เพนกวินแถลงรับเงื่อนไขประกัน พร้อมตั้งทนาย เผยไม่เคยสร้างความเสื่อมเสียต่อสถาบัน

เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดไต่สวนคำร้องขอปล่อยชั่วคราว นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน จำเลยที่ 1, นายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือไมค์ จำเลยที่ 6 แกนนำกลุ่มราษฎร และนายไชยอมร แก้ววิบูลย์พันธุ์ หรือแอมมี่ เดอะบอตทอมบลูส์ จำเลยที่ 17 ศิลปินกลุ่มราษฎร กรณีถูกขังไม่ได้ประกันตัวในคดีชุมนุม 19 กันยา ทวงอำนาจคืนราษฎร หมายเลขดำ อ.287/2564 (เฉพาะในส่วนของนายไชยอมรถูกขังไม่ได้รับการประกันตัวจากคดีเผาพระบรมฉายาลักษณ์)

โดยต่อมา ภายหลังจากศาลไต่สวนในส่วนของนายไชยอมร หรือแอมมี่ จำเลยที่ 17 เสร็จสิ้นแล้ว มีการไต่สวนนายพริษฐ์ หรือเพนกวิน จำเลยที่ 1 ที่ถูกเบิกตัวนั่งรถเข็นมาศาล โดยอยู่ในสภาพที่ดีขึ้น ไม่อิดโรยเหมือนที่ผ่านมา, บิดา มารดาของเพนกวิน, รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ ประกอบการพิจารณาคำร้องขอปล่อยชั่วคราวนายพริษฐ์

นายพริษฐ์ หรือเพนกวิน แถลงต่อศาลสรุปได้ว่า ปัจจุบันตนอายุ 22 ปี เป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 4 คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่ผ่านมามีประวัติด้านการศึกษาได้รับโอกาสไปแข่งขันได้รางวัลถ้วยพระราชทาน ประกอบด้วย รางวัลเพชรยอดมงกุฎ ด้านประวัติศาสตร์ และรางวัลชนะเลิศตอบปัญหารัฐศาสตร์ ที่จัดขึ้นโดยคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ตนไม่เคยต้องโทษคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุกมาก่อน ซึ่งก่อนถูกคุมขังตนพักอาศัยอยู่กับพ่อแม่ โดยมีพ่อแม่เป็นผู้อบรม ดูแลเลี้ยงดู ให้การศึกษา ในวันนี้หากศาลกำหนดเงื่อนไขเช่นเดียวกับนายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือไผ่ ดาวดิน และนายสมยศ พฤกษาเกษมสุข จำเลยในคดีเดียวกันที่ได้รับการปล่อยชั่วคราวไปก่อนหน้านี้ก็ยินดีรับเงื่อนไข

นายพริษฐ์ยังแถลงต่อศาลด้วยว่า ที่ผ่านมาตนเองไม่เคยกระทำการใดที่เป็นการเสื่อมเสียต่อสถาบันและยินดีรับเงื่อนไข จะไม่กระทำการใดๆ ที่เป็นการเสื่อมเสียต่อสถาบัน ไม่เดินทางออกนอกประเทศเว้นแต่ได้รับอนุญาตจากศาล จะเดินทางมาศาลทุกนัด และได้แต่งตั้งทนายความในคดีแล้ว

Advertisement

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่ทนายความจำเลยสอบถามจำเลยเกี่ยวกับการยอมรับเงื่อนไขการปล่อยชั่วคราวว่าจะยอมรับเงื่อนไขไม่เข้าร่วมกิจกรรมใดๆ ที่อาจจะก่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมืองด้วยหรือไม่ เพนกวินขอซักถามและหารือกับทนายความประมาณ 5 นาที

ศาลจึงระบุว่า การชุมนุมเรียกร้องตามสิทธิภายใต้รัฐธรรมนูญสามารถกระทำได้อยู่แล้ว เพนกวินจึงแถลงยืนยันว่า ที่ผ่านมาได้ชุมนุมอย่างสงบ สันติ และปราศจากอาวุธ และจะเข้าร่วมเฉพาะกิจกรรมที่สงบสันติ จะไม่ไปเข้าร่วมกิจกรรมที่ก่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง

จากนั้นทนายความได้สอบถามเพนกวินเกี่ยวกับโรคประจำตัว เพนกวินแถลงว่าตนมีโรคหอบหืดเป็นโรคประจำตัว หากไม่ได้รับการรักษาโดยแพทย์เฉพาะทางอย่างถูกต้องอาจเกิดอันตรายต่อชีวิต ตนรู้จักกับผู้ช่วยศาสตราจารย์อดิศร จันทรสุข รองอธิการบดีฝ่ายการนักศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ หากศาลกำหนดเงื่อนไข นอกจากพ่อแม่ ให้ ผศ.อดิศรกำกับดูแลให้ปฏิบัติตามเงื่อนไขของศาลก็ยินดี

ส่วนการติดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ (กำไล EM) ได้หรือไม่นั้น ส่วนตัวรู้สึกว่าอาจจะกระทบต่อการไปเรียนหนังสือ แต่หากศาลกำหนดเงื่อนไขนี้ด้วยก็ยินดี

นอกจากนี้ อัยการโจทก์ได้ถามค้านเพนกวินเกี่ยวกับเงื่อนไขการปล่อยชั่วคราวว่า รวมถึงการกระทำใดๆ ในพื้นที่สื่อสังคมออนไลน์ที่เพนกวินดูแลด้วยหรือไม่ เพนกวินตอบอัยการโจทก์ว่า ตนไม่เคยใช้สื่อออนไลน์สร้างความเสื่อมเสียต่อสถาบัน

จากนั้นมารดาของเพนกวินแถลงต่อศาลสรุปได้ว่า ตนมีลูก 2 คน เพนกวินเป็นลูกชายคนโต ที่ผ่านมาพักอาศัยอยู่กับพ่อและแม่ ซึ่งเป็นผู้อุปการะเลี้ยงดู ส่วนประวัติการศึกษา เพนกวินเป็นเด็กเรียนดีได้ทุนเรียนดีมาโดยตลอดตั้งแต่ระดับประถมศึกษา มีนิสัยใจดี มีน้ำใจ ไปแข่งขันสร้างชื่อเสียงให้กับสถาบันการศึกษามาโดยตลอด และถ้าไม่ถูกควบคุมตัว เชื่อว่าปีนี้เพนกวินจะเรียนจบระดับปริญญาตรี และได้รับเกียรตินิยมด้วย จึงได้ยื่นเหตุผลเรื่องการศึกษาในคำร้องขอปล่อยชั่วคราวให้ลูกชายได้กลับไปเรียนหนังสือ และก่อนหน้านี้ เพนกวินก็ไม่เคยต้องโทษคำพิพากษาถึงที่สุดมาก่อน หากได้รับการปล่อยชั่วคราวไป ในฐานะแม่เชื่อว่าจะควบคุมดูแลเพนกวินให้ปฏิบัติตามเงื่อนไขของศาลได้

ด้านบิดาของเพนกวินแถลงต่อศาลสรุปได้ว่า ที่ผ่านมาพ่อและแม่เป็นผู้อบรมพฤติกรรมของเพนกวิน หากศาลมีเงื่อนไขทั้ง 4 ข้อ ก็ขอยืนยันต่อศาลว่าตนจะกำชับให้ลูกชายปฏิบัติตามเงื่อนไขทั้งหมด

ขณะที่ผู้ช่วยศาสตราจารย์อดิศร จันทรสุข รองอธิการบดีฝ่ายการนักศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ แถลงต่อศาลสรุปได้ว่า ตนมีหน้าที่ดูความประพฤติ ระเบียบวินัย และการจัดกิจกรรมต่างๆ ของนักศึกษา ที่ผ่านมาเพนกวินมีผลการเรียนที่ดีมาก ไม่เคยได้รับการลงโทษใดๆ อยู่ในเกณฑ์ความประพฤติดี ปัจจุบันเพนกวินได้พักการเรียนไว้ หากได้รับการปล่อยชั่วคราวก็สามารถกลับไปเรียนได้ ส่วนเงื่อนไขที่เพนกวินแถลงต่อศาลก็เชื่อว่าเพนกวินจะปฏิบัติตามได้ และยินดีที่จะช่วยศาลกำชับดูแลเพนกวิน

ส่วนเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ที่ทำหน้าที่ควบคุมดูแลผู้ต้องขังทั้งในเรือนจำและระหว่างเดินทางมาศาล แถลงต่อศาลสรุปได้ว่า ระหว่างที่เพนกวินอยู่ในเรือนจำ หรือเดินทางมาศาล เพนกวินก็ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี ไม่ได้ฝ่าฝืนระเบียบ และมีความประพฤติเรียบร้อยดี

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image