เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม ที่สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย ถนนรัชดาภิเษก ดร.ณพลเดช มณีลังกา ว่าที่ผู้สมัครส.ก. เขตสัมพันธวงศ์ พรรคเพื่อไทย(พท.) ได้เข้ายื่นหนังสือถึง “ประธานาธิบดีสีจิ้นผิง” ผ่านเอกอัครราชทูตจีนประจําประเทศไทย โดย ดร.ณพลเดช กล่าวว่า จากที่ได้พบพี่น้องประชาชนในพื้นที่เยาวราช เขตสัมพันธวงศ์ กทม. ได้มีประชาชนไทยเชื้อสายจีนที่ทำการค้าและต้องมีความยากลำบากในการประกอบอาชีพในการค้าขายและการเป็นอยู่ โดยพี่น้องชาวไทยเชื้อสายจีนกล่าวผ่านตนมาว่า พี่น้องที่อยู่ประเทศจีนต่างได้รับวัคซีนกันอย่างถ้วนหน้าแล้วประชาชนจีนหลังจากที่รับวัคซีนต่างรู้สึกปลอดภัยสามารถออกจากบ้านได้แล้ว แต่กลับกันคนไทยเชื้อสายจีนที่อยู่ในประเทศไทยโดยเฉพาะย่านเยาวราชที่ถือว่าเป็นเขตไชน่าทาวน์ มีหลายกลุ่มที่ทำงานด้านโรงแรม ด้านบริการ ด้านอาหาร ฯลฯ จะต้องพบปะกับประชาชนทั่วไปเป็นปกติ แต่รัฐบาลถือไม่ได้อยู่ในกลุ่มเสี่ยง ในความเป็นจริงแล้วย่านการค้าเยาวราชยังต้องดำเนินการเปิดกิจการยังต้องพบปะกับประชาชนที่มาจับจ่ายซื้อของเป็นจำนวนมากในแต่ละวัน ถึงว่าเป็นกลุ่มเสี่ยงที่อันตรายยิ่ง และในเขตสัมพันธวงศ์ มีการติดเชื้อโควิด19 เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ดร.ณพลเดช กล่าวต่อว่า ด้วยการร้องเรียนจากพี่น้องประชาชนดังกล่าว จึงได้ร่างหนังสือขอความช่วยเหลือขอวัคซีนคุณภาพเป็นภาษาจีนและยื่นจดหมายถึง “ประธานาธิบดีสีจิ้นผิง” ผ่านทางเอกอัครราชทูตจีนประจําประเทศไทย หวังว่าจะเป็นอีกทางหนึ่งที่จะสามารถช่วยเหลือ พี่น้องชาวไทยเชื้อสายจีนที่มาพึ่งพระบรมโพธิสมภาร และมีความเจริญรุ่งเรืองมาครั้นในอดีต แต่ปัจจุบันยามพี่น้องชาวไทยเชื้อสายจีนตกระกำลำบากต่างไม่มีใครเหลียวแล เชื่อว่าการร้องขอไปยังประธานาธิบดีสีจิ้นผิง อาจเป็นทางหนึ่งที่สามารถนำวัคซีนที่มีคุณภาพและปลอดภัยที่ประชาชนชาวจีนได้รับการฉีดมาแล้ว มาให้กับประชาชนชาวจีนย่านเยาวราช เขตสัมพันธวงศ์และชาวไทยเชื้อสายจีนทั่วประเทศ ซึ่งจะเป็นจุดหนึ่งที่เชื่อมสัมพันธไมตรีระหว่างประเทศไทยและประเทศจีนโดยผ่านชาวไทยเชื้อสายจีน ที่ส่วนใหญ่เป็นกำลังหลักในการดำเนินธุรกิจในการค้าขายทำให้ประเทศชาติและภูมิภาคเจริญรุ่งเรือง
