‘นักวิชาการ-นักการเมือง’ ประณาม ‘รัฐประหารพม่า’ จี้ประยุทธ์ ส่งเสียงกดดัน คืนปชต.ให้ปชช.

‘นักวิชาการ-นักการเมือง’ ประณาม ‘รัฐประหารพม่า’ ชี้เสียหายต่อโลกปชต. จี้คืนอำนาจปชช.

จากกระแสข่าวการจับกุมตัว นางออง ซาน ซูจี หัวหน้าพรรคสันนิบาตเพื่อประชาธิปไตย (เอ็นแอลดี) พรรครัฐบาล ของเมียนมา และ บรรดาผู้นำรัฐบาลพลเรือนของพม่า จนเกิดเป็นกระแสข่าวลือว่าจะเกิดการรัฐประหารขึ้นในเมียนมา เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ก่อนที่ ทหารพม่าจะออกมาประกาศยึดอำนาจ อ้างมีการโกงการเลือกตั้ง ทั้งประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน 1 ปี

ทหารพม่า คุมตัวมุขมนตรีแต่ละรัฐ นักการเมืองฟากประชาธิปไตย เร่งหลบหนีแล้ว

มิน อ่อง ลาย ผบ.สูงสุด เมียนมา ยึดอำนาจแล้ว อ้างเหตุมีโกงเลือกตั้ง

ทำให้ นักวิชาการ นักการเมือง และ นักกิจกรรม ไทย ที่จับตามองการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองครั้งนี้ของพม่า ออกมาแสดงความคิดเห็น ประณามการรัฐประหารครั้งนี้จำนวนไม่น้อย พร้อมติด #SaveMyanmar จนขึ้นอันดับ 1 ในโลกทวิตเตอร์ ควบคู่กับ #รัฐประหาร กับเหตุการณ์ดังกล่าว อาทิ

Advertisement

ผศ.ดร.ประจักษ์ ก้องกีรติ รองคณบดีคณะรัฐศาสตร์ ธรรมศาสตร์ กล่าวว่า ในศตวรรษที่ 21 มีข้อเท็จจริง 3 ข้อที่งานวิจัยทางรัฐศาสตร์สรุปไว้อย่างเป็นเอกฉันท์

1.ไม่มีประเทศไหนที่ทำรัฐประหารแล้วจะเจริญได้
2.ไม่มีประเทศใดที่นายพลบริหารประเทศแล้ว ประเทศจะพัฒนา
3.การแทรกแซงทางการเมืองของกองทัพ คือบ่อเกิดของความแตกแยกในสังคม และทำให้ประเทศถอยหลัง

ทักษะที่นายพลไทยและพม่ามี ซึ่งนายพลประเทศอื่นๆในโลกไม่มี (นายพลประเทศอื่นมีทักษะปกป้องประเทศชาติเป็นสำคัญ) คือ 1.ทักษะในการทำรัฐประหารยึดอำนาจ 2.สร้างสายสัมพันธ์กับกลุ่มทุนและแสวงหาผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจจนมีฐานะร่ำรวย 3.อุปถัมภ์พวกพ้อง ตั้งพรรค และเข้ามาเล่นการเมือง #รัฐประหาร”

Advertisement

ผศ.ดร. พิชญ์ พงษ์สวัสดิ์ อาจารย์ประจำคณะรัฐศาตร์ จุฬาฯ กล่าวว่า ตื่นมาเจอข่าวรัฐประหารพม่า ส่วนใหญ่บ่น แต่แทบไม่มีคอมเม้นประณาม ผมของเป็นคนหนึ่งที่ประณามการทำรัฐประหารในพม่า ว่าเป็นสิ่งที่จะส่งผลเสียต่อประชาชนในประเทศพม่า และต่อชายแดนไทยรวมทั้งภาพรวมของภูมิภาค นอกเหนือจากเรื่องคุณค่าประชาธิปไตย นอกจากนี้เราควรช่วยกันส่งเสียงให้รัฐบาลไทยกดดันทหารพม่าให้คืนประชาธิปไตยโดยเร็ว และสนับสนุนขบวนการเรียกร้องประชาธิปไตยในพม่าอย่างจริงจัง #รัฐประหารเจอกัน

นางสาวพรรณิการ์ วานิช แกนนำคณะก้าวหน้า กล่าวว่า “ทหารเมียนมาตัดสินใจรัฐประหารอีกครั้ง หลังจาก 10 ปีของการปล่อยให้มีการเลือกตั้ง และ 5 ปีของการบริหารประเทศของอองซาน ซูจี ผู้นำที่มาจากเสียงประชาชนอย่างแท้จริง

5 ปีที่ผ่านมาเมียนมาพัฒนาขึ้นในหลายด้าน สิ่งเดียวที่ทำให้การพัฒนานั้นต้องหยุดลงคือการที่ซูจีพยายามผลักดันปฏิรูปกองทัพ

ขอประณามการกระทำของมิน อ่อง หล่ายน์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุดเมียนมา การกระทำของเขาในวันนี้พิสูจน์ชัดว่าทหารไม่ได้ใช้อำนาจเพื่อพิทักษ์ประเทศและประชาชนตามที่อ้าง แต่ต้องการผูกขาดอำนาจไว้ที่เหล่านายพล รักษาอำนาจตัวเอง แทนที่จะให้รัฐบาลจากการเลือกตั้งบริหารประเทศอย่างอิสระ

กองทัพเมียนมาออกแถลงการณ์ว่าเข้ายึดอำนาจการบริหารประเทศชั่วคราว ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน 1 ปี อ้างเหตุรักษาความสงบเรียบร้อย เนื่องจากพบความผิดปกติในการเลือกตั้ง ตั้งนายพลคนสนิทของตานฉ่วย เป็นปธน.รักษาการณ์

ตอนนี้รอดูว่ารัฐบาลไทยจะทำอย่างไรกับสถานการณ์รัฐประหารในเมียนมา
1. ออกแถลงการณ์ประณาม เรียกร้องให้ทหารคืนประชาธิปไตยให้ประชาชนเร็วที่สุด
2. ไม่มีแถลงประณาม โดยอ้างว่าไม่แทรกแซงกิจการภายในของเพื่อนบ้าน

การประณามรัฐประหารไม่ใช่การแทรกแซง แต่คือการยืนยันหลักการสากล เรื่องปชต.”

นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรองนายกฯ และรัฐมนตรีศึกษาธิการ กล่าวว่า “การรัฐประหารในเมียนมาร์เป็นความเสียหายใหญ่หลวงต่อโลกประชาธิปไตย ภูมิภาคอาเซียนและประชาชนเมียนมาร์ทั้งประเทศ
หวังว่าประชาคมโลกจะช่วยกันยับยั้งไม่ให้เมียนมาร์ย้อนยุคและถลำลึกไปสู่ระบอบเผด็จการ

ขอให้กำลังใจประชาชนเมียนมาร์ในการนำพาประเทศกลับสู่ความเป็นประชาธิปไตย #SaveMyanmar
ประชาชนไทยย่อมมีสิทธิ์โดยชอบธรรมที่จะร่วมกับชาวโลกเรียกร้องให้มีการปล่อยตัวอองซานซูจีและนักการเมืองที่มาจากการเลือกตั้งที่ถูกคุมตัวอยู่ #SaveMyanmar #saveเมียนมาร์

การเรียกร้องผลักดันให้ล้มเลิกการรัฐประหารเพื่อให้เมียนมาร์เดินหน้าในการเปลี่ยนผ่านสู่ประชาธิปไตยต่อไป เป็นสิ่งจำเป็นที่ผู้รักสันติ และประชาธิปไตยทั่วโลกไม่อาจนิ่งดูดาย ร่วมกัน #SaveMyanmar #saveเมียนมาร์

ที่เราควรร่วมกับชาวพม่าและชาวโลกเรียกร้องประชาธิปไตยในเมียนมาร์ ไม่ใช่เพราะเราคนไทยอยู่ในประเทศที่เป็นประชาธิปไตยกว่าเขา แต่เป็นเพราะเราก็มีประสบการณ์และเข้าใจความเลวร้ายของระบอบเผด็จการเป็นอย่างดีเหมือนกัน #savemyanmar #saveเมียนมาร์”

ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ส.ส.เพื่อไทย กทม. กล่าวว่า “ทหารไม่มีสิทธ์ในการล้วงล้ำอำนาจอธิปไตยของประชาชน 1 ก.พ. นางอองซานซูจีและสมาชิกพรรค NLD ถูกควบคุมตัวโดยทหารเพื่อทำการรัฐประหาร!!! ขอเรียกร้องให้ทหารพม่าหยุดกระทำการใดๆ และปล่อยตัวนางอองซานซูจีทันที!!! ไม่เห็นด้วยกับการทำรัฐประหารในทุกรูปแบบ #รัฐประหาร #NoCoupDetat #SaveMyanmar”

กลุ่มเยาวชนปลดแอก ออกแถลงการณ์ ระบุว่า “ด่วน! กองทัพเมียนมาร์ทำรัฐประหารแล้ว! โดยได้ควบคุมตัวอองซานซูจี, วิน มินต์ รวมทั้งสมาชิกคนอื่นๆ ในพรรครัฐบาลที่เพิ่งชนะเลือกตั้ง และได้ทำการปิดกั้นการสื่อสาร โดยทหารได้ออกมาควบคุมสถานการณ์ตามท้องถนนของเนปิดอว์และย่างกุ้ง

กองทัพเมียนมาร์อ้างเหตุผลว่าทหารเคยเรียกร้องให้พรรค NLD เลื่อนการประชุมสภาครั้งแรกในวันนี้ออกไปก่อน ซึ่งพรรค NLD ชนะการเลือกตั้งในครั้งนี้และได้ที่นั่งในสภามากพอที่จะจัดตั้งรัฐบาลได้ แต่กลุ่มทหารอ้างว่าการเลือกตั้งนั้นเป็นไปอย่างไม่โปร่งใส แม้จะยังไม่ปรากฏหลักฐานตามที่กล่าวหา

ในภูมิภาคอันอุดมสมบูรณ์ด้วยทรัพยากรนี้ ผู้คนกลับต้องอดอยากแร้นแค้น และไร้ซึ่งปากเสียงในการกำหนดอนาคตของตนเอง

เราขอเรียกร้องให้การกระทำรัฐประหารที่จะนำพาเมียนมาร์กลับไปสู่ระบอบเผด็จการนั้นสิ้นสุดโดยเร็ว และขอประชาธิปไตยจงบังเกิดแก่ภูมิภาคนี้”

พรรคเพื่อไทย เปิดเผยผ่านเฟซบุ๊กว่า พรรคเพื่อไทย และนักการเมืองฝ่ายประชาธิปไตย ที่เคยเป็นเหยื่อการรัฐประหารของกองทัพ ขอประณามการใช้กำลังเข้ายึดอำนาจการปกครองของกองทัพเมียนมา โดยไม่เคารพในสิทธิและเสรีภาพตามระบอบประชาธิปไตยและไม่เคารพในฉันทามติโดยสุจริตของประชาชน

พรรคเพื่อไทยขอเรียกร้องให้ปล่อยตัวนักการเมือง และนักเคลื่อนไหวทางการเมืองที่ถูกควบคุมตัวไว้โดยทันที

กลุ่มราษฎร กล่าวว่า “หยุดวงจรรัฐประหารโสมม คืนอำนาจอธิปไตยให้ประชาชน

หลังจากมีข่าวลือมาหลายวันว่ากองทัพเมียนมาร์จะทำรัฐประหาร เนื่องจากพรรคสหสามัคคีและการพัฒนา (ยูเอสดีพี – USDP) ประกาศไม่ยอมรับและต่อต้านผลการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาทุกวิถีทาง กองทัพได้เข้ามากดดันให้เลื่อนการประชุมสภาผู้แทนราษฎรในวันนี้ออกไป แต่การเจรจาไม่เป็นผล

เช้าวันนี้รัฐประหารเกิดขึ้นแล้ว โฆษกพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (NLD) แจ้งว่าออง ซาน ซูจี รัฐมนตรีและนักกิจกรรมประชาธิปไตยหลายคนถูกจับตัวไป ในกรุงย่างกุ้งและเนปิดอว์การสื่อสารทั้งทางโทรศัพท์และอินเทอร์เน็ตถูกตัดขาด รวมถึงมีทหารควบคุมพื้นที่ตามท้องถนน โทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในเมียนมาร์เป็นเวลา 1 ปี โดยมีนายพลมินส่วย อดีตผู้บัญชาการกองทัพ ทำหน้าที่รักษาการประธานาธิบดี

ราษฎรขอยืนเคียงข้างพี่น้องชาวเมียนมาร์บนเส้นทางสู่ประชาธิปไตย และขอเรียกร้องให้รัฐบาลไทยประสานความร่วมมือดูแลความปลอดภัยของคนไทยในเมียนมาร์โดยเร็วที่สุด”

ทราย เจริญปุระ โพสต์เฟซบุ๊กว่า “#ขอประณามการกระทำของ พล.อ.มิน อ่อง ลาย หนึ่งในลูกบุญธรรมของ พล.อ.เปรม ทำการรัฐประหารในประเทศพม่า จับนางอองซาน ซูจี รวมถึงผู้นำหลายๆคน และตัดสัญญาณโทรศัพท์ ตัดอินเตอร์เน็ต”

นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย แถลงถึงการรัฐประหารในประเทศเมียนมา ว่า ตนเห็นว่า การรัฐประหารจะทำให้เศรษฐกิจประเทศเมียนมาเสื่อมถอยไปหลายปี เหมือนประเทศไทยที่ทุกครั้งที่มีการรัฐประหารประเทศก็เสื่อมถอย ทั้งที่เศรษฐกิจที่ผ่านมาของเมียนมาดีมาตลอด ดังนั้น ขอให้รัฐบาลไทยดูแลนักลงทุนไทยที่ลงทุนในประเทศเมียนมาด้วย

ขณะที่ นายเทพไท เสนพงศ์ อดีตส.ส.ประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ขอประณามการยึดอำนาจของคณะทหาร เพื่อรัฐประหารรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน ผู้รักประชาธิปไตยจงร่วมกันต่อต้านเผด็จการทุกรูปแบบ

ขัตติยา สวัสดิผล อดีตส.ส.เพื่อไทย กล่าวว่า ไม่มีประเทศใดที่ปกครองในระบอบประชาธิปไตยจะเจริญด้วยการปฏิวัติรัฐประหาร ประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาเป็นบทพิสูจน์ทฤษฎีนี้ได้ดี กำลังทหารไม่ใช่กลุ่มที่จะตัดสินว่าการเลือกตั้งถูกต้องหรือไม่ ประชาชนฉลาดพอที่จะเรียนรู้ได้เอง
ขอประณามการพยายามทำรัฐประหารของประเทศเมียนมา และขอเรียกร้องให้รัฐบาลไทยเตรียมดูแลความปลอดภัยของคนไทยในพม่าให้เร็วที่สุด ไม่ใช่มัวแต่ดีใจที่มีเพื่อนบ้านเข้าพวกเผด็จการเหมือนกัน #เมียนมาร์ #SaveMyanmar
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image