โฆษกอัยการปราบทุจริตภ.9 เผย ศาลจำคุกผอ.สารพัดช่างนราธิวาส 1 ปี ไม่รอลงอาญา คดีแก้รายงานประชุมฯ

เมื่อวันที่ 16 มกราคม นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง โฆษกและรองอธิบดีอัยการปราบปรามทุจริตภาค9 เปิดเผยว่าเมื่อวันที่ 14 มกราคม ที่ผ่านมา มีคำพิพากษาของศาลอาญาคดีทุจริตฯภาค9 ในคดีหมายเลขแดงที่ อท 24/2561 ที่พนักงานอัยการยื่นฟ้อง จำเลย ขณะเกิดเหตุรับราชการในตำแหน่งผู้อำนวยการวิทยาลัยสารพัดช่างนราธิวาส

โดยพฤติการณ์แห่งคดีกล่าวคือเมื่อวันที่ 13 พ.ค.2559 วิทยาลัยสารพัดช่างนราธิวาสจัดการประชุม เรื่อง ครุภัณฑ์ชุดทดลองดิจิตอลลอจิกแบบเมนบอร์ดชนิดมีตัวแสดงสถานะลอจิกพร้อมแผงโมดูลต่างชนิดกันไม่น้อยกว่า17 ชนิด จำนวน1 ชุด ครั้งที่ 1/2559 จำเลยในฐานะผู้อำนวยการวิทยาลัยสารพัดช่างนราธิวาส เป็นประธานการประชุม มีผู้เข้าร่วมประชุม12 คน รวมทั้ง นายเรืองเดช ตันติวุฒิพงศ์ ประธานกรรมการตรวจรับพัสดุ และนางสุริภรณ์ สังข์ทอง ผู้บันทึกการประชุม ในการประชุมวาระที่ 1 เรื่องที่ประธานแจ้งให้ที่ประชุมทราบ นายเรืองเดช ตันติวุฒิพงศ์ กล่าวในตอนหนึ่งว่า “หลังจากนี้บันทึกของผมไว้ด้วยนะครับ ด้วยนายเรืองเดช ตันติวุฒิพงศ์ รองผู้อำนวยการ นะฮะ ช่วยบันทึกไว้ด้วยนะครับ การบันทึกนะครับ ขอแจ้งว่า นายเรืองเดช ตันติวุฒิพงศ์ เนี่ย ไม่ชอบพฤติกรรมในการจัดซื้อหรือจัดจ้างของที่นี่ตลอดมานะฮะ ช่วยแจ้งด้วยนะครับ ไม่สบายใจในทุก ๆ เรื่อง ครับ และพร้อมที่จะแฉทุกเรื่องที่เป็นเรื่องการลงทุน การผิดสเปคงาน โดยเอาตำแหน่งของราชการเป็นเดิมพัน ไม่เป็นไรครับ”

นางสุริภรณ์ผู้บันทึกการประชุมได้ได้บันทึกการประชุมเสนอจำเลยเพื่อตรวจพิจารณาตามอำนาจหน้าที่ว่า “นายเรืองเดชฯ ไม่ลงนามให้ผู้บันทึกการประชุมบันทึกไว้ด้วยว่า ข้าพเจ้านายเรืองเดชฯ ไม่ชอบ พฤติกรรมการจัดซื้อจัดจ้างของวิทยาลัยสารพัดช่าง โดยเฉพาะงบลงทุนและพร้อมจะแฉทุกเรื่อง” ระหว่างวันที่ 13 พฤษภาคม 2559 เวลากลางวัน ถึงวันที่ 16 พฤษภาคม 2559 เวลากลางวัน วันเวลาใดไม่ปรากฏชัด

จำเลยซึ่งมีหน้าที่ตรวจพิจารณารายงานการประชุมให้ถูกต้องตามความจริงได้ปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่ หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบ แก้ไขรายงานการประชุมที่ นางสุริภรณ์บันทึกไว้ดังกล่าวเป็น “นายเรืองเดช ตันติวุฒิพงศ์ จึงพูดสวนขึ้นว่าให้บันทึกไว้ด้วยว่าที่นายเรืองเดช ตันติวุฒิพงศ์ ไม่เซ็นเพราะว่าเรื่องนี้ผู้อำนวยการวิทยาลัยสารพัดช่างนราธิวาส ทุจริต คอรัปชั่น และจะแฉพฤติกรรมให้หมดในเรื่องจัดซื้อจัดจ้าง งบลงทุน” ซึ่งไม่ตรงกับความจริง เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่นายเรืองเดช เหตุเกิดที่ตำบลโคกเคียน อำเภอเมืองนราธิวาส จังหวัดนราธิวาส

Advertisement

การที่จำเลยได้กระทำเป็นความผิดต่อกฎหมายและบทมาตรา ดังนี้ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา พ.ศ.2502 มาตรา13 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542มาตรา 123/1 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2554มาตรา 65

ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 9 พิพากษาเมื่อวันที่ 17ส.ค.61 ว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 (เดิม) พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา123/1 การกระทำของจำเลยเป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 123/1ซึ่งเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 จำคุก 2 ปี

จำเลยยื่นอุทธรณ์คัดค้านคำพิพากษาของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 9 ศาลอุทธรณ์ แผนกคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ พิพากษาเมื่อวันที่ 26 ก.พ.62 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 9 อ่านคำพิพากษาเมื่อวันที่ 29เม.ย.62 ว่า พิพากษากลับ ให้ยกฟ้อง พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีปราบปรามการทุจริต 1 ภาค 9 ยื่นคำร้องขออนุญาตฎีกา และยื่นฎีกา คัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ แผนกคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ เมื่อวันที่ 18ก.ค.62

Advertisement

ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 9 อ่านคำพิพากษาศาลฎีกาเมื่อวันที่ 14ม.ค.64 พิพากษากลับเป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 (เดิม) พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 123/1 การกระทำของจำเลยเป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 123/1 ซึ่งเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 จำคุก 1 ปี

นายโกศลวัฒน์ กล่าวว่าที่ยกตัวอย่างคดีนี้เพื่อเป็นอุทธาหรณ์สำหรับการแก้รายงานการประชุม ว่าเป็นการปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือไม่ ถือเป็นอีกหนึ่งคดีตัวอย่าง ที่อดีตผอ.โรงเรียนสารพัดช่าง นราธิวาส แก้ไขรายงานการประชุม เพื่อนำไปแจ้งความดำเนินคดี กลับถูกคู่กรณีตรวจสอบรายงานการประชุม ว่ามีการแก้ไขนำร้องเรียนปปช.ไต่สวนส่งอัยการดำเนินคดี ปฏิบัติหรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ โดยมูลคดีเนื่องมาจากการแก้รายงานการประชุม

จำเลยอันเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐและเป็นเจ้าพนักงานตามกฎหมายและเป็นข้าราชการที่ดำรงตำแหน่งตั้งแต่ผู้อำนวยการระดับต้นหรือเทียบเท่าขึ้นไป ซึ่งอยู่ในอำนาจไต่สวนและวินิจฉัยของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ มีอำนาจหน้าที่และความรับผิดชอบบังคับบัญชาบุคลากรในสถานศึกษา บริหารกิจการของสถานศึกษา การวางแผนการปฏิบัติงาน การควบคุม กำกับ ดูแล เกี่ยวกับการบริหารงานวิชาการ งบประมาณ การบริหารงานบุคคล การบริหารทั่วไป มีอำนาจหน้าที่บริหารกิจการของสถานศึกษาให้เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ นโยบาย และวัตถุประสงค์ของสถานศึกษา และตามคำสั่งมอบอำนาจจากเลขาธิการคณะกรรมการอาชีวศึกษา ตามระเบียบสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ว่าด้วยการบริหารสถานศึกษา พ.ศ2552 และในฐานะผู้บริหารสูงสุดของสถานศึกษา และในฐานะประธานการประชุมของวิทยาลัยสารพัดช่างนราธิวาส เรื่อง ครุภัณฑ์ชุดทดลองดิจิตอลลอจิกแบบเมนบอร์ดชนิดมีตัวแสดงสถานะลอจิกพร้อมแผงโมดูลต่างชนิดกันไม่น้อยกว่า17 ชนิด จำนวน 1ชุด ครั้งที่1/2559เมื่อวันที่13 พ.ค.2558 มีหน้าที่ในการตรวจสอบความถูกต้องของรายงานการประชุมที่เจ้าหน้าที่ผู้จัดทำบันทึกรายงานการประชุมนำเสนอให้ถูกต้องตามความเป็นจริงจึงมีความผิดตามที่ศาลฎีกาวินิจฉัย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับคดีที่นายโกศลวัฒน์ยกตัวอย่างจำเลยคือ นายสุนิตย์ ธรรมประพัทธ์ ตอนเกิดเหตุรับราชการในตำแหน่งผู้อำนวยการวิทยาลัยสารพัดช่างนราธิวาส

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image