‘นัทรียา’ เผย ‘ศปก.ศบค.’ ชะลอการเดินทางเข้าจาก ‘อินเดีย-ปากีสถาน-บังคลาเทศ’

‘นัทรียา’ เผย ‘ศปก.ศบค.’ ชะลอการเดินทางเข้าจาก ‘อินเดีย-ปากีสถาน-บังคลาเทศ’ เพิ่มมาตรการกักตัวเป็น 21 วัน

วันที่ 25 เมษายน น.ส.นัทรียา ทวีวงศ์ ผู้อำนวยการสำนักโฆษกสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี และที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ฝ่ายข้าราชการประจำด้านประสานกิจการภายในประเทศ ได้แจ้งผ่านไลน์กลุ่มผู้สื่อข่าวทำเนียบรัฐบาล ว่า สำนักโฆษกได้รับมอบหมายให้ร้อยเรียงข่าวให้เข้าใจในภาพรวม จากหน่วยต่างๆที่ได้ออกข่าว ดังนี้ โดยทางศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ชี้แจงเพิ่มเติมเพื่อสร้างความเข้าใจแก่ประชาชน ต่อกรณีข่าวว่ามีเครื่องบินเช่าเหมาลำของชาวอินเดียเดินทางมายังประเทศไทย ว่า ไม่เป็นความจริง รัฐบาลดำเนินนโยบายเข้มข้นด้วยความระมัดระวังเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคผ่านทุกช่องทางเพื่อป้องกันการเล็ดลอดของเชื้อ และได้ชะลอการยื่นขอใบอนุญาตเดินทางเข้าประเทศ (COE – Certificate of Entry) ของชาวต่างชาติที่ประสงค์เดินทางมาจากประเทศอินเดียออกไปก่อน จะรับเพียงคนไทยที่ประสงค์เดินทางกลับบ้านและได้ลงทะเบียนไว้เท่านั้น

น.ส.นัทรียา กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีชาวอินเดีย จำนวน 7 คน ที่เข้ารับการรักษาตัวอยู่นั้น เดินทางเข้าประเทศไทยโดยสายการบินพาณิชย์ เมื่อวันที่ 17 เมษายนที่ผ่านมา สายการบินอินเดียแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ AI 0332 ตามข้อกำหนดอนุญาต (บุคคล 11 กลุ่ม) เช่น นักลงทุน นักธุรกิจ มีครอบครัวไทย มีใบอนุญาตทำงาน และเข้ามารักษาพยาบาล กรณีไม่ใช่โรคโควิด เป็นต้น โดยในเที่ยวบินดังกล่าว มีผู้โดยสารทั้งสิ้นจำนวน 149 คน เป็นคนอินเดีย คนไทย และสัญชาติอื่นๆ จึงไม่ใช่เครื่องเช่าเหมาลำตามข่าวแต่อย่างใด โดยขณะนี้ทั้งหมดยังอยู่ในช่วงกักกันโรค และกำลังอยู่ในช่วงการตรวจหาเชื้อเป็นระยะๆเพื่อไม่ให้ผู้ติดเชื้อเล็ดลอดออกไปได้ สำหรับ 7 รายข้างต้น เมื่อเดินทางมาถึงไทย ตรวจพบเชื้อ จึงส่งเข้ารักษาที่โรงพยาบาล ตามมาตรการที่กำหนดไว้

“ทั้งนี้ สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (CAAT) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่ในการอนุญาตเครื่องบินเช่าเหมาลำทำการบินเข้าประเทศไทยยังชี้แจ้ง ปฏิเสธกระแสข่าวที่มีเศรษฐีชาวอินเดียเดินทางออกนอกประเทศเพื่อหนีจากสถานการณ์โรคโควิดระบาด โดยใช้เครื่องบินเช่าเหมาลำมาที่ประเทศไทย โดยยืนยันว่า ไม่เป็นความจริง ส่วนกองทัพอากาศที่จัดเครื่องบินไปรับคณะของผู้ช่วยทูตทหารจากประเทศอินเดียกลับไทยในช่วงเวลานี้ ผู้ที่เดินทางกลับเข้ามาในประเทศไทยต้องดำเนินการตามมาตรการเช่นกัน”น.ส.นัทรียา กล่าว

น.ส.นัทรียา กล่าวต่อว่า ดังนั้น เพื่อปรับข้อบังคับให้เป็นไปตามสถานการณ์และเพื่อควบคุมสะกัดกั้นเชื้อโควิด-19 จากอินเดีย ศูนย์ปฏิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด 19 (ศปก.ศบค.) อนุมัติการชะลอการเดินทางเข้าประเทศไทยจากประเทศต้นทาง คือ อินเดีย ปากีสถาน บังคลาเทศ รวมทั้งเพิ่มมาตรการการกักตัวเป็น 21 วัน อีกด้วย

Advertisement

น.ส.นัทรียา กล่าวว่า ทั้งนี้ รัฐบาลขอให้ความมั่นใจว่าการดำเนินการต่างๆ เพื่อยับยั้งการแพร่ระบาด เช่น ขั้นตอนการเข้าเมือง การ Quarantine และตรวจหาเชื้อ ยังคงดำเนินการตามมาตรการอย่างเข้มข้น เพื่อป้องกันการนำเข้าเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์ที่ระบาดในอินเดีย ที่จะทำให้สถานการณ์ในประเทศแย่ลง และส่งผลต่อประสิทธิภาพของวัคซีนให้ลดลง ตามที่ ศาสตราจารย์ นายแพทย์ ยง ภู่วรวรรณ ได้ให้ข้อมูลไว้ด้วย รวมทั้ง ไม่มีการให้อภิสิทธิ์แก่ผู้ใด อย่างแน่นอน ชีวิตและความปลอดภัยของคนไทย คือสิ่งสำคัญที่สุดที่รัฐบาลต้องดูแลและป้องกัน

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image