นพ.สุพจน์ สัมฤทธิวณิชชา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ยันฮี วิตามิน วอเตอร์ จำกัด เปิดเผยว่า ในปีนี้ ยันฮีวิตามิน วอเตอร์มีแผนรุกตลาดน้ำดื่มอย่างหนักหลังปีที่ผ่านมา ยอมรับว่าได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 รวมทั้งกระแสข่าวที่ว่าน้ำยันฮีวิตามินซี ไม่มีวิตามินตามฉลาก อีกทั้ง มีน้ำวิตามินยี่ห้อใหม่ เข้ามาแข่งขันในตลาดอีกหลายแบรนด์
นพ.สุพจน์ กล่าวว่า ณ สิ้นปี2563 น้ำยันฮี วิตามินทำยอดขายได้ 1,200 ล้านบาท และมีส่วนแบ่งในตลาดน้ำดื่ม 37% ตามข้อมูลที่ได้จาก บริษัท เอซี นีลเส็น ที่เผยแพร่ ทางสิ่งพิมพ์ อย่างไรก็ตามในปี 2564 ถึงปี 2565 ยันฮีมีความเชื่อมั่นอย่างสูงว่า น้ำดื่มยันฮี วิตามินวอเตอร์ จะสามารถสร้างยอดขายได้ดับเบิ้ลที่ 2,400-4,000 ล้านบาท หรือมีส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้นสูงถึง 50% ของตลาดน้ำดื่มที่มีมูลค่าประมาณ 8,000 ล้านบาท
“ด้วยศักยภาพความพร้อมในการรุกตลาด ได้แก่ การได้รับการรับรองยืนยันคุณภาพของน้ำดื่มยันฮี วิตามิน ซีวอเตอร์ จากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ว่ามีวิตามินซีอยู่จริงตามฉลาก ตามข้อมูลที่ได้ประชาสัมพันธ์เผยแพร่สู่สื่อสังคมโซเชียล และสื่อมวลชนทุกแขนงไปเมื่อ เร็วๆนี้ อีกทั้งจากความแข็งแกร่งของฐานลูกค้า ความเชื่อมั่นของลูกค้าในแบรนด์ยันฮี คุณภาพของน้ำที่คิดค้นวิจัยโดยทีมแพทย์ ซึ่งแม้ว่าจะมีน้ำวิตามิน คู่แข่งออกมาทำตลาดหลายแบรนด์ แต่ยังไม่สามารถช่วงชิงลูกค้าของน้ำยันฮีวิตามินไปได้ นอกจากนี้ ยันฮี ยังได้วางกลยุทธ์รุกตลาดน้ำดื่มอย่างหนักในช่วงหน้าร้อนนี้ โดยเตรียมออกยันฮีวิตามินซี 2 รสชาติใหม่ คือ กลิ่นสตรอเบอรี่ และกลิ่นลิ้นจี่ ในเดือนเมษายนนี้”
นพ.สุพจน์ กล่าวว่า ปัจจุบันยันฮีวิตามินวอเตอร์ วางจำหน่ายอยู่ 2 ชนิด คือ ยันฮีวิตามินวอเตอร์ ผสมวิตามิน B ฝาสีเหลือง และวิตามิน ซี วอเตอร์ ผสมวิตามินซี ฝาสีส้ม ตั้งเป้าหมายจะเพิ่มช่องทางขายทางโมเดิร์นเทรดให้ครอบคลุม77 จังหวัด ทั่วประเทศ ภายในปี 2565 จากปัจจุบันวางจำหน่ายอยู่ประมาณ 60 จังหวัด โดยปัจจุบันตลาดน้ำดื่มมีมูลค่าประมาณ 8,000 ล้านบาท มีอัตราการเติบโตประมาณ 10-20% ต่อปี
