คืบหน้าชายถูกฆ่าฝังดิน พบฆาตกรเป็นพี่เขย ปมแค้นผู้ตายชอบทุบรถไถ
คืบหน้ากรณีพบศพ นายแหวน คำพรมมี ถูกฆ่าฝังดินอยู่ภายในสวนมะม่วงหลังบ้าน ล่าสุดวันนี้ทราบตัวผู้ก่อเหตุแล้วเป็นพี่เขยผู้ตาย ปมแค้นผู้ตายชอบทุบรถไถตนเอง จึงลงมือก่อเหตุดังกล่าวเพียงคนเดียว
เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 27 มีนาคม เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบจังหวัดจังหวัดพิษณุโลก ร่วมกับชุดสืบสวน สภ.เนินมะปราง ได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเพื่อหาเบาะแสเหตุคดีฆาตกรรม นายแหวน คำพรมมี อายุ 52 ปี และนำร่างไปฝั่งดินไว้บริเวณสวนมะม่วงหลังบ้านเลขที่ 127/1 หมู่ 5 บ้านปลวกง่าม ต.ชมพู อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก จากการตรวจสอบบ้านพักที่เกิดเหตุอย่างละเอียดอีกครั้งและพบว่า เมมเมอรี่กล้องวงจรปิดทั้ง 2 แห่งภายในบ้านถูกหักทั้ง 2 อัน ขณะที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจค้นพบค้อนและขวานมีคราบเลือด ล่าสุด ได้นำตัว นางแพง กันวงษ์ อายุ 57 ปี พี่สาวของนายแหวน พร้อมด้วย นายบรรเจิด กันวงษ์ อายุ 60 ปี (สามีของนางแพง และเป็นพี่เขยของผู้เสียชีวิต) ไปทำการสอบสวนอีกครั้งเนื่องจากพบพิรุธ
ล่าสุด นายบรรเจิด กันวงษ์ อายุ 60 ปี ซึ่งเป็นพี่เขยผู้ตาย ให้การรับสารภาพแล้วว่า ตนเองเป็นผู้ลงมือก่อเหตุเอง สาเหตุเนื่องจากแค้นที่ผู้ตายชอบทำลายทรัพย์สินในบ้าน ชอบทุบรถไถของตนเป็นประจำ จนไฟท้ายแตก กระจังหน้าแตกบ่อยครั้ง สงสัยมาตลอดเลยให้ลูกชายไปซื้อกล้องวงจรปิดมาติดไว้ 2 ตัว จนมีหลักฐานว่าผู้ตายเป็นคนทุบจึงแค้นสะสมเรื่อยมา จนวันเกิดเหตุตนและนายแหวนมีปากเสียงกัน นายแหวนด่าทอตนด้วยคำหยาบคายหลายครั้ง ว่าไอ้สัตว์หมา จึงเป็นสาเหตุให้ตนบันดาลโทสะลงมือก่อเหตุ ใช้เหล็กตีไปที่หัวของผู้ตายจนเสียชีวิต ก่อนลากศพไปขุดดินฝังที่สวนมะม่วงหลังบ้าน แล้วโยนเหล็กทิ้งไว้ข้างๆ หลุมศพที่ฝังดิน ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังหาอาวุธที่เป็นเหล็กตามคำให้การของผู้ก่อเหตุ
ส่วนเรื่องเมมโมรี่กล้องวงจรปิดทั้ง 2 ตัวที่หายไป และมาพบที่หลังว่าถูกหักทิ้งนั้น นายวชิรวิทย์ กันวงษ์ อายุ 36 ปี ลูกชายของผู้ต้องหาให้การว่า ตนเองเป็นคนลงมือหักเมมโมรี่กล้องวงจรปิดทั้ง 2 อันทิ้ง เนื่องจากพอทราบว่าพบศพนายแหวนนั้น ตนมีอาวุธปืนแก๊ปซุกซ่อนอยู่ เกิดกลัวความผิดถ้าหากตำรวจตรวจสอบกล้องจะพบปืนแก๊ปของตัวเอง ตนจึงหักเมมโมรี่กล้องวงจรปิดทิ้ง ไม่เกี่ยวกับต้องการช่วยพ่อปกปิดข้อมูล เพราะตอนนั้นตนยังไม่ทราบว่าใครฆ่านายแหวน
ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างสอบสวน นายบรรเจิด อย่างละเอียด เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงๆ อาวุธที่ใช้ในการก่อเหตุ และต้องสอบสวนให้แน่ชัดว่านายบรรเจิด เป็นผู้ก่อเหตุเพียงคนเดียวจริงหรือไม่ หรือมีใครช่วยปิดบังซ่อนเร้นอำพรางศพ ด้วยหรือเปล่า เบื้องต้นได้ตั้งข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ลอบฝัง ซ่อนเร้น ย้ายหรือทําลายศพ หรือส่วนของศพเพื่อปิดบังการตาย หรือเหตุแห่งการตาย โดยในช่วงบ่ายเจ้าหน้าที่ตำรวจเตรียมควบคุมตัว นายนายบรรเจิด มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ที่บ้านเกิดเหตุ ขณะที่ชาวบ้านในหมู่บ้านที่ทราบข่าวต่างมารอดูการทำแผนรับสารภาพ เนื่องจากเป็นคดีสะเทือนขวัญ และเป็นคนในครอบครัวที่ลงมือก่อเหตุ
