‘PRM’ กำไรโต 51.5% กว่า 1.7 พันล้าน สวนโควิด-19 เหตุบริหารจัดการดี ไฟเขียวปันผลประจำปี 63 อัตรา 0.25 บาท/หุ้น

นายวิริทธิ์พล จุไรสินธุ์ ผู้อำนวยการสายงานการเงินและบัญชี บริษัท พริมา มารีน จำกัด (มหาชน) หรือ PRM เปิดเผยว่า แม้ปี 2563 จะมีปัจจัยลบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา หรือ COVID-19 แต่บริษัทมีผลดำเนินงานปี 2563 กำไรสุทธิ 1,701.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 51.5 % เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมามีกำไรสุทธิ 1,122.5 ล้านบาท จากการปรับกลยุทธ์แต่ละกลุ่มธุรกิจให้เหมาะสมตามอุตสาหกรรม

โดยธุรกิจเรือขนส่งและกักเก็บปิโตรเลียมกลางทะเล หรือ FSU เป็นกลุ่มที่มีอัตราเติบโตโดดเด่น จากการใช้บริการของเรือจำนวน 8 ลำ การปรับอัตราค่าบริการในกักเก็บและผสมน้ำมันฯ และอัตราการใช้บริการที่เต็ม 100%

ขณะที่กลุ่มธุรกิจเรือขนส่งน้ำมันสำเร็จรูปภายในประเทศ ได้ปรับแนวทางดำเนินงานให้เหมาะสมกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 และการเดินทางระหว่างประเทศที่ลดลง โดยมุ่งเน้นรักษาอัตราการใช้เรือภายในกลุ่มฯให้อยู่ในเกณฑ์เฉลี่ยที่มากกว่า 90% และบริหารการใช้เรือ Outsource ให้เหมาะสม จึงทำให้ผลการดำเนินงานยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดี ขณะที่กลุ่มธุรกิจอื่นๆ ยังคงรักษาความสามารถในการดำเนินงานอยู่ในเกณฑ์ที่ดีเช่นกัน

นายวิริทธิ์พล กล่าวว่า จากผลดำเนินงานดังกล่าว ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2564 มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันงวดผลการดำเนินงานปี 2563 ให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราหุ้นละ 0.25 บาทต่อหุ้น โดยจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลไปแล้วเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2563 ในอัตราหุ้นละ 0.07 บาท ดังนั้น บริษัทฯ คงเหลือจ่ายเงินปันผลจากการดำเนินงานในปี 2563 ให้แก่ผู้ถือหุ้นอีก 0.18 บาทต่อหุ้น โดยแบ่งเป็นการจ่ายเงินปันผลจากกำไรสุทธิส่วนที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ในอัตรา 0.016 บาทต่อหุ้น และจ่ายจากกำไรสุทธิส่วนที่ไม่ได้รับการส่งเสริมการลงทุน (NON-BOI) ในอัตรา 0.164 บาทต่อหุ้น คิดเป็นเงินปันผลในครั้งนี้รวมทั้งสิ้น 450 ล้านบาท โดยบริษัทฯ กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับเงินปันผล (Record Date) ในวันที่ 5 พฤษภาคม 2564 และกำหนดจ่ายเงินปันผลวันที่ 20 พฤษภาคม 2564 โดยจะเสนอต่อที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2563 (AGM) เพื่อขอการอนุมัติต่อไป

Advertisement

นายวิริทธิ์พล กล่าวถึงการดำเนินธุรกิจในปี 2564 ว่าบริษัทฯ ตั้งเป้าการเติบโตไว้ที่ 10-15% โดยมีแผนงานในการขยายธุรกิจในทุกประเภทกลุ่มธุรกิจของ PRM ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจเรือขนส่งน้ำมันสำเร็จรูปทั้งในและระหว่างประเทศ ธุรกิจเรือขนส่งและกักเก็บหรือ FSU และ ธุรกิจเรือขนส่งและสนับสนุนการสำรวจและผลิตปิโตรเลียมกลางทะเลหรือ Offshore เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ พร้อมกันนี้ PRM จะเดินหน้าลงทุนเพื่อขยายขีดความสามารถการแข่งขันทางธุรกิจรวมถึงแสวงหาโอกาสการลงทุนในรูปแบบอื่นๆ เพื่อเข้ามาช่วยเสริมศักยภาพการดำเนินธุรกิจให้แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image