“อนุทิน” จัดหนัก” จนท.รัฐ-นักร้อง” ติดโควิดก๊วนเดียวกัน เตี๊ยมกันปกปิดข้อมูล ชี้ผิดกม.ให้การเท็จ

“อนุทิน” จัดหนัก” จนท.รัฐ-นักร้อง” ติดโควิดก๊วนเดียวกัน เตี๊ยมกันปกปิดข้อมูล ชี้ผิดกม.ให้การเท็จ

เมื่อวันที่ 27 มกราคม นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการโหนกระแส กรณีกลุ่มผู้ร่วมงานวันเกิดดีเจมะตูม หรือ นายเตชินท์ พลอยเพชร ปกปิดข้อมูลต่อเจ้าหน้าที่ผู้สอบสวนโรคถือว่ามีความผิดตามกฎหมายหรือไม่ ว่า ถ้าปกปิดแล้วพิสูจน์ได้ว่าให้การเท็จอาจจะไม่ได้ผิดตามกฎหมายควบคุมโควิด-19 แต่ผิดเรื่องให้การเท็จต่อเจ้าพนักงาน

ไทม์ไลน์ของผู้ป่วยรายที่ 658 อาชีพเจ้าหน้าที่รัฐ ไม่ให้ข้อมูลบางช่วง พบติดเชื้อเมื่อวันที่ 22 มกราคมที่ผ่านมา ต้องมาอยู่โรงพยาบาลและสอบสวนโรค ถ้าไม่บอกว่าไปไหนมา ถือว่าไม่ให้ความร่วมมือต้องดำเนินคดี

เมื่อถามว่าผู้ป่วยดังกล่าวเป็นตำรวจด้วย นายอนุทิน กล่าวว่า คนอย่างนี้ต้องดูนิสัยว่าทำไมถึงเบ่งใหญ่โตไม่ให้ความร่วมมือ ไม่ยอมให้ความร่วมมือเพราะคิดว่าเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ นี่คือสิ่งที่ต้องบอกไปทางผู้บังคับบัญชาว่า ไม่ให้ความร่วมมือเพราะคิดว่าตัวเองเป็นใหญ่เป็นโต เรื่องนี้ไม่ต้องถึงขั้นใช้กฎหมายโรคติดต่อ แค่ให้การเท็จกับเจ้าพนักงานผิดกฎหมายอยู่แล้ว

ผู้สื่อข่าวถามว่าผู้ป่วยรายที่ 647 ระบุว่าเป็นนักร้องนักแสดงก็ไม่ให้ข้อมูลบางช่วงเวลาเช่นกัน นายอนุทิน กล่าวว่า ถ้าไม่บอกก็ผิดเหมือนกัน แต่ก็ต้องไปดูว่าทำไมก่อนหน้านี้ถึงบอกว่าไปไหนมา คนสอบสวนโรคก็มีวิธีการสอบสวนแต่อย่างที่เรียน ต้องให้ข้อมูลไทม์ไลน์ว่าไปไหนมาบ้าง ก่อนวันคอนเฟิร์มว่าติดเชื้อ ทั้ง 2 คนนี้ไปงานเดียวกันมิใช่หรือ และช่วงเวลาที่ไม่บอกข้อมูลก็เท่ากัน ก็แสดงว่าต้องไปทำอะไรที่ไม่อยากจะบอก และต้องไปสืบสวนมาให้ได้ ดูแล้วก็คงจะเตี๊ยมกัน

Advertisement

นายอนุทิน กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ที่เข้าไปสอบสวนไม่เข้าไปยุ่งเรื่องส่วนตัวว่าคุณไปทำอะไรมา เพียงสอบสวนเรื่องไม่ให้มีการแพร่ระบาด ไม่รับเรื่องส่วนตัว และถ้าเจ้าหน้าที่แอบเอาข้อมูลไปเผยแพร่และพิสูจน์ได้ก็มีความผิด แต่แพทย์และบุคคลกรที่สอบสวนโรคไม่สนใจเรื่องพวกนี้ แต่สนใจเรื่องการป้องกัน แต่ถ้าใครเอาเรื่องส่วนตัวออกมาก็จะเอาเรื่องด้วย ขอให้มั่นใจว่า แพทย์มีจรรยาบรรณอยู่แล้ว ส่วนเรื่องของการจัดเลี้ยงไม่ได้ห้าม แต่ขอความร่วมมือในช่วงที่มีการแพร่ระบาด ต้องตรวจสอบด้วยว่าการจัดเลี้ยงที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ต้องดูว่าอยู่ในห้องนอนหรือโซนร้านอาหาร เพราะมีข้อกำหนดไว้ว่าห้ามเปิดเกิน 3 ทุ่มและห้ามจำหน่ายแอลกอฮอล์ ถ้าจะผิดก็ผิดตรงนี้ เจ้าของกิจการต้องโดนด้วย เพราะกฎหมายห้ามขายเหล้าแต่ยังทำ ต้องสอบสวนโรค เพราะมีคนไปร่วมงานดังกล่าวด้วย และพยานระบุว่าหลัง 3 ทุ่มแล้ว ยังอยู่ในงานกันหรือไม่ ปัญหาโควิด-19 ทั้งหมดที่เกิดขึ้นในประเทศไทย ทั้งหมดเกิดจากคนที่ไม่เคารพกฎหมาย มักง่ายทำให้คนต้องเดือนร้อนและสังคมต้องช่วยกันประนามเพราะบางครั้ง การถูกประนามในสังคม เจ็บปวดหน้าละอายมากกว่าการเสียค่าปรับและถูกดำเนินคดี

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image