ล้อมจับ ‘เชษฐ์ ตะคร้ำเอน’ นำพวกบุกตัดสายไฟฟ้าแรงสูง รง.ปุ๋ยชื่อดัง

ล้อมจับ ‘เชษฐ์ ตะคร้ำเอน’ นำพวกบุกตัดสายไฟฟ้าแรงสูงในโรงงานปุ๋ยชื่อดัง เจ้าตัวไม่รอด ส่วนพวกอีก 2 คน หนีไปได้

เมื่อเวลา 03.00 น. วันที่ 10 พ.ค. 64 ร.ต.อ.ณภูมิ สุขประเสริฐ รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.ท่าเรือ อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี ได้รับแจ้ง ร.ต.อ.สมคเน สร้อยอยู่ รอง สว.ป.สภ.ท่าเรือ หน.จุดตรวจจุดสกัดตำบลพระแท่น และ ร.ต.ท.ศักดิ์ชัย กิ่งทอง รอง สว.ป.สภ.ท่าเรือ หน.จุดตรวจจุดสกัดตำบลหนองลาน ว่าได้รับแจ้งจาก บริษัท ปุ๋ยอินทรีย์เกษตรไทย จำกัด 84/5 ม.15 ต.พระแท่น อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี ว่ามีกลุ่มคนร้ายก่อเหตุบุกรุกโรงงานปุ๋ยและก่อเหตุตัดสายไฟฟ้าแรงสูงที่บริเวณหม้อแปลงใหญ่ข้างโกดังเก็บสินค้า

หลังรับแจ้งเหตุ ร.ต.อ.สมคเน และ ร.ต.อ.ศักดิ์ชัย นำกำลังตำรวจสายตรวจไปตรวจสอบเหตุ พบกลุ่มคนร้ายประมาณ 3 คน ขับขี่รถจักรยานยนต์พ่วงข้าง ยี่ห้อ ฮอนด้า ดรีม สีน้ำเงิน ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนจอดซุ่มริมถนนสายพนมทวน-กำแพงแสน บริเวณตรงข้ามโรงปุ๋ย บริษัท ปุ๋ยอินทรีย์เกษตรไทย จำกัด โดยมี 1 ในคนร้ายได้วิ่งข้ามถนนและปีนกำแพงเข้าไปโรงงานและลักลอบเข้าไปในโกดังสินค้า ต่อจากนั้นได้ปีนไต่ไปใต้หลังคาและเคลื่อนตัวบนรางเก็บสายไฟ เดินปีนไต่ไปที่ห้องควบคุมไฟ ต่อจากนั้นใช้คีมตัดสายไฟแรงสูง 3 เส้น ตัดเส้นละ 2 จุด ความยาวประมาณ 30 เมตร สายไฟขาดหล่นอยู่บนพื้นที่โกดัง

หลังจากนั้น คณะเจ้าหน้าที่ได้แสดงตัวเพื่อทำการจับกุมคนร้ายกลุ่มนี้ กลุ่มคนร้ายเกิดไหวตัวทิ้งสายไฟวิ่งหนีการจับกุม แต่เจ้าหน้าที่ได้วิ่งไล่สามารถจับกุมคนร้ายได้ 1 คน คือ นายพิเชษฐ์ อาจรักษา หรือ “ เชษ ตะคร้ำเอน” อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 15 ถ.ตะคร้ำเอน 7 ต.ตะคร้ำเอน อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี ส่วนอีก 2 คนคือ นายบอย และ นายต่อ ได้วิ่งหลบหนีการจับกุมไปได้ จึงนำตัวนายพิเชษฐนำส่งร.ต.อ.ณภูมิ เพื่อสอบสวนดำเนินคดีในข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยใช้ยานพาหนะร่วมก่อเหตุ นำตัวมาสอบสวน

จากการสอบสวนเบื้องต้น นายอาทิตย์ อุทัยแพน อายุ 51 ปี อยู่บ้านเลขที่ 99/2 ม.15 ต.พระแท่น อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี เจ้าหน้าที่ธุรการของโรงงานปุ๋ยที่เห็นเหตุ เปิดเผยว่า จากการที่มีคนร้ายก่อเหตุลักตัดสายไฟที่โรงงานมาตลอด โดยคนร้ายน่าจะเป็นกลุ่มคนร้ายกลุ่มนี้ ภายใน 2 เดือนที่ผ่านเข้ามาก่อเหตุ 4 ครั้ง ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 5 ทางโรงงานก็เตรียมพนักงานเฝ้าติดตามสังเกตการณ์มาตลอด เมื่อกลุ่มคนร้ายเข้ามาก่อเหตุ จึงแจ้งตำรวจและมาร่วมล้อมจับกุมจนได้ 1 ในคนร้าย ส่วนอีก 2 คนหนีไปได้ ซึ่งขณะก่อเหตุทางโรงงานกำลังเดินเครื่องบรรจุปุ๋ยอยู่ทำให้เกิดความเสียหายกับโรงงานเป็นอย่างมาก ความเสียหายเบื้องต้นมากกว่า 500,000 บาท

Advertisement

ส่วนทางด้าน นายอำนวย สกุลวัฒนะ อายุ 56 ปี เจ้าของบริษัท ปุ๋ยอินทรีย์เกษตรไทย จำกัด เปิดเผยว่า เหตุการณ์ตั้งแต่ช่วงเทศกาลสงกรานต์มามีการลักเล็กขโมยน้อยเกิดขึ้นตลอด จนกระทั่งวันที่ 28 เม.ย.ที่ผ่านมา มีการลักลอบตัดสายไฟทองแดงที่ออกจากหม้อแปลงไฟ 500 KW ขณะที่ไฟฟ้ายังเดินอยู่ มีมูลค่าความเสียหายประมาณ 500,000 บาท แต่คนร้ายตัดไปไม่หมด ก็ได้รีบหนีออกไปก่อน เนื่องจาก รปภ.ได้เดินตรวจภายในโรงงาน

และเมื่อวันที่ 5 พ.ค.ที่ผ่านมา คนร้ายกลับมาตัดสายไฟต่อ ณ จุดเดิม รอบนี้ไม่สามารถเอาออกไปได้เพราะเกิดการช็อตทำให้เกิดประกายไฟ และไฟดับ ทำให้ รปภ.เข้าไปตรวจในเวลาอันรวดเร็ว มีการบันทึกภาพไว้ได้จากกล้องวงจรปิดที่เพิ่งติดตั้งภายหลังจากโดนตัดสายไปเมื่อปลายเดือนเมษายน

ต่อมาเมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา คนร้าย 3-4 คนกลับมาที่จุดเดิม และลงมือตัดสายไฟส่วนที่เหลืออีกรอบ ซึ่งทางโรงงานได้วางกำลังและประสานกับทางตำรวจท้องที่ โดยสามารถจับคนร้ายไว้ได้ 1 คน และต้องการให้ทางตำรวจขยายผล เนื่องจากเป็นความสูญเสียในระบบเศรษฐกิจจำนวนมากและกระทบต่อการจ้างงาน รวมถึงในภาวะสถานการณ์ฉุกเฉินด้วย
ส่วน นายพิเชษฐ์ อาจรักษา ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุม ได้ให้การรับสารภาพกับเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมและให้การว่าร่วมกับเพื่อนอีก 2 คนก่อเหตุในครั้งนี้ โดยเบื้องต้นพนักงานสอบสวนแจ้งข้อหา ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image