หนังเจมส์ บอนด์ “No Time to Die” เลื่อนฉายอีกรอบ ไกลออกไป 8 ตุลาคม

(รอยเตอร์)

หนังเจมส์ บอนด์ “No Time to Die” เลื่อนฉายอีกรอบ ไกลออกไป 8 ตุลาคม

หลังจากต้องเลื่อนกำหนดออกฉายมาแล้ว 3 รอบ ล่าสุดรอยเตอร์รายงานว่า ภาพยนตร์เจมส์ บอนด์ 007 ตอน โน ไทม์ ทู ดาย (No Time to Die )ซึ่งเป็นตอนที่ 25 ต้องประกาศเลื่อนฉายออกไปเป็นวันที่ 8 ตุลาคม 2564 เนื่องจากสถานการณ์ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ยังน่าเป็นห่วง

รอยเตอร์ อ้างแถลงการณ์ในเว็บไซต์ทางการของ เจมส์ บอนด์ และ ทวิตเตอร์ ระบุว่า ” โน ไทม์ ทู ดาย จากค่ายเอ็มจีเอ็ม และ ยูนิเวอร์แซล พิคเจอร์ส์ ของ คอมแคสต์ คอร์ป จากเดิมมีกำหนดฉายวันที่ 20 เมษายน 2563 ก่อนจะเลื่อนออกไปเดือนพฤศจิกายน 2563 และ เดือนเมษายน 2564 ”
แต่ทว่าตอนนี้ได้เลื่อนกำหนดวันฉายอีกครั้งออกไปเป็นวันที่ 8 ตุลาคม 2564

สำหรับหนังเจมส์ บอนด์ ตอน โน ไทม์ ทู ดาย ใช้ทุนสร้างราว 200 ล้านดอลลาร์ หรือราว 6,000 ล้านบาท มี แดเนียล เครก พระเอกชาวอังกฤษ รับบทสายลับบอนด์ 007

ทั้งนี้เจ้าของโรงภาพยนตร์ ต่างหวังว่า ภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์อย่าง เจมส์ บอนด์ จะช่วยฉุดให้ธุรกิจภาพยนตร์กระเตื้องขึ้น ขณะที่สถานการณ์ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 สร้างความเสียหายต่อธุรกิจภาพยนตร์ปี 2563 ที่ยอดขายตั๋วชมภาพยนตร์ในสหรัฐอเมริกา และแคนาดา ลดฮวบลง 80 % ส่งผลกระทบต่อโรงภาพยนตร์อิสระ และโรงภาพยนตร์ในเครือค่ายยักษ์ใหญ่อย่าง AMC Entertainment, Cineworld Plc และ Cinemark Holdings Inc ด้วย

Advertisement

ขณะที่สถานการณ์ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ยังรุนแรงในหลายพื้นที่ รวมทั้งลอสแองเจลิส ซึ่งเป็นตลาดใหญ่ของธุรกิจบันเทิง ทำให้ค่ายภาพยนตร์ยักษ์ใหญ่ไม่เต็มใจจะปล่อยภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ในเครือออกฉายในโรงภาพยนตร์ซึ่งปัจจุบันมีโรงภาพยนตร์จำนวนมากที่ปิดกิจการชั่วคราว ขณะที่โรงภาพยนตร์ที่เปิดฉายอยู่ ก็ต้องปฎิบัติตามมาตรการป้องกันโควิด-19 ต้องจำกัดจำนวนผู้เข้าชม เพื่อให้สามารถรักษาระยะห่างทางสังคมได้

ภาพยนตร์เจมส์ บอนด์ เป็นหนึ่งในผลงานภาพยนตร์ที่กำไรมากที่สุดในโลก โดยภาพยนตร์เจมส์ บอนด์ตอน “Spectre” ออกฉายเมื่อปี 2558 ทำรายได้ทั่วโลก 880 ล้านดอลลาร์ ราว 26,400 ล้านบาท , ขณะที่เจมส์ บอนด์ ตอน “Skyfall” เมื่อปี 2555 ทำรายได้ทั่วโลกกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ หรือราว 30 พันล้านบาท

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image