรักษาความเชื่อมั่นในมาตรฐาน ภาพลักษณ์และชื่อเสียงของทุเรียนไทยในตลาดโลกอีกด้วย”

นายกีรติ กล่าวว่า สถิติการส่งออกทุเรียนสดและทุเรียนแช่แข็งของไทย ช่วง 10 เดือนแรก ปี2563 ปริมาณรวม 631,394.7 ตัน มูลค่า 69,153.8 ล้านบาท ปริมาณลดลง 4.2% แต่มูลค่าเพิ่มขึ้น 42.9% เทียบกับช่วงเดียวกันของปี2562ที่ส่งออกปริมาณรวม 680,904.5 ตัน มูลค่า 51,029.5 ล้านบาท โดย 3 อันดับแรกส่งออกมากสุด ได้แก่ จีน ฮ่องกง และเวียดนาม ตามลำดับ

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image