ทนสังคมกดดันไม่ไหว…จัสติน ยอมขอโทษ บริตนีย์-เจเน็ต ต่อเรื่องในอดีต

ทนสังคมกดดันไม่ไหว…จัสติน ยอมขอโทษ บริตนีย์-เจเน็ต ต่อเรื่องในอดีต

รอยเตอร์ รายงานว่า เมื่อวันศุกร์ที่ 12 กุมภาพันธ์ จัสติน ทิมเบอร์เลก นักร้องดังชาวอเมริกันวัย 40 โพสต์ไอจีสารภาพผิด ขอโทษ บริตนีย์ สเปียร์ส นักร้องดังอดีตคนรัก และ เจเน็ต แจ๊กสัน นักร้องดังเพื่อนร่วมอาชีพ ต่อความผิดพลาดที่เขาเคยทำต่อเธอทั้งสองในอดีต และไม่ได้ขอโทษ หรือทำสิ่งที่ควรทำในเวลานั้น

จัสตินออกมาโพสต์ไอจีขอโทษ หลังจากถูกกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในสื่อโซเชียลต่อคำสัมภาษณ์ที่ทิมเบอร์เลกเคยกล่าวไว้เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ถึงชีวิตบนเตียงระหว่างเขากับบริตนีย์ สเปียร์ส ระหว่างที่ทั้งสองคบหาเป็นแฟนกัน และต่างอยู่ในจุดที่กำลังโด่งดัง ประสบความสำเร็จในอาชีพนักร้องด้วยกันทั้งคู่ โดยกระแสวิพากษ์ วิจารณ์เกิดขึ้น หลังจากบริตนีย์ วัย 39 ตกเป็นข่าวอีกครั้งในคดีที่เธอร้องศาลขอให้ถอดนายเจมี สเปียร์ส พ่อแท้ๆ ออกจากการเป็นผู้พิทักษ์ผลประโยชน์ และศาลสูงลอสแองเจลิสเปิดพิพากษาคดีอีกครั้งเมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ โดยมีผู้สนับสนุนบริตนีย์ออกมาถือป้ายที่หน้าศาลเรียกร้องให้ปลดปล่อยบริตนีย์ให้เป็นอิสระ ขณะที่ในสัปดาห์เดียวกันนี้ ก็มีหนังสารคดีตีแผ่ชีวิตในช่วงรุ่งโรจน์และตกต่ำของบริตนีย์ออกมา ซึ่งในเนื้อหามีการพูดถึงว่าบริตนีย์ตกเป็นข่าวน่าอับอายอย่างไร เมื่อความสัมพันธ์ของเธอกับจัสตินต้องปิดฉากลงเมื่อปี 2545

ขณะที่ในกรณีของเจเน็ต แจ๊กสัน จัสตินก็ถูกตำหนิตลอดหลายปีที่ผ่านมาว่าไม่แสดงความรับผิดชอบอย่างเพียงพอต่อเหตุการณ์น่าอับอายอันเกิดจากชุดเสื้อผ้าที่ เจเน็ต แจ๊กสัน ใส่ขึ้นแสดงบนเวทีรายการแข่งขันซุปเปอร์ โบว์ล ปี 2547 ที่หลุดเผยให้เห็นเต้านม ระหว่างร้องเพลงคู่กับจัสติน

“ผมอยากกล่าวขอโทษต่อ บริตนีย์ สเปียร์ส และ เจเน็ต แจ๊กสัน เป็นรายบุคคลโดยเฉพาะ เพราะผมแคร์และเคารพต่อผู้หญิงทั้งสองคนนี้ และผมรู้ดีว่าผมล้มเหลว” จัสติน ซึ่งตอนนี้เป็นสามีของ เจสสิกา บีล นักแสดงฮอลลีวู้ด กล่าวว่ารู้สึกเสียใจที่ไม่ได้พูดในสิ่งที่ควรพูดในตอนนั้น

“ผมเข้าใจดีว่าผมไม่ได้ทำสิ่งที่ควรทำในช่วงเวลานั้นและอีกหลายเหตุการณ์ และได้ประโยชน์จากระบบที่ไม่เอาผิดต่อการเหยียดผู้หญิงและเหยียดเชื้อชาติสีผิว และเพราะความเพิกเฉยของผม การที่ผมไม่ได้ตระหนักถึงสิ่งทั้งหมดตอนที่มันกำลังเกิดขึ้นในชีวิตของผม”

จัสตินและบริตนีย์ คบเป็นแฟนกันอยู่ 3 ปี ก่อนจะเลิกกันปุบปับในปี 2545 ซึ่งบริตนีย์ถูกสื่อถามเกี่ยวกับเรื่องความเป็นสาวบริสุทธิ์ของเธอ ขณะที่จัสตินให้สัมภาษณ์สื่อว่า เขาเคยหลับนอน มีเพศสัมพันธ์กับบริตนีย์ แล้วต่อมายังแต่งเพลง “Cry Me a River” ที่จัสตินบอกเป็นนัยว่า บริตนีย์นอกใจเขาระหว่างที่คบเป็นแฟนกัน

เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่