บช.น.จัดกำลัง คฝ.32 กองร้อยดูแลม็อบนัดชุมนุม 3 จุดพรุ่งนี้

เมื่อวันที่ 5 มีนาคม พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล(ผบช.น.) เปิดเผยการดูแลความปลอดภัยตามสถานที่กลุ่มผู้ชุมนุมนัดหมายการชุมนุม 3 จุด วันที่ 6 มี.ค. ได้แก่กลุ่มรีเดมนัดรวมตัวที่ห้าแยกลาดพร้าวเดินขบวนไปที่ศาลอาญา ถนนรัชดาฯ กลุ่มอาชีวศึกษาปกป้องสถาบัน ชุมนุมที่แยกราชประสงค์ และอีกกลุ่มไปยังกรมทหารราบที่ 11 ย่านบางเขน ว่าเบื้องต้นจัดกำลังตำรวจควบคุมฝูงชน(คฝ.)ไว้ 32 กองร้อย เพื่อไปดูแลรักษาความปลอดภัยตามจุดที่มีการชุมนุมในแต่ละจุด โดยจะเลือกวางกำลังตามสถานการณ์และกลุ่มผู้ชุมนุมในแต่ละพื้นที่ แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้ว่าจะจัดกำลังลงไปแต่ละจุดเท่าใด ต้องสับเปลี่ยนหมุนเวียนกำลัง 3 ผลัด สิ่งที่เป็นห่วงมากที่สุด ได้แก่กลุ่มที่ห้าแยกลาดพร้าวที่เคลื่อนไปที่ศาลอาญา เนื่องจากจุดดังกล่าวตามข้อมูลผู้ชุมนุมจะไม่มีแกนนำ ที่ผ่านมาในการชุมนุมที่บริเวณกรมทหารราบที่ 1 ถนนวิภาวดีรังสิต เขตดินแดง กทม. มีการใช้ความรุนแรงรวมถึงมีการปะทะกับเจ้าหน้าที่เกิดขึ้นจึงต้องจับตาดูสถานการณ์ในจุดดังกล่าวเป็นพิเศษ

พล.ต.ท.ภัคพงศ์ กล่าวต่อว่าหารือกับทุกหน่วยงานที่ต้องลงพื้นที่ดูแลการชุมนุมเพื่อกำชับเรื่องการบังคับใช้กฎหมาย การปฏิบัติตามขั้นตอนการควบคุมดูแลการชุมนุม และกำชับไม่ให้ตำรวจ คฝ.ทุกนายปฏิบัติเกินกว่ากฎหมายและหน้าที่ โดยศาลอาญายังไม่ขอกำลังตำรวจมาดูแลภายในและนอกบริเวณศาลเพิ่มเติม เชื่อว่ากำลังที่บช.น.เตรียมไว้น่าจะเพียงพอต่อการดูแลสถานการณ์ในพื้นที่ หากมีสถานการณ์ปรับเปลี่ยนไปในทิศทางใดก็พร้อมจะตัดกำลังหรือเพิ่มกำลังไปช่วยระงับเหตุได้ทันที

ผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีมีตำรวจสน. วังทองหลางไปปฎิบัติหน้าที่ คฝ.เมื่อวันที่ 28 ก.พ.ที่ผ่านมา ติดเชื้อโควิค-19 เป็นกลยุทธ์ทางการข่าวหรือไม่ พล.ต.ท.ภัคพงศ์ กล่าวว่า ขอชี้แจงว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดเป็นเหตุการณ์จริง ตำรวจที่ติดเชื้อยังรักษาตัวอยู่ที่รพ.ตำรวจ มีผู้ป่วยทั้งหมด 17 นาย ส่วนคนที่กักตัวอยู่บริเวณที่บ้านตัวเองมีทั้งหมด 17 นาย จัดตรวจคัดกรองโรคตำรวจสน.วังทองหลาง จำนวน 195 นาย ตำรวจที่ติดเชื้ออยู่เพียงในรถควบคุมตัวผู้ต้องหา ไม่ได้ออกมาควบคุมดูแลการชุมนุมในจุดที่มีการเผชิญหน้า รถก็จอดประจำอยู่ในแนวหลัง สั่งการให้ผู้บังคับบัญชาตรวจสอบผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง ยืนยันว่าตำรวจไม่มีความจำเป็นต้องใช้กลยุทธ์ทางการข่าวกับกลุ่มผู้ชุมนุม

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image