นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวในการเปิดกิจกรรมยกระดับธุรกิจสู่เกณฑ์มาตรฐานคุณภาพการบริหารจัดการธุรกิจแฟรนไชส์ ประจำปี 2564 ที่กระทรวงพาณิชย์ ในวันที่ 5 มีนาคม ว่า เป็นก้าวสำคัญจะนำพาธุรกิจแฟรนไชส์ไทยให้เติบโต เพื่อเป็นกำลังสำคัญในการพาประเทศให้ก้าวพ้นวิกฤตเศรษฐกิจหลังจากที่ต้องเผชิญกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19ในช่วงที่ผ่านมา ขณะนี้การดำเนินธุรกิจมีความผ่อนคลายมากขึ้น และเข้าสู่การฟื้นฟูเศรษฐกิจภายในประเทศให้มีความเข้มแข็ง โดยแฟรนไชส์จะเป็นโมเดล ที่ช่วยขยายธุรกิจได้อย่างรวดเร็ว
ทั้งนี้ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า จะดำเนินการส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจแฟรนไชส์อย่างต่อเนื่อง และยกระดับธุรกิจแฟรนไชส์เข้าสู่เกณฑ์มาตรฐาน โดยจะจัดหลักสูตรอบรม ตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคม-เมษายนนี้ เน้นพัฒนา 5 ขั้นตอนคือ1. สร้างองค์ความรู้ด้านคุณภาพมาตรฐาน 2. ให้คำแนะนำโดยทีมที่ปรึกษาด้านแฟรนไชส์พื้นที่ ณ สถานประกอบธุรกิจ 3.เชื่อมโยงเครือข่ายและต่อยอดธุรกิจ 4. ศึกษาดูงาน ณ ธุรกิจแฟรนไชส์ต้นแบบ และ 5.เข้าร่วมงานแสดงสินค้าเพื่อนำเสนอศักยภาพของธุรกิจให้นักลงทุนและผู้บริโภคได้รู้จัก ทั้งนี้ กิจกรรมฯภายในงานยังมีการเสวนาพิเศษ หัวข้อ ทางรอดธุรกิจแฟรนไชส์ในยุค Covid-19 และ การสร้างองค์ความรู้เกณฑ์มาตรฐานธุรกิจแฟรนไชส์ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า จากผู้เชี่ยวชาญในแวดวงธุรกิจแฟรนไชส์ที่จะมาถ่ายทอดความรู้ หลังผ่านกิจกรรมจะได้รับใบประกาศเกียรติคุณ พร้อมเครื่องหมาย Franchise Standard สำหรับนำไปใช้ประชาสัมพันธ์สินค้าหรือบริการเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือและการันตีคุณภาพธุรกิจ ผู้สนใจติดตามได้ที่เว็บไซต์ www.dbd.go.th
นายวีรศักดิ์ กล่าวต่อว่า ปัจจุบันธุรกิจแฟรนไชส์ไทยมีมูลค่าตลาดรวม 2.5 แสนล้านบาทต่อปี และมีแนวโน้มเติบโตสูงขึ้นต่อเนื่อง ในจำนวนนี้เป็นธุรกิจแฟรนไชส์สัญชาติไทยกว่า 600 แบรนด์ และมากกว่าครึ่งเป็นธุรกิจประเภทอาหารและเครื่องดื่ม โดยมีธุรกิจผ่านการพัฒนาตามเกณฑ์มาตรฐานคุณภาพแล้ว 351 กิจการ กลุ่มนี้สามารถสร้างรายได้ 1.8 ล้านบาทต่อปี และทำให้เศรษฐกิจหมุนเวียนกว่า 632 ล้านบาท ถ้าธุรกิจสามารถขยายแฟรนไชส์ได้เพิ่มแม้เพียง 1 สาขา จะเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ 1,263 ล้านบาท ถือว่า แฟรนไชส์เป็นธุรกิจสำคัญดึงเศรษฐกิจไทยให้กลับมาเฟื่องฟูได้อีกครั้ง
