‘อยุธยา’ ติดเชื้อโควิดเพิ่ม 15 ราย ยอดสะสมแตะ 131 ราย เร่งตรวจเชิงรุกพื้นที่เสี่ยง

เมื่อวันที่ 16 เมษายน นพ.พีระ อารีรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุข จ.พระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า สถานการณ์ การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พบว่ามีผู้ติดเชื้อรายใหม่ เพิ่มขึ้นอีก 15 ราย มีผู้ป่วยสะสมเพิ่มขึ้นเป็น 131 ราย รักษาตัวตามโรงพยาบาลต่างๆ 69 ราย รักษาตัวหายแล้ว 62 ราย จากการสอบสวนโรคพบว่า มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 50 ราย ส่งตรวจหาเชื้ออยู่ระหว่างรอผลการตรวจ สำหรับกลุ่มผู้ป่วยที่พบใหม่จำนวน 15 ราย พบว่ามีผู้ป่วย 3 รายติดเชื้อมาจากสถานบันเทิงในย่านริมถนนโรจนะ อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา ติดเชื้อมาจากสถานบันเทิงย่านถนนข้าวสาร กรุงเทพมหานคร 2 ราย และผู้ป่วยติดเชื้อมาจากการสัมผัส บุคคลในครอบครัว มีผู้ป่วยรายหนึ่งเป็นหญิงอายุ 84 ปี และผู้ป่วยสัมผัสเพื่อนร่วมงาน ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร นนทบุรี โดยมีรายละเอียดข้อมูลของผู้ป่วยดังนี้

รายที่ 117 หญิงไทยอายุ 24 ปี อ.พระนครศรีอยุธยา ทำงานพื้นที่เสี่ยง (กทม.)
รายที่ 118 ชายไทยอายุ 26 ปี อ.พระนครศรีอยุธยา ไปสถานบันเทิง อ.อุทัย ไป จ.ประจวบ
รายที่ 119 ชายไทยอายุ 17 ปี อ.วังน้อย สัมผัสผู้ป่วยรายที่ 98
รายที่ 120 หญิงไทยอายุ 13 ปี อ.วังน้อย สัมผัสผู้ป่วยรายที่ 98
รายที่ 121 หญิงไทยอายุ 47 ปี อ.บางปะอิน ติดจากพื้นที่เสี่ยง
รายที่ 122 ชายไทยอายุ 28 ปี อ.บางปะอิน ไปสถานบันเทิง ย่าน ถ.ข้าวสาร
รายที่ 123 ชายไทยอายุ 22 ปี อ.บางปะอิน ไปสถานบันเทิง อ.อุทัย
รายที่ 124 หญิงไทยอายุ 22 ปี อ.บางปะอิน ไปสถานบันเทิง อ.อุทัย
รายที 125 ชายไทยอายุ 29 ปี อ.บางปะอิน อยู่ในพื้นที่เสี่ยง อ.บางปะอิน
รายที่ 126 ชายไทยอายุ 26 ปี อ.อุทัย ไปสถานบันเทิง ย่าน ถ.ข้าวสาร
รายที่ 127 ชายไทยอายุ 33 ปี อ.อุทัย สัมผัสผู้ป่วยรายที่ 92 (แฟน)
รายที่ 128 หญิงไทยอายุ 84 ปี อ.วังน้อย สัมผัสกับผู้ป่วยของ จ.นนทบุรี
รายที่ 129 ชายไทยอายุ 55ปี อ.วังน้อย สัมผัสกับผู้ป่วยของ จ.นนทบุรี
รายที่ 130 ชายไทยอายุ 17 ปี อ.วังน้อย สัมผัส กับผู้ป่วยของ จ.นนทบุรี
รายที่ 131 หญิงไทยอายุ 44 ปี อ.วังน้อย สัมผัสกับผู้ป่วยของ กทม.

นายภานุ แย้มศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด 19 ของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ยังพบผู้ติดเชื้อเพิ่มอย่างต่อเนื่อง แบ่งเป็น กลุ่มสถานบันเทิง นำมาติดกับสมาชิกในครอบครัว และเพื่อเตรียมความพร้อมในการรับมือกับสถานการณ์ทางสาธารณสุขจะประเมินผู้ป่วยว่า ผู้ป่วยรายใดต้องเข้ารักษาในห้องความดันลบ ผู้ป่วยรายใดที่มีอาการไม่หนักสามารถเข้าหอพักฟื้นได้ จะทำให้โรงพยาบาลต่างๆ ทั้ง 16 อำเภอสามารถรองรับผู้ป่วยได้อย่างต่อเนื่อง รวมถึงหากพบกว่าพื้นที่ใดมีผู้ป่วยติดเชื้อ ทางจังหวัดร่วมกับสาธารณสุขจะลงพื้นที่ตรวจคัดกรองเชิงรุกเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดไม่ให้รุกรามเป็นวงกว้าง รวมถึงสั่งการให้ทุกหน่วยงาน พร้อมขอความร่วมมือภาคประชาชนดำเนินกิจการ กิจกรรมต่างๆ ตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด 19 อย่างเข้มข้น

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image