พบแล้วแม่เฒ่าวัย 81 เหยื่อพลุระเบิด ที่สูญหายเป็นศพ เศษเนื้อกระจาย

พบแล้วแม่เฒ่าวัย 81 เหยื่อพลุระเบิด ที่สูญหาย เป็นศพ เศษเนื้อกระจาย 

เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ ความคืบหน้าเหตุพลุระเบิดในพื้นที่หมู่ 3 ตำบลหนองหญ้าไทร อำเภอสากเหล็ก จังหวัดพิจิตร โดยล่าสุดเจ้าหน้าที่กู้ชีพกู้ภัยในพื้นที่อำเภอสากเหล็ก รวมถึงประชาชนจิตอาสา ร่วมกันปูพรมเดินเท้าค้นหาบุคคลสูญหายในเหตุการณ์ดังกล่าว ซึ่งเป็นหญิงชราวัย 81 และเป็นมารดาของนายประเสริฐ พรมชาติ เจ้าของโรงงานพลุเถื่อนที่อยู่ระหว่างหลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยในเศษซากปรักหักพังของบ้านต้นเพลิง เลขที่ 84 หมู่ที่ 3 พบเศษชิ้นส่วนมนุษย์ถูกซากปรักหักพังทับอยู่ และญาติได้เข้าตรวจสอบและยืนยันว่าเป็นศพหญิงชราวัย 81 ปี คือนางจำเนียน พรมวิเศษ ที่สูญหายไป เนื่องจากมีเข็มขัดที่หญิงชราใช้รัดเอวเป็นวัตถุพยานยืนยันในที่เกิดเหตุ ทำให้จนถึงขณะนี้มีผู้เสียชีวิตรวมเป็น 6 ราย และบาดเจ็บที่ยังรักษาตัวในโรงพยาบาลของรัฐอีก 1 ราย มีบ้านเรือนประชาชนพังเสียหายสิ้นเชิง 4 หลัง และบ้านเรือนประชาชน ที่ได้รับผลกระทบ พังเสียหายบางส่วน 18 หลังรวม 21 หลังคาเรือน ทั้งนี้ยังไม่รวมยุ้งข้าว และสิ่งสาธารณูปโภคอีก

ต่อมาเวลา 10.00 น.นายรังสรรค์ ตันเจริญ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร พร้อมเจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ อบต.หนองหญ้าไทร และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้วางมาตรการเยียวยา ช่วยเหลือประชาชนโดยรอบที่เกิดเหตุ โดยมีบ้านเรือนประชาชนที่ได้รับผลกระทบ จำนวน 22 ครัวเรือน ซึ่งมีบ้านเรือนเสียหายทั้งหลัง จำนวน 4 หลังคาเรือน จะได้รับเงินช่วยเหลือจากทางราชการ จำนวนหลังละ 49,500 บาท ในส่วนบ้านที่เสียหาย จะทำการซ่อมแซมส่วนที่เสียหาย

นายรังสรรค์ ตันเจริญ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร กล่าวว่า ในส่วนผู้เสียชีวิตเหตุการณ์ครั้งมี เบื้องต้นตามรายงาน รวม 6 ราย เป็นคนงาน 4 ราย และอีก 1 ราย เป็นเด็กชายวัย 2 ขวบ ที่อยู่ข้างโรงงานพลุระเบิด และผู้สูงอายุ ที่หายตัวไป คาดว่าจะเสียชีวิตในโรงประกอบพลุที่ระเบิด เนื่องจากพบเข็มขัดของผู้สูงอายุ ซึ่งต้องรอพิสูจน์อัตลักษณ์ต่อไป ในส่วนเจ้าของโรงพลุ เบื้องต้นได้ติดต่อขอเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในวันอาทิตย์ที่จะถึงนี้ นอกจากนี้ จังหวัดพิจิตรยังประกาศให้พื้นที่ในหมู่บ้านดังกล่าวเป็นเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัย เพื่อให้ส่วนราชการ หน่วยงาน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องเข้าดำเนินการตามอำนาจ หน้าที่ ในเขตพื้นที่ประสบภัยดังกล่าวภายใต้พระราชบัญญัติป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ.2550 แต่จะช่วยเหลือเฉพาะชาวบ้านและบ้านเรือนที่ได้รับผลกระทบ ส่วนบ้านผู้ก่อเหตุและผู้ร่วมก่อเหตุตามกฎหมายจะไม่ได้สิทธิดังกล่าวนี้

Advertisement

 

Advertisement

ด้าน พล.ต.ตสาธิต ก้อนแก้ว ผู้บังคับการศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 6 ได้เรียกชุดดรีมทีม ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญในการพิสูจน์หลักฐานจากจังหวัดพิจิตร พิษณุโลก นครสวรรค์ กำแพงเพชร ตากและ สุโขทัยรวม 6 จังหวัดกว่า 30 นาย มาระดมลงพื้นที่หาวัตถุพยานเพื่อเป็นหลักฐานถึงสาเหตุของโรงงานระเบิดปิงปองระเบิดในครั้งนี้ พร้อมทั้งการเรียกประชุมเพื่อสรุปสถานการณ์โดยพบจุดที่ระเบิดก่อนหลังจำนวน 7 จุด สารประกอบในการทำระเบิดปิงปอง วัตถุพยานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีกหลายสิบรายการ โดยเฉพาะชิ้นส่วนมนุษย์ กว่า 20 ชิ้น ที่จะทำการส่งไปพิสูจน์ DNA ยืนยันอัตลักษณ์บุคคล

ต่อมาพนักงานสอบสวน สภ.สากเหล็ก ได้เรียกนางชญาดา ท้าวเจริญ อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 2 หมู่ 10 ตำบลพันชาลี อำเภอวังทอง จังหวัดพิษณุโลก ซึ่งเป็นภรรยาของนายประเสริฐ พรมวิเศษ อายุ 48 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของโรงงานระเบิดปิงปองและรอดตายอย่างหวุดหวิด ซึ่งในช่วงที่เกิดเหตุไม่ได้อยู่ภายในโรงงาน มาทำการสอบสวน

สำหรับเหตุการณ์ระเบิดในครั้งนี้ คาดจะมีผู้เสียชีวิตจำนวน 6 ราย เป็นคนงาน 4 ราย คือ นายศิวกร พรมวิเศษ นายเกรียงไกร ท้าวเจริญ นายประดิษฐ์ มีคำ นางสาวสมทรง สุทธิชัง และเด็กชาย อธิวัฒน์ พวงมาลา อายุ 2 ขวบ ที่อาศัยข้างบ้านที่เกิดเหตุ ได้รับบาดเจ็บจากแรงระเบิดจนบ้านพังลงมาทับ และนางจำเนียร พรมวิเศษ อายุ 81 ปี ที่คาดว่าเสียชีวิต จากการพบเข็มขัดในที่เกิดเหตุ ส่วนนายประเสริฐ พรมวิเศษ เจ้าของโรงพลุที่อยู่ระหว่างติดต่อมอบตัว ต้องสูญเสียลูกชายคือนายศิวกร พรมวิเศษ และมารดาคือนางจำเนียร พรมวิเศษ ที่เสียชีวิตจากเหตุระเบิดในครั้งนี้ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ จะนำมาทำการสอบสวนหลังจากเจ้าของโรงพลุเถื่อนเข้ามามอบตัว เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image