ตร.ปอศ.บุกรวบทีมงานคอลเซ็นเตอร์แดนมังกรหนีคดี 11 ปีคาบ้านพัก

เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ พล.ต.ต.ไมตรี ฉิมเฉิด ผู้บังคับการกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (ผบก.ปอศ.) พ.ต.อ.ทัศน์ภูมิ จารุปรัชญ์ รอง ผบก.ปอศ. พ.ต.อ.อภิชน เจริญผล รอง ผบก.ปอศ. และ พ.ต.อ.ภาดล จันทร์ดอน ผกก.5 บก.ปอศ. พ.ต.ท.กริช วรทัต รอง ผกก.5 บก.ปอศ. นำกำลังจับกุมนายปราโมทย์ (สงวนนามสกุล)ได้ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งใน ต.เสาธงหิน อ.บางใหญ่ จ.นนทุบรี ตามหมายจับศาลอาญา ความผิดฐาน “ร่วมกันใช้หรือมีไว้เพื่อนำออกใช้ซึ่งบัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน เป็นการกระทำเกี่ยวกับบัตรอิเล็กทรอนิกส์ ที่ผู้ออกได้ออกให้แก่ผู้มีสิทธิ์ใช้เพื่อประโยชน์ในการชำระค่าสินค้า ค่าบริการ หรือใช้เบิกเงินสด”

พ.ต.อ.ภาดล เปิดเผยว่าสืบเนื่องจาก เมื่อปี พ.ศ. 2553 มีกลุ่มบุคคลใช้วิธีการหลอกลวงในรูปแบบคอลเซ็นเตอร์ ตั้งฐานอยู่ในต่างประเทศ และ ใช้ระบบโทรศัพท์ผ่านระบบอินเตอร์เน็ต โทรมาหลอกลวงให้ผู้เสียหายชาวไทยไปทำธุรกรรมที่ตู้เอทีเอ็ม และให้โอนเงินไปตามบัญชีเงินฝากที่ทางคอลเซ็นเตอร์ ได้แจ้งไปสร้างความเสียหายต่อพี่น้องประชาชนเป็นวงกว้าง มีผู้เสียหายหลายรายมาแจ้งความที่ กก.5 บก.ปอศ. มูลค่าความเสียหายกว่า 2 ล้านบาท ต่อเมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2553 ตำรวจติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาชาวจีนจำนวน 4 คน ได้แก่ 1.นายหลิน หยางเจิ้น 2.นายหวัง เซินหง 3.นายเหลี่ยว ไค่ย หมิง และ 4.น.ส.เฉิน หยิง ซึ่งมีหน้าที่ชักชวนคนไทยให้ไปเปิดบัญชีธนาคารพร้อมเอาบัตรเอทีเอ็มมาใช้ในการกระทำความผิด โดยผู้ต้องหาทั้งสี่คนถูกดำเนินคดีในความผิดฐาน ” ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นคนอื่น ร่วมกันใช้หรือมีไว้เพื่อนำออกใช้ซึ่งบัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน เป็นการกระทำเกี่ยวกับบัตรอิเล็กทรอนิกส์ ที่ผู้ออกได้ออกให้แก่ผู้มีสิทธิ์ใช้เพื่อประโยชน์ในการชำระค่าสินค้า ค่าบริการ หรือใช้เบิกเงินสด ” และจากการขยายผลการจับกุมพบว่ายังมีคนไทยร่วมกระทำความผิดอีกหลายคน ซึ่งถูกจับกุมตัวดำเนินคดีไปแล้ว ยังเหลือนายปราโมทย์

พ.ต.อ.ภาดล เปิดเผยว่าคดีดังกล่าวแม้จะล่วงเลยมานานกว่า 11 ปีแล้ว แต่บก.ปอศ. เล็งเห็นว่าการกระทำดังกล่าวเป็นภยันตรายต่อความสงบเรียบร้อย บ่อนทำลายระบบเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ สร้างความเดือดร้อนแก่กลุ่มคนที่หลงเชื่อเป็นจำนวนมาก จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายชุดสืบสวน กก.5 บก.ปอศ. ติดตามจับกุมผู้ต้องหาที่ยังหลงเหลือในคดีนี้ให้ครบถ้วนจึงนำส่งพนักงานสอบสวน กก.5 บก.ปอศ. ดำเนินคดีต่อไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image