สาวติดคุก 21 เดือน ขอรับเงินเยียวยา ถูกจับคดียาเสพติด 41 เม็ด ศาลฎีกาชี้เป็นผู้บริสุทธิ์

สาวติดคุก 21 เดือน ขอรับเงินเยียวยา ถูกจับคดียาเสพติด 41 เม็ด หลังศาลฎีกาพิพากษาเป็นผู้บริสุทธิ์

สุรินทร์ – จากกรณีที่ น.ส.สุพรรณษา บำเพ็ญเพียร อายุ 25 ปี หลังศาลฎีกามีคำพิพากษาตัดสิน น.ส.สุพรรณษา บำเพ็ญเพียร ว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ ไม่ได้มีส่วนร่วมในการกระทำความผิดในคดียาเสพติด (ยาบ้า จำนวน 41 เม็ด) ซึ่ง น.ส.สุพรรณษาต้องติดคุกระหว่างต่อสู้ในชั้นฎีกา 13 เดือน รวม 2 ครั้ง เป็นเวลา 21 เดือน

เมื่อวันที่ 1 มีนาคม ที่อาคารบูรณาการยุติธรรมจังหวัดสุรินทร์ ถนนเลี่ยงเมืองสายใน ต.นอกเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ นายคำสิงห์ ชอบมี ทนายความอาสา พร้อมด้วย นางพัชรพร บำเพ็ญเพียร อายุ 53 ปี ผู้เป็นแม่ของ น.ส.สุพรรณษา บำเพ็ญเพียร อายุ 25 ปี ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากคดีนี้ ได้เดินทางเข้ายื่นคำร้องขอเงินเยียวยาตาม พ.ร.บ.ช่วยเหลือผู้ต้องหาของกระทรวงยุติธรรม

โดยมี นายโยธิน บัวแก้ว ผอ.ยุติธรรมจังหวัดสุรินทร์ ได้จัดเจ้าหน้าที่รับเรื่องเพื่อให้การช่วยเหลือเยียวยา โดยจะนำเรื่องคำร้องขอรับการเยียวยาช่วยเหลือส่งให้คณะอนุกรรมการเพื่อพิจารณาให้ความช่วยเหลือต่อไป

Advertisement

นายคำสิงห์กล่าวว่า วันนี้ตนได้นำลูกความผู้ที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากกรณีดังกล่าวมาที่สำนักงานยุติธรรมจังหวัดสุรินทร์ ยื่นคำร้องขอรับเงินเยียวยาตาม พ.ร.บ.ช่วยเหลือผู้ต้องหาหรือจำเลยของกระทรวงยุติธรรมเป็นที่เรียบร้อย ส่วนทางคณะอนุกรรมการจะพิจารณาวินิจฉัยว่าจะช่วยเหลือได้หรือไม่ก็จะเป็นหน้าที่ของคณะกรรมการกองทุนยุติธรรม ส่วนระยะเวลาดำเนินงานได้สอบถามเจ้าหน้าที่แล้ว ทราบว่าทำให้เร็วที่สุด แต่ไม่ทราบว่าจะใช้เวลากี่เดือนแต่จะดำเดินการให้เร็วที่สุด

ขณะที่ น.ส.สุพรรณษา ซึ่งเป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบโดยตรง ยังแสดงอาการป่วยซึมเศร้า นิ่งเงียบ ตอบคำถามกับผู้สื่อข่าวว่า มาถึงวันนี้ตนเองดีใจ และมีกำลังใจขึ้น ตนเองติดคุกฟรีมานานถึง 21 เดือน วันนี้ญาติพี่น้องบ้านใกล้เรือนเคียงมาสอบถามสารทุกข์ก็มีกำลังใจมากขึ้น

ส่วนนางพัชรพร ผู้เป็นแม่ กล่าวสั้นๆ ว่ามาถึงวันนี้แล้วมีกำลังใจมากขึ้น แต่ก่อนนั้นตนลำบากมาก ต้องเดินทางมาเยี่ยมลูกสาวเดือนละหลายครั้งจนกระทั่งได้ออกจากคุก ขอบคุณทนายคำสิงห์ ชอบมี ขอบคุณประชาชนที่ให้กำลังใจครอบครัวของตนทำให้มีกำลังใจในการดำเนินชีวิตต่อไป

ซึ่งนายคำสิงห์ระบุว่า ตนใช้เวลากว่า 4 เดือน ทำเรื่องยื่นฎีกาเข้าไปจนศาลจังหวัดสุรินทร์ได้รับเรื่องยื่นคำร้องแล้วส่งให้ศาลฎีกา ซึ่งศาลฎีกาก็รับเรื่องไว้พิจารณา ตั้งแต่ศาลอุธรณ์มีคำพิพากษา ลูกความตนต้องอยู่ในเรือนจำถึง 13 เดือน ระหว่างต่อสู้ในชั้นศาลฎีกา จนในที่สุดศาลฎีกาได้มีดุลพินิจพิพากษาเมื่อวันที่ 28 มกราคม 2564 ให้ยกฟ้อง

จำเลยไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการทำผิด ถือว่าลูกความตนเป็นผู้บริสุทธิ์ สิ่งที่ตนอยากจะสะท้อนให้เห็นว่า ลูกความตนได้ถูกจองจำในเรือนจำ รวม 2 ครั้ง เป็นเวลาถึง 21 เดือน อยากจะให้หน่วยงานของรัฐได้เข้ามาเยียวยา

โดยจ่ายไปตาม พ.ร.บ.เงินทดแทน โดยผ่านกองทุนของจังหวัดมาเยียวยาในจุดนี้ ซึ่งตนก็จะพาลูกความไปยื่นหนังสือเพื่อขอรับเงินเยียวต่อไป ในส่วนที่รัฐจะเยียวยาอย่างไรนั้นเป็นเรื่องของภาครัฐ ซึ่งในคดีนี้หากไม่มีการยื่นฎีกาลูกความตนต้องติดคุกถึง 8 ปีเลย แต่ที่น่ายินดีที่ศาลฎีกาท่านได้ยกฟ้อง และอยากให้ภาครัฐได้เข้ามาเยียวยาในจุดนี้ด้วย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image