ยสท. ยันองค์กรมั่นคง ตั้งเป้าปี 65 กำไรหลักพันล้าน มุ่งธุรกิจใหม่ สมุนไพร กัญชา กัญชง เพิ่มรายได้เกษตรกร

นายภาณุพล รัตนกาญจนภัทร ผู้ว่าการการยาสูบแห่งประเทศไทย (ยสท.) กล่าวว่า กรณีกระทรวงการคลังเสนอคณะรัฐมนตรี(ครม.)อนุมัติวงเงินกู้ระยะสั้นแก่ ยสท. โดยวิธีกู้เบิกเงินเกินบัญชี หรือโอดี เพื่อไว้ใช้จ่ายเมื่อมีความจำเป็นจำนวน 1,500 ล้านบาท แสดงว่า ยสท. เป็นองค์กรที่มีเครดิตดีเช่นเดียวกับธุรกิจชั้นนำต่างๆ ซึ่งกรณีนี้ไม่ใช่การกู้เงิน แต่เป็นเพียงการดำเนินการตามแผนบริหารความเสี่ยงที่ได้รับ “ทั้งนี้ ยสท. ต้องขอขอบคุณกระทรวงการคลังที่เสนอเรื่องต่อครม.” นายภาณุพลกล่าว

นายภาณุพล กล่าวยืนยันว่า ยสท.ยังเป็นองค์กรที่มีความมั่นคงแข็งแกร่งมาก ในปลายปีงบประมาณ 2563 ยสท. มีเงินสดคงเหลือในบัญชี 8,500 ล้านบาท โดยเป็นกำไร 593 ล้านบาท ซึ่งได้หักค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างสวนป่าเบญจกิติเพื่อประชาชน จำนวน 260 ล้านบาท และโครงการเกษียณอายุก่อนกำหนดแล้ว มั่นใจว่าในปีงบประมาณ 2564 ผลกำไรจะเพิ่มขึ้น และยังคาดการณ์ว่าในปีงบประมาณ 2565 อาจมีกำไรกว่า 1,000 ล้านบาท เนื่องจาก ยสท.ได้ดำเนินการยกระดับประสิทธิภาพทางการบริหาร การผลิต การตลาด การควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างต่อเนื่อง ซึ่งโครงการที่สำคัญคือ การติดตั้งนวัตกรรมผลิตพลังงานจากแสงอาทิตย์ สำหรับอาคารโรงงานผลิตยาสูบ ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อช่วยประหยัดพลังงานและลดค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับไฟฟ้าในระยะยาว

นายภาณุพล กล่าวว่า นอกจากนี้ ยสท. ยังเดินหน้ารุกสู่ธุรกิจใหม่ ๆ เช่น การพัฒนาธุรกิจยาสูบไปต่างประเทศ การพัฒนารายได้จาก อสังหาริมทรัพย์ที่มีอยู่ทั่วประเทศ และธุรกิจที่สำคัญซึ่งจะเป็นประโยชน์แก่เกษตรกรของ ยสท. ในอนาคต คือ ธุรกิจสมุนไพร กัญชา กัญชง โดยมีโรงพยาบาลสวนเบญจกิติเฉลิมพระเกียรติ ๘๔ พรรษา ของ ยสท. เป็นแกนกลางในการขับเคลื่อนธุรกิจเพื่อสุขภาพ มีศูนย์ไตเทียม ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ ศูนย์ผิวหนังและความงาม คลินิกชะลอวัยและฟื้นฟู และกำลังจะเริ่มโครงการคลินิกกัญชา พร้อมขยายการบริการไปยังข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ และประชาชนทั่วไป

“ประเด็นนี้ ยสท.ได้ร่วมมือกับสถานบันการศึกษาต่างๆมาอย่างต่อเนื่อง และวันที่ 9 มีนาคมนี้ จะลงนามความร่วมมือ (MOU) กับนายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ อธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง เพื่อค้นคว้าวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์พืชสมุนไพรโดยเฉพาะในกลุ่มที่มีสรรพคุณในการดูแลรักษาปอด โดยจะนำผลการวิจัยไปหารือกับองค์การเภสัชกรรม เพื่อพัฒนายาหรือผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ที่เป็นประโยชน์กับสุขภาพต่อไป

Advertisement

นายภาณุพล กล่าวว่า ในส่วนธุรกิจภาคการเกษตรอื่น ๆ ปัจจุบัน ยสท. ได้ดำเนินการปลูกโกโก้ซึ่งเป็นพืชเชิงพาณิชย์ตั้งแต่ปี 2562 ในพื้นที่ภาคเหนือและภาคอีสาน โดย ยสท. จะนำโครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ประยุกต์สู่ โคก หนอง นา โมเดล มาใช้ในการบริหารจัดการแปลงปลูก เพื่อให้ได้ผลผลิตเชิงพาณิชย์ และยังเป็นการสร้างพื้นที่เรียนรู้ชุมชนต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิต โดยได้เลือกพื้นที่แปลงทดลองของสถานีทดลองยาสูบแม่โจ้ จังหวัดเชียงใหม่ ขนาดพื้นที่ 15 ไร่ เป็นที่ตั้งของโครงการแห่งแรก

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image