เครือซีพีร่วมสู้โควิด มอบอาหาร เครื่องดื่ม ระบบสื่อสาร ให้รพ.สนาม-รพ.ตำรวจ

วันที่ 7 พฤษภาคม นายวรวิทย์ เจนธนากุล กรรมการบริหาร บมจ. เจริญโภคภัณฑ์อาหาร หรือ ซีพีเอฟ นายพรเทพ เจียรวนนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท เจียไต๋ จำกัด นายมนัสส์ มานะวุฒิเวช กรรมการผู้จัดการใหญ่ (ร่วม) บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น น.ส.รุจนาฏก์ วิมลสถิตย์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่บริหาร ด้านบรรษัทสัมพันธ์ เครือซีพีและ ว่าที่ร้อยตรี พรทิพา เรืองฉาง ผู้ชำนาญการอาวุโส บมจ ซีพี ออลล์ ร่วมเป็นผู้แทนเครือซีพี ส่งมอบเครื่องอุปโภค บริโภค อาหารพร้อมรับประทาน และอำนวยความสะดวกระบบสื่อสารอินเทอร์เน็ต รวมทั้ง น้ำยายับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อไวรัส (i-Sol Tech) จากเจียไต๋ ให้แก่โรงพยาบาลตำรวจและโรงพยาบาลสนามของรพ.ตำรวจ โดยมี พล.ต.ท.พรชัย สุธีรกุล นายแพทย์ (สบ 8) โรงพยาบาลตำรวจ และพล.ต.ต. วัชรินทร์ พิภพมงคล นายแพทย์ (สบ. 7) โรงพยาบาลตำรวจ เป็นผู้รับมอบ ณ ชั้น 2 อาคารมหาภูมิพลราชานุสรณ์ โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งเป็นภายใต้โครงการ “ซีพีร้อยเรียงใจ สู้ภัยโควิด-19” ตามนโยบายของนายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโสเครือฯ ที่ประกาศภารกิจเพื่อชาติสนับสนุนงบประมาณรวม 200 ล้านบาท ดำเนินการสนับสนุนอาหาร น้ำดื่ม และการสื่อสารให้แก่โรงพยาบาลสนามในหลายพื้นที่

นายวรวิทย์ กล่าวว่า ภารกิจการจัดตั้งโรงพยาบาลสนามเพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของสังคมและแบ่งเบาภาระของโรงพยาบาลหลักถือเป็นเป้าหมายภารกิจเพื่อชาติที่จำเป็นอย่างยิ่งในสถานการณ์การแพร่ระบาดระลอกใหม่ เครือเจริญโภคภัณฑ์ พร้อมกลุ่มธุรกิจและบริษัทในเครือ ตลอดจนผู้บริหารและพนักงานซีพีทุกคนขอร่วมเป็นส่วนหนึ่งในโครงการซีพีร้อยเรียงใจ สู้ภัยโควิด-19 ซึ่งเป็นหนึ่งในภารกิจ “ซีพีร้อยเรียงความดี” (CP for Good Deeds) ที่เครือเจริญโภคภัณฑ์และทุกกลุ่มธุรกิจในเครือได้ร่วมแสดงพลังความดี และความภาคภูมิใจในฐานะองค์กรที่ยึดมั่นในค่านิยม 6 ประการ ผนึกกำลังสร้างความรัก ความสามัคคีส่งกำลังใจให้กับสังคมไทยผ่านวิกฤตนี้ไปด้วยกัน

” เครือซีพี พร้อมด้วยทุกกลุ่มธุรกิจและพนักงานของเราทุกคนขอส่งความห่วงใยไปยังแพทย์ พยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์ทุกคนที่ทุ่มเทปฏิบัติหน้าที่เป็นด่านหน้ารับมือสถานการณ์วิกฤตโควิด-19 รวมทั้งให้กำลังใจแก่ผู้ป่วยติดเชื้อที่เข้ารับการรักษาตัวทุกคน โดยเครือซีพีในฐานะภาคเอกชนที่เคียงข้างสังคมไทยมาตลอด 100 ปี พร้อมระดมสรรพกำลังจากทุกกลุ่มธุรกิจในเครือมอบเสบียงเติมเต็มพลังกาย พลังใจ เพื่อสนับสนุนภารกิจโรงพยาบาลสนามที่ถือเป็นภารกิจเพื่อประเทศชาติให้ลุล่วงด้วยดี และขอขอบคุณบุคลากรที่ปฏิบัติหน้าที่ในโรงพยาบาลสนามทุกท่านที่ได้เสียสละดูแลสังคมในวิกฤตนี้” นายวรรวิทย์กล่าว

นายมนัสส์ กล่าวว่า กลุ่มทรู เร่งนำศักยภาพโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมดิจิทัลและนวัตกรรมเทคโนโลยี อำนวยความสะดวกให้แก่แพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่ และผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ให้ติดต่อสื่อสารกันได้อย่างราบรื่น ไม่สะดุด โดยจัดส่งหุ่นยนต์อัจฉริยะ True 5G “เทมิ” ช่วยดูแลผู้ป่วยได้จากระยะไกล ทั้งติดตามอาการและให้คำแนะนำในการรักษา ลดการสัมผัสและความเสี่ยงติดเชื้อ ทำให้สามารถดูแลคนไข้ได้อย่างทั่วถึงมากยิ่งขึ้น รวมถึงติดตั้งไฟเบอร์อินเทอร์เน็ต และตัวกระจายสัญญาณ WiFi ภายในอาคาร ตลอดจนมอบ True SMART 4G Adventure (Walkie Talkie) พร้อมซิมทรูมูฟ เอชแบบเติมเงิน ให้บุคลากรทางการแพทย์ใช้โทรและดาต้าฟรี นาน 1 ปี และเพิ่มความผ่อนคลายด้วยบริการ “ทรูวิชั่นส์ นาว” (TrueVisions NOW) รับชม 24 ช่องดังจากทรูวิชั่นส์ได้ทันทีผ่านสมาร์ทโฟน บนแอปพลิเคชันทรูไอดี โดยมอบรหัสดูฟรีให้ผู้ป่วย นอกจากนี้ ยังเปิดคอลล์ เซ็นเตอร์เฉพาะกิจ 02-700-9022 เพื่อดูแลเครือข่ายและบริการในโรงพยาบาลอย่างใกล้ชิด ตอกย้ำความมุ่งมั่นของกลุ่มทรู ที่ต้องการเคียงคู่คนไทยและประเทศไทย ให้ก้าวข้ามวิกฤตโควิด-19 ไปด้วยกัน

Advertisement

พล.ต.ต. วัชรินทร์ กล่าวว่า ขอขอบคุณเครือซีพีที่สนับสนุนเสบียงอาหาร 3 มื้อ พร้อมเครื่องดื่ม และสนับสนุนระบบการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพเพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้แก่ผู้ปฏิบัติหน้าที่ทางการแพทย์ในสถานการณ์โควิด-19 นี้ โดยโรงพยาบาลตำรวจให้การรักษาผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ทั้งในส่วนของโรงพยาบาลหลักและการเปิดโรงพยาบาลสนามในพื้นที่โรงพยาบาลตำรวจคู่ขนานกันไปด้วยตามนโยบายของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่ดำริว่าต้องสนับสนุนภารกิจของประเทศชาติช่วยเหลือทั้งตำรวจและประชาชนที่มีการติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งสถานการณ์ขณะนี้ยังมีผู้ป่วยถูกส่งตัวเข้ารับการรักษาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้แพทย์ บุคลากรทางการแพทย์ และเจ้าหน้าที่ต้องรับมือและเร่งปฏิบัติหน้าที่สลับเวรกันตลอด 24 ชั่วโมง จึงอยากขอความร่วมมือให้ประชาชนการ์ดอย่าตก ดูแลตัวเองให้เข้มงวดทั้งการใส่แมสก์ ล้างมือด้วยสบู่ หลีกเลี่ยงการเดินทางไปในสถานที่สาธารณะที่ไม่จำเป็น ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อทุกคนที่จะไม่เสี่ยงติดเชื้อ และยังเป็นการช่วยแบ่งเบาภาระระบบการแพทย์และสาธารณสุข

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image