อุทยานฯ ชี้โควิดทำรายได้ ลดฮวบเฉียด 900 ล้าน นักท่องเที่ยวต่างชาติ-ไทยหดหาย

อุทยานฯชี้โควิดทำเงินรายได้ลดฮวบเฉียด 900 ล้าน เหตุนักท่องเที่ยวต่างชาติหาย-คนไทยงดเที่ยว เร่งปรับแผนรับนักท่องเที่ยวนิวนอร์มัล พร้อมยกระดับอุทยานฯ มาตรฐานสากลก่อนปรับอัตราค่าบริการใหม่

เมื่อวันที่ 10 เม.ย. กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้จัดทำรายงานวิเคราะห์สถานการณ์การจัดเก็บเงินรายได้เพื่อบำรุงรักษาอุทยานแห่งชาติ ปีงบประมาณ 2563 โดยระบุว่า นักท่องเที่ยวที่ไปเยือนอุทยานแห่งชาติทั้งที่ประกาศฯแล้วและยังไม่ประกาศฯ รวม 155 แห่งในปีงบประมาณ 2563 มีจํานวนลดลงจากปีงบประมาณ 2562 จํานวนมากถึง 6,909,359 คน หรือร้อยละ 33.19 ในภาพรวมการจัดเก็บเงินรายได้ของอุทยานฯ พบว่า ปีงบประมาณ 2563 จัดเก็บเงิน รายได้ประมาณ 1,366.71 ล้านบาท ซึ่งลดลงจากปีงบประมาณ 2562 เป็นเงินจํานวนประมาณ 891.93 ล้านบาท หรือร้อยละ 39.49 และเมื่อจําแนกตามประเภทของหมวดเงิน พบว่า หมวดเงินรายได้ที่มีการลดลงเป็นจํานวนมาก คือ หมวดเงินค่าบริการ ซึ่งลดลงประมาณ 892.33 ล้านบาท หรือร้อยละ 41.34

สาเหตุของการลดลงของเงินรายได้เนื่องจากหลายสาเหตุ ได้แก่ 1.จํานวนนักท่องเที่ยวในอุทยานฯ ที่มีการจัดเก็บค่าบริการมีจํานวนลดลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เข้าอุทยานฯ ที่มีการจัดเก็บค่าบริการในปีงบประมาณ 2563 มีจํานวนลดลงจากปีงบประมาณ 2562 เป็นจํานวนมากถึง 2,690,397 คน เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาด ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (Coronavirus Disease 2019 : COVID-19) ตั้งแต่ช่วงเดือนม.ค.

ที่เริ่มมีการ ระบาดออกสู่ภายนอกประเทศจีนและมีการขยายวงกว้างทําให้ประเทศต่าง ๆ มีการปิดกั้นพรมแดนและลดการเดินทางระหว่างประเทศ อีกทั้งมีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเพื่อควบคุมสถานการณ์ การลดกิจกรรมทางสังคมและการเดินทางเคลื่อนย้ายของประชากรในประเทศ ทําให้การเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศลดลง ประกอบกับในช่วงเดือนมี.ค.-มิ.ย.กรมอุทยานฯ ได้ประกาศปิดอุทยานฯ ทั่วประเทศจึงเป็นสาเหตุให้เงินรายได้ประเภทค่าบริการมีจํานวนลดลงค่อนข้างมาก

Advertisement

นอกจากนั้นการจัดเก็บเงินค่าบริการนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติก็จัดเก็บในอัตราที่แตกต่างกันระหว่าง 5-10 เท่า ดังนั้น การลดลงของจํานวนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจึงถือว่าเป็นตัวแปรที่สําคัญที่ทําให้เงินค่าบริการ มีจํานวนลดลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเงินรายได้จากค่าบริการส่วนใหญ่มาจากอุทยานแห่งชาติทางทะเลฝั่งอันดามัน 3 แห่ง ได้แก่ อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี อุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา และอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน ซึ่งมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติลดลงรวมแล้วเป็นจํานวนมากถึง 1,286,345 คน จากจํานวน 2,465,378 คน ในปี งบประมาณ 2562 และจํานวนเงินรายได้ก็ลดลงเช่นเดียวกันประมาณ 467.55 ล้านบาท จากจํานวนประมาณ 969.54ล้านบาท ในปีงบประมาณ 2562

ดังนั้นกรมอุทยานฯ จะต้องมีการส่งส่งเสริมการท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติรูปแบบวิถีใหม่ หรือ New Normal โดยมีมาตรการจํากัดนักท่องเที่ยวให้มีความเหมาะสมกับการรองรับได้ของพื้นที่ (Carrying Capacity : CC) พร้อมทั้งมีมาตรการดูแลความปลอดภัยภายใต้สถานการณ์โควิด-19 ที่เหมาะสม ตลอดจนเร่งรัดการพัฒนารูปแบบการจําหน่ายบัตรค่าบริการให้มีความสะดวก รวดเร็ว และทันสมัยมากยิ่งขึ้นด้วยระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ

ทั้งรูปแบบการจัดเก็บเงินค่าบริการผ่านเข้าอุทยานแห่งชาติด้วยเครื่องจําหน่ายบัตรค่าบริการอัตโนมัติ (KIOSK) หรือระบบตั๋วอิเล็กทรอนิกส์ (E-ticket) เป็นต้น เพื่ออํานวยความสะดวกนักท่องเที่ยวและนําไปสู่การจัดเก็บเงินรายได้ให้มีประสิทธิภาพ โปร่งใส และเป็นที่ยอมรับ รวมทั้งสนับสนุนให้มีการพัฒนาอุทยานแห่งชาติที่มีความโดดเด่นให้เป็นมาตรฐานระดับสากลต่อไป เพื่อนำไปสู่การกำหนดอัตราค่าบริการและการบริหารจัดการอุทยานแห่งชาติให้มีความเหมาะสมมากยิ่งขึ้น

Advertisement

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image