รอง หน.พรรคกล้าผุดไอเดีย รัฐประกาศตัดสิทธิรักษาฟรี คนไม่ยอมฉีดวัคซีน

วรวุฒิ อุ่นใจ รองหัวหน้าพรรคกล้าเสนอ หากพร้อมฉีดแล้วให้รัฐประกาศ ใครไม่ยอมฉีดวัคซีน ตัดสิทธิรักษาฟรี

เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม นายวรวุฒิ อุ่นใจ รองหัวหน้าพรรคกล้า เขียนข้อความทางเฟซบุ๊กแสดงความเห็นเกี่ยวกับการบริหารจัดการวัคซีน และการต่อสู้กับสถานการณ์โควิดระบาดระลอกสามในขณะนี้ โดยระบุว่า หากรัฐพร้อมที่จะฉีดวัคซีนแล้ว ให้ประกาศไปเลย ใครไม่ยอมฉีด จะเสียสิทธิรักษาฟรี โดยเชื่อว่าวิธีนี้ แม้จะมีคนวิจารณ์ แต่จะทำให้คนส่วนใหญ่ได้ประโยชน์

“เมื่อรัฐพร้อมที่จะฉีดวัคซีนแล้วควรจะประกาศไปเลยว่า ใครไม่ยอมฉีดวัคซีนจะเสียสิทธิรักษาฟรี ใครฉีดวัคซีนแล้วแพ้ รัฐจ่ายให้สองหมื่นบาท เสียชีวิตจากการฉีดวัคซีนรัฐจ่าย 1 ล้านบาท” นายวรวุฒิระบุ

ทั้งนี้ มีผู้ติดตามท่านหนึ่งมาแสดงความเห็นว่า “อ่านจบ ภาพการโพสต์ด่า รบ.ว่าเผด็จการ บังคับให้ ปชช.ต้องเลือก แล้ว รบ.มีสิทธิอะไรมาตัดสิทธิการรักษาพยาบาลฟรีของ ปชช. มันลอยมาเลย หรือผมวิตกจริตเกินไป เริ่มหลอน 5555”

นายวรวุฒิมาแสดงความเห็นตอบว่า “คนจะด่าก็ด่า ต้องปล่อยไปครับ เอาคนส่วนใหญ่ของประเทศได้ประโยชน์สุด”

Advertisement

เช่นเดียวกับนาย พงศ์พรหม ยามะรัต รองหัวหน้าพรรคกล้า มาแสดงความเห็นในโพสต์ดังกล่าวว่า

“เยี่ยมครับ”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ต่อมาเวลา 17.30 น. นายวรวุฒิ โพสต์ข้อความเพิ่มเติมว่า
เริ่มมีสื่อบางฉบับมาเล่นใส่สีตีไข่ที่ผมโพสท์ไปเมื่อเช้าด้วยแล้ว..
จริงๆแล้วคงต้องอธิบายเพิ่มเติมดังนี้ เมื่อรัฐบาลพร้อม หมายความว่ารัฐมีวัคซีนพอเพียงพร้อมฉีด และมีหลากหลายแบรนด์ ที่ใช้ฉีดกันในประเทศต่างๆสัก4-5แบรนด์เป็นทางเลือก
รัฐมีกำลังในการฉีด และทอดระยะเวลายาวนานเพียงพอเช่นภายใน6เดือนที่จัดระดมฉีดให้กับประชาชน
ประชาชนต้องไม่ได้มีปัญหาสุขภาพ หรือโรคประจำตัวใดๆอันทำให้ไม่สามารถฉีดวัคซีนได้
รัฐทำได้ถึงขนาดนี้แล้ว ใครยังไม่ยอมฉีดก็ควรมีมาตรการจัดการด้วยแล้ว
และการเสียสิทธิ์รักษาฟรีหมายถึงโรคโควิดเท่านั้น ไม่ได้เกี่ยวข้องกับโรคอื่นใด หรือสิทธิ์จากประกันสังคม
ผมคิดว่า เราต้องรณรงค์การฉีดวัคซีนให้มากและเร็วที่สุด ดังนั้นถ้าใครยังไม่ยอมฉีดโดยไม่มีเหตุอันควร ก็ควรจะต้องรับผลถ้าหากติดโควิด และเป็นส่วนหนึ่งของการแพร่ระบาด และริดรอนสิทธิ์คนอื่นที่ต้องติดโควิด ดังนั้นการหมดสิทธิ์รักษาโควิดฟรี น่าจะเป็นแรงกระตุ้นให้ตื่นตัวและเข้ารับการฉีดวัคซีนอย่างทั่วถึง
วันนี้ เรามีการปล่อยข่าวและสร้างการตื่นกลัวในวัคซีนกันมากมาย
จนคนขาดความเข้าใจ และไม่กล้าฉีดวัคซีน
เศรษฐกิจจะฟื้นไม่ได้เลย ถ้าประชาชนไม่ยอมฉีดวัคซีนและหยุดโรคระบาดไม่ได้ แพทย์ทุกคนก็ลงความเห็นแล้วว่าการฉีดวัคซีน เป็นหนทางเดียวที่จะสกัดโรคระบาด
การที่บางคนไม่ยอมฉีดวัคซีน โดยไม่มีเหตุจำเป็นอันควร อาจทำให้ผู้ประกอบการอีกนับล้านรายต้องปิดกิจการหมดเนื้อหมดตัว
ปัญหาสังคม ปัญหาอาชญากร โจรผู้ร้ายชุกชุมจะตามมาอีกมหาศาล
รัฐต้องเร่งดำเนินการฉีดวัคซีน ให้มากและเร็วที่สุด ขณะเดียวกันต้องสร้างความมั่นใจให้ประชาชนด้วยว่า ถ้าแพ้วัคซีน รัฐยินดีรักษาให้ฟรีและมอบเงินชดเชยเยียวยาอีกรายละ2หมื่นบาท ถ้ามีรยใดรายหนึ่งเสียชีวิตจากการฉีดวัคซีน รัฐชดเชยให้รายละ1ล้านบาท
ทั้งนี้เป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนในการฉีดวัคซีนนั่นเอง
เรื่องแบบนี้ รัฐบาลต้องมีทั้งไม้อ่อนและไม้แข็งครับ
แน่นอนทั้งหมดนี้เป็นเพียงข้อเสนอของผมเท่านั้น รายละเอียดในการปฎิบัติยังมีเรื่องที่ต้องพูดคุยในวิธิปฎิบัติ หรือข้อยกเว้นต่างๆ
เพราะภัยโควิดเป็นภัยที่ส่งผลเสียต่อประเทศอย่างรุนแรง ตัวอย่างก็มีให้เห็นในหลายประเทศแล้ว
สื่อและพรรคการเมืองใด ที่เอาเรื่องโควิดมาเป็นเกมการเมือง ต้องตระหนักให้มากๆ ว่านี่ไม่ใช่เวลาที่จะมาเอาชนะคะคานทางการเมือง
จ้องดิสเครดิตรัฐบาลจนประชาชนหวาดกลัววัคซีนกันไปหมด
เรื่องแบบนี้ ต้องรู้จักคิดและเห็นแก่ประเทศชาติเป็นสำคัญครับ

Advertisement

 

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image