พณ.ลุยตรวจนอมินี 2 จัวหวัด ธุรกิจท่องเที่ยว-อสังหา3รายส่อผิดกฎหมาย

นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า(พธ.) กระทรวงพาณิชย์(พณ.) เปิดเผยว่า กรมดำเนินการติดตามตรวจสอบนิติบุคคลไทยที่มีคนต่างด้าวร่วมถือหุ้นที่อาจมีลักษณะนอมินีอย่างต่อเนื่อง ปี 2564 กรมกำหนดกลุ่มธุรกิจเป้าหมาย 3 ประเภท คือ ธุรกิจท่องเที่ยวและเกี่ยวเนื่อง ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจที่เกี่ยวกับการเกษตร (ล้ง) ในพื้นที่ 9 จังหวัด ได้แก่ ภูเก็ต เชียงใหม่ สุราษฎร์ธานี กระบี่ ชลบุรี ระยอง ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี และกรุงเทพฯ โดยลงพื้นที่ตรวจสอบแล้ว 2 จังหวัด ได้แก่ ภูเก็ตและเชียงใหม่ เบื้องต้นพบพฤติกรรมที่อาจเข้าข่ายนอมินีของผู้ถือหุ้นคนไทย 11 ราย ถือหุ้นร่วมกับคนต่างด้าวในหลายบริษัท มูลค่าหุ้นรวมกว่า 200 ล้านบาท กรมอยู่ระหว่างตรวจสอบเพิ่มเติมเกี่ยวกับที่มาของแหล่งเงินทุน การถือครองหุ้นในแต่ละช่วงเวลา และอาจต้องส่งข้อมูลให้กรมสอบสวนคดีพิเศษสอบสวนในเชิงลึกต่อไปด้วย

“สถานการณ์โควิด-19 ระลอกใหม่ในหลายพื้นที่ ส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจจำนวนมาก ทำให้ต้องหยุดดำเนินกิจการชั่วคราว ธุรกิจท่องเที่ยวได้รับผลกระทบโดยตรง จากการที่ไม่มีนักท่องเที่ยวเดินทางท่องเที่ยวเช่นเดิม กรมและหน่วยงานพันธมิตรได้ปรับแผนการตรวจสอบ โดยเน้นตรวจสอบเชิงแนะนำการปฏิบัติให้ถูกต้องตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เช่น การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว การขออนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยว รวมถึง มีการติดตามและประเมินสถานการณ์การแพร่ระบาดก่อนดำเนินการต่อไป หากพบการกระทำผิดส่งดำเนินคดีทุกราย สกัดใช้ตัวแทนอำพรางและอาจลงพื้นที่เดิมซ้ำหรือพื้นที่อื่นๆ ” นายทศพล กล่าว

นายทศพล กล่าวต่อว่า ปี 2563 ธุรกิจเป้าหมายที่ตรวจสอบ ได้แก่ ธุรกิจท่องเที่ยว อสังหาริมทรัพย์ และโรงแรม รีสอร์ท สำหรับกลุ่มธุรกิจท่องเที่ยวได้บูรณาการการตรวจสอบร่วมกับกรมการท่องเที่ยว กรมสอบสวนคดีพิเศษ และตำรวจท่องเที่ยว ในพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวสำคัญและเป็นแหล่งที่มีคนต่างชาติมาลงทุน โดยพบนิติบุคคลน่าสงสัยว่าอาจมีพฤติกรรมเข้าข่ายเป็นความผิดนอมินี จำนวน 3 ราย ประกอบธุรกิจท่องเที่ยวและเกี่ยวเนื่อง 2 ราย (จังหวัดชลบุรีและเชียงใหม่) และธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 1 ราย (จังหวัดประจวบคีรีขันธ์) กรมได้ส่งข้อมูลให้กรมสอบสวนคดีพิเศษสืบสวนสอบสวนเชิงลึกเพิ่มเติม เช่น ตรวจสอบความสัมพันธ์ของคนไทยกับชาวต่างชาติ ตรวจสอบเส้นทางการเงิน ตรวจสอบการจ่ายชำระภาษี เป็นต้น หากเข้าข่ายเป็นความผิดนอมินี กรมจะร้องทุกข์กล่าวโทษตามขั้นตอนของกฎหมาย หรือหากธุรกิจที่กระทำความผิดมีมูลค่าสินทรัพย์ตั้งแต่ 100 ล้านบาทขึ้นไป กรมสอบสวนคดีพิเศษจะรับเป็นคดีพิเศษเพื่อดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ต่อไป

ทั้งนี้ การกระทำความผิดเกี่ยวกับการถือหุ้นแทนคนต่างด้าว (นอมินี) ส่วนใหญ่เกิดจากการที่มีคนไทยยอมรับผลประโยชน์ หรือสมยอม หรือที่ปรึกษากฎหมายแนะนำให้หลีกเลี่ยงกฎหมาย และจากฐานข้อมูลพบว่ามีคนไทยถือหุ้นในกิจการร่วมกับคนต่างด้าวในหลายๆ กิจการ กรมจึงขอเตือนคนไทยที่ให้ความช่วยเหลือ สนับสนุน หรือถือหุ้นแทนคนต่างด้าว จะมีความผิดโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับตั้งแต่ 100,000 – 1,000,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และยังมีโทษปรับรายวันอีกวันละ 10,000 – 50,000 บาท จนกว่าจะเลิกฝ่าฝืน

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image