ชาวบ้านรอบเหมืองทองวอน รัฐเห็นใจ เร่งพิจารณาเปิดเผยผลกระทบเรื่องปากท้อง 

ชาวบ้านรอบเหมืองทองวอน รัฐเห็นใจ เร่งพิจารณาเปิดเผย ผลกระทบเรื่องปากท้อง 

เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ นายอำนาจ ศรีศาสตร์ อายุ 41 ปี บ้านเลขที่ 989 หมู่ที่ 3 บ้านเขาดิน ต.เขาเจ็ดลูก อ.ทับคล้อ จ.พิจิตร อดีตพนักงานเหมืองทอง กล่าวว่า จากกรณีที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ใช้อำนาจพิเศษตามมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว สั่งปิดเหมืองแร่ทองคำชาตรี ของบริษัทอัครา รีซอร์สเซส จำกัด ที่ระงับการประกอบกิจการตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2560 ทำให้เกิดปัญหาอย่างยิ่งกับชาวบ้านในพื้นที่รอบๆ เหมืองแร่ทองคำชาตรี ใน อ.ทับคล้อ จ.พิจิตร อ.วังโป่ง จ.เพชรบูรณ์ และ อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก ซี่งเป็นผู้ได้รับผลกระทบโดยตรงต่อกรณีดังกล่าว เนื่องจากชาวบ้านรอบๆ เหมืองแร่ทองคำหลายพันคนได้เป็นพนักงาน ลูกจ้าง และคนงานภายในเหมืองทอง ถือว่าเป็นรายได้หลักของครอบครัวเนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวประชาชนไม่สามารถทำการเกษตรได้ตลอดทั้งปี

นายอำนาจกล่าวอีกว่า จากปัญหาเรื่องแหล่งน้ำและภูมิประเทศที่ประสบภัยแล้งเป็นประจำ ชาวบ้านจึงต้องประกอบอาชีพสร้างรายได้ในเหมืองทองเป็นหลัก อีกทั้งมีอาชีพที่เป็นห่วงโซ่ต่อยอดต่างๆ ของชาวบ้านเช่น การค้าขาย อาหาร ที่พัก ร้านตัดผม ตลาดนัด ฯลฯ อีกทั้งที่ผ่านมาในพื้นที่รอบเหมืองทองเศรษฐกิจจะคึกคัก ค้าขายดีมีเม็ดเงินหมุนเวียนค่อนข้างมาก ประกอบกับมีเม็ดเงินค่าภาคหลวงหมุนเวียนเข้ารัฐอีกจำนวนมาก ดังนั้นวันนี้ชาวบ้านรอบๆ เหมืองทองในตำบลเขาเจ็ดลูก อำเภอทับคล้อ จังหวัดพิจิตร จึงวิงวอนให้รัฐบาลหรือผู้เกี่ยวข้องได้พิจารณาให้เปิดกิจการเหมืองแร่ทองคำเพื่อประชาชนจะได้มีงานทำ สร้างเศรษฐกิจชุมชนที่ซบเซาก็จะได้กลับมาคึกคัก และให้ชาวบ้านมีความเป็นอยู่ในเรื่องปากท้องให้ดีขึ้นต่อไป ตอนนี้เดือดร้อนหนักมากเมื่อก่อนทำงานในเหมืองเป็นอาชีพหลัก เลี้ยงครอบครัวส่งลูกเรียน แต่ตอนนี้เหมืองปิดมาหลายปีต้องหันมาทำนาเป็นหลักเลี้ยงครอบครัว แต่ด้วยอายุมากจะไปทำอย่างอื่นก็คงไม่ได้ อีกทั้งการทำนาในพื้นที่ก็จะทำได้ครั้งเดียว ทำให้รายรับที่ได้จากการทำนาไม่เท่ากับรายจ่าย ทำให้เป็นหนี้สินตามมา ซึ่งตนเองเป็นเสาหลักของครอบครัวก็ต้องดูแลภรรยาและบุตรที่กำลังเรียนอีก 3 คนตอนนี้เดือดร้อนมาก

Advertisement

ทางด้าน นายบุญยัง บุญชู อายุ 63 ปี  กล่าวว่า ชาวบ้านกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ที่อยู่รอบเหมืองต่างๆ รอความหวังที่จะได้เปิดเหมืองแร่ทองคำอีกครั้ง หลังจากเหมืองถูกสั่งให้ปิดชาวบ้านเดือดร้อนกันทั้งนั้น การค้าการขายก็เงียบเหงาซบเซาไม่เหมือนกับเมื่อก่อนที่เหมืองเปิดมีคนมาตลาดนัด แทบจะล้นตลาดการค้าการขายก็ดีไปหมด แต่ตอนนี้ซบเซาเงียบเหงาและเว้งว้างมาก เศรษฐกิจไม่ดีอีกด้วย ประกอบกับช่วงนี้การแพร่ระบาดโควิด-19 เข้ามาด้วยยิ่งทำให้ซบเซาไปใหญ่ ชาวบ้านเดือดร้อนกันมาก ซึ่งตนเองทำนาหลังจากเหมืองปิดมา 3 ปี ก็เป็นหนี้กว่า 3 แสนบาท แล้งก็แล้ง ราคาข้าวก็ตกต่ำอีก ทำให้เป็นหนี้สินเพิ่มเติม ไม่เหมือนเมื่อก่อนทำงานในเหมืองมีเงินหมุนเวียนจากเหมืองตลอด เพราะตนเองจบแค่ ป.4 ก็ทำงานกับเหมืองก็พออยู่ได้ ครอบครัวก็พอมีสุขไปด้วย หากินก็ง่ายและงานก็อยู่กับบ้าน ซึ่งทำงานกับเหมืองเราแค่ลงแรงเท่านั้นเราไม่ได้ลงทุน ซึ่งชาวบ้านส่วนใหญ่อยากให้เหมืองเปิดโดยเร็ว

ด้านนางบุญรัตน์ สีสุทธนา อายุ 34 ปี บ้านเลขที่ 439 ม.7 ต.เขาเจ็ดลูก อ.ทับคล้อ จ.พิจิตร อดีตแม่ค้าเขียงหมู ขายหมูชำแหละตลาดนัดรอบเหมืองทอง กล่าวว่า หลังจากเหมืองปิดไปกว่า 3-4 ปี ในฐานะชาวบ้านคนหนึ่งก็รู้สึกแย่มาก คุณภาพชีวิตแย่ลง ซึ่งเมื่อก่อนเคยค้าขายดี และเมื่อก่อนเศรษฐกิจมันจะดูดีกว่านี้ตอนเหมืองยังเปิดอยู่ แต่ตอนนี้เหมืองปิด ทำให้ตลาดก็ซบเซาแย่ลงมาก ตนเองจึงต้องหยุดค้าขายชั่วคราวก่อนเพราะขาดทุน เมื่อก่อนเคยเปิดเขียงหมู ชาวบ้านและคนกิน ขายดิบขายดี แต่ตอนนี้เหมืองปิดชาวบ้านและคนกินไม่มีกำลังซื้อจึงต้องเลิกขายหมูไปก่อน แต่ก่อนนี้เคยเป็นผู้ขายก็ยังไม่มีกำลังซื้อเลย ประกอบกับโควิดมาระบาดอีกทำให้ซบเซาไปกันใหญ่ ซึ่งชาวบ้านกว่า 99 เปอร์เซ็นต์รอบเหมืองทองอยากให้เหมืองทองกลับมาเปิดได้อีกครั้ง ชาวบ้านจะได้ลืมตาอ้าปากได้

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image