8 กุมภาพันธ์ : จ๊อบส์ ดีบี (JobsDB) แพลตฟอร์มหางานระดับเอเชีย เผยแพร่รายงานอัตราเงินเดือนของพนักงานไทยประจำปี 2564 (Salary Report 2021) ข้อมูลฐานเงินเดือนต่ำสุด-สูงสุดแบ่งตามประเภทงาน ครอบคลุมตั้งแต่ระดับเจ้าหน้าที่ถึงระดับผู้บริหาร พบว่า ในปี 2563 จากสถานการณ์โควิด-19 และการพัฒนาอย่างต่อเนื่องของเทคโนโลยีและนวัตกรรมในทุกภาคส่วน ส่งผลเป็นวงกว้างทำให้ภาคธุรกิจและองค์กรต่าง ๆ หันมาประยุกต์และปรับตัวให้สามารถอยู่รอดได้ในสถานการณ์เศรษฐกิจปัจจุบัน อีกทั้งเติบโตไปพร้อมกับแพลตฟอร์มใหม่ ๆ ที่กำลังได้รับความนิยม เพื่อขับเคลื่อน ผลักดันให้ธุรกิจก้าวทันโลกที่กำลังเปลี่ยนไป จึงเป็นเหตุให้ความต้องการในตลาดแรงงานส่วนใหญ่เกิดการเปลี่ยนแปลงและมีการจ่ายผลตอบแทนเพื่อดึงดูดคนทำงานเพิ่มมากขึ้นในสายเฉพาะทาง
รายงานอัตราเงินเดือน ในระดับเจ้าหน้าที่ (Officer Level) พบว่า สายงานที่มีฐานเงินเดือนสูงสุด ได้แก่ 1.สายงานไอที 2.สายงานบริการเฉพาะทาง 3.สายงานโทรคมนาคม ขณะที่ระดับหัวหน้างาน (Supervisor Level) รายได้สูงสุด อันดับ 1.สายงานอีคอมเมิร์ซ 2.สายงานโทรคมนาคม 3.สายงานไอที นอกจากนี้ยังมีรายงานระดับผู้จัดการ (Manager Level) ที่ 3 อันดับแรก คือ 1.สายงานประกันภัย 2.สายงานไอที 3.สายงานธนาคาร และระดับผู้บริหาร (Top Level) ที่ 3 อันดับแรก ประกอบด้วย 1.สายงานบริการเฉพาะทาง 2.สายงานอีคอมเมิร์ซ และ 3.สายงานธนาคาร ที่มีอัตราเงินเดือนสูงสุด
สำหรับความต้องการแรงงานในปี 2563 ได้สะท้อนแนวโน้มการจ้างงานในปีนี้ของหลายภาคธุรกิจ โดยงานไอทีเป็นสายงานที่มียอดตำแหน่งงานเปิดรับสูงที่สุด
นางสาวพรลัดดา เดชรัตน์วิบูลย์ ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท จัดหางาน จ๊อบส์ ดีบี (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า จ๊อบส์ ดีบี ได้จัดทำรายงานอัตราเงินเดือนของพนักงานไทยประจำปี 2564 (Salary Report 2021) ใน 4 ระดับดังกล่าว โดยระดับเจ้าหน้าที่ สายงานไอที มียอดเงินเดือนเริ่มต้นสูงสุดระหว่าง 23,225-41,122 บาท สายงานบริการเฉพาะทาง ระหว่าง 22,872-39,331 บาท สายงานโทรคมนาคม ระหว่าง 22,785-38,612 บาท สายงานบริการด้านการแพทย์ ระหว่าง 21,945-37,320 บาท สายงานอีคอมเมิร์ซ ระหว่าง 21,599-35,283 บาท สายงานวิศวกรรม ระหว่าง 21,406-35,571 บาท สายงานธนาคาร ระหว่าง 21,036-37,623 บาท สายงานประกันภัย ระหว่าง 21,025-34,860 บาท สายงานจัดซื้อ ระหว่าง 20,829-33,442 บาท และสายงานการตลาดและประชาสัมพันธ์ ระหว่าง 20,524 -32,589 บาท
นางสาวพรลัดดา กล่าวว่า ระดับหัวหน้างาน สายงานอีคอมเมิร์ซ มียอดเงินเดือนเริ่มต้นสูงสุดระหว่าง 36,857-64,787 บาท สายงานโทรคมนาคม ระหว่าง 36,541-67,134 บาท สายงานไอที ระหว่าง 36,522-66,920 บาท สายงานบริการเฉพาะทาง ระหว่าง 35,962-63,888 บาท สายงานประกันภัย ระหว่าง 35,802-63,790 บาท สายงานบัญชี ระหว่าง 35,252-58,403 บาท สายงานธนาคาร ระหว่าง 35,124-64,460 บาท สายงานขนส่ง ระหว่าง 35,049-55,624 บาท สายงานการตลาดและประชาสัมพันธ์ ระหว่าง 35,037- 59,943 บาท และสายงานธุรการและงานทรัพยากรบุคคล ระหว่าง 34,919-56,372 บาท
ระดับผู้จัดการ สายงานประกันภัย มียอดเงินเดือนเริ่มต้นสูงสุดระหว่าง 55,762 -90,716 บาท สายงานไอที ระหว่าง 54,435-93,324 บาท สายงานธนาคาร ระหว่าง 52,993-94,481 บาท สายงานโทรคมนาคม ระหว่าง 52,353-94,607 บาท สายงานบริการเฉพาะทาง ระหว่าง 52,274-90,941 บาท สายงานบัญชี ระหว่าง 52,061-86,158 บาท สายงานธุรการและงานทรัพยากรบุคคล ระหว่าง 51,803-85,079 บาท สายงานวิทยาศาสตร์ งานห้องปฏิบัติการ และงานวิจัยพัฒนา ระหว่าง 51,615-88,427 บาท สายงานขนส่ง ระหว่าง 51,302-80,680 บาท และสายงานวิศวกรรม ระหว่าง 51,237-84,776 บาท
ระดับผู้บริหาร สายงานบริการเฉพาะทาง มียอดเงินเดือนเริ่มต้นสูงสุดระหว่าง 113,563-164,071 บาท สายงานอีคอมเมิร์ซ ระหว่าง 113,271-161,588 บาท สายงานธนาคาร ระหว่าง 112,917-165,114 บาท สายงานวิทยาศาสตร์ งานห้องปฏิบัติการ และงานวิจัยพัฒนา ระหว่าง 109,726-160,753 บาท สายงานการผลิต ระหว่าง 109,566-161,045 บาท สายงานบริการด้านการแพทย์ ระหว่าง 106,630-158,478 บาท สายงานไอที ระหว่าง 105,135-160,033 บาท สายงานบัญชี ระหว่าง 104,978-159,970 บาท สายงานธุรการและงานทรัพยากรบุคคล ระหว่าง 104,714-156,134 บาท และสายงานวิศวกรรม ระหว่าง 102,298-153,763 บาท
นางสาวพรลัดดา กล่าวว่า จากรายงานอัตราเงินเดือนข้างต้น พบว่า สายงานไอที-ดิจิทัล ทุกระดับงานไต่อันดับขึ้นเมื่อเทียบกับผลการสำรวจเมื่อ 2 ปีก่อน โดยเฉพาะในระดับเจ้าหน้าที่ ที่ขึ้นแท่นอันดับ 1 จากอันดับ 3 อีกทั้งระดับหัวหน้างาน และระดับผู้บริหาร ติดโผสายงานหน้าใหม่ที่มีเงินเดือนสูง จากที่เคยอยู่ในอันดับ 13 และ 12 ตามลำดับ ตอกย้ำให้เห็นถึงความต้องการคนทำงานจากผลของการปฏิรูปและประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัล (Digital Disruption)
นอกจากนี้ ยังมีอีกสองสายงานที่น่าจับตามอง ได้แก่ สายงานโทรคมนาคม ที่ขึ้นมาติดอันดับ 1 ใน 5 ในระดับเจ้าหน้าที่ ระดับหัวหน้างาน และระดับผู้จัดการ สายงานธนาคาร ที่ปรับขึ้นมาติดอันดับ 1 ใน 10 ของรายงานในทุกระดับงาน สะท้อนให้เห็นถึงโอกาสการเติบโตของทั้งสองสายงานหลังการปฏิรูปและประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัล (Digital Disruption) เช่นกัน เห็นได้จากธนาคารต่าง ๆ ที่หันมาให้ความสำคัญกับ Digital Banking จนมียอดธุรกรรมออนไลน์เพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว และปรับรูปแบบการให้บริการของธนาคารสู่ดิจิทัลเต็มตัว เป็นเหตุให้สายงานธนาคาร มีความต้องการบุคลากรที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญทางด้านไอที การวิเคราะห์ข้อมูล การสร้างบริการใหม่ ๆ มาช่วยพัฒนาระบบ Digital Banking และสายงานโทรคมนาคม ที่พบว่า ไม่ได้มีเพียงแค่องค์กรยักษ์ใหญ่เท่านั้นที่มีสถิติฐานเงินเดือนที่สูงขึ้น แต่ยังรวมถึงองค์กรขนาดกลางและเล็กที่ลงสนามแข่งขันเพื่อแย่งชิงบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถด้านไอทีมาช่วยพัฒนารากฐานระบบต่าง ๆ ขององค์กร ให้พร้อมต่อการประยุกต์ใช้ดิจิทัลเทคโนโลยีในภาคเศรษฐกิจ ประกอบกับสถานการณ์โควิด-19 ในปัจจุบัน ที่สร้างปรากฏการณ์นิวนอร์มอล (New Normal) ทำให้หลายองค์กรต้องหันมาปรับตัวพึ่งพาแพลตฟอร์มดิจิทัลต่าง ๆ มากขึ้นอีกด้วย
นางสาวพรลัดดา กล่าวว่า รายงานความต้องการแรงงานประจำปี 2563 ได้สะท้อนแนวโน้มการกลับมาของหลายภาคธุรกิจในปีนี้ โดย 10 อันดับสายงานที่กำลังเป็นที่ต้องการในตลาด อันดับหนึ่ง สายงานไอที คิดเป็น 19% ตามด้วยสายงานขาย งานบริการลูกค้า และพัฒนาธุรกิจ คิดเป็น 17% สายงานวิศวกรรม คิดเป็น 10% สายงานการตลาดและประชาสัมพันธ์ คิดเป็น 8% สายงานบัญชี คิดเป็น 7% สายงานธุรการและงานทรัพยากรบุคคล คิดเป็น 7% สายงานธนาคาร คิดเป็น 5% สายงานการผลิต คิดเป็น 3% สายงานขนส่ง คิดเป็น 3% และสายงานบริการเฉพาะทาง คิดเป็น 2% ทั้งนี้ ตลาดแรงงานในยุคดิจิทัล ผู้ที่ต้องการได้งานต้องมี 3 ทักษะยุคนิว นอร์มอล ได้แก่ ทักษะความรู้ด้านไอที ความสามารถในการสื่อสาร และความสามารถในการรู้จักและเข้าใจตัวเอง
