เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 64 ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดไต่สวนผู้ร้องยื่นขอประกันนายณัฐนนท์ ไชยมหาบุตร หรือ แฟรงค์ อายุ 20 ปี หนึ่งในสมาชิกการ์ดวีโว่ เเละนายธวัช สุขประเสริฐ 2 จำเลยในคดีทุบรถ สน.ประชาชื่น และพยายามชิงตัว นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน และ นายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือ ไมค์ ที่อยู่ในรถผู้ต้องขังระหว่างถูกนำตัวไป สน.ประชาชื่น โดยถูกอายัดตัวจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพ เพื่อนำไปดำเนินคดีอื่นเพิ่มเติม เหตุเมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2563
โดยในวันนี้มีผู้ยื่นคำร้องเเละผู้รับรองเดินทางมาไต่สวน โดยให้จำเลยที่1-2ลงรายมือชื่อไว้ในถ้อยคำให้การ
ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่าคดีมีประเด็นต้องวินิจฉัยมีเหตุที่ศาลจะไม่อาจปล่อยชั่วคราวจำเลยทั้ง2 ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 108 / 1หรือไม่ ข้อเท็จจริงในคดีนี้ปรากฏว่าจำเลยที่1-2ไปพบพนักงานสอบสวนและโจทก์ตามที่ถูกเรียก ไม่ได้ถูกจับกุมพฤติการณ์น่าเชื่อว่าจำเลยทั้ง2 จะไม่หลบหนีพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานเสร็จสิ้นแล้ว จำเลยทั้ง2 ไม่อยู่ในฐานะที่อาจจะไปยุ่งกับพยานหลักฐานที่พนักงานสอบสวนรวบรวมไว้ได้
จำเลยทั้ง2แถลงด้วยความสมัครใจว่าหากได้รับการปล่อยชั่วคราวจะไม่ไปกระทำของความวุ่นวายทางการเมืองและยินดีปฏิบัติตามเงื่อนไขของศาล ทั้งโจทก์มีนายมัยตรี สีสินธ์ ประธานชุมชนอินอุดมพัฒนา พร้อมจะเป็นผู้กำกับดูแลจำเลยที่1 นายนิสิต ตรีพงษ์ ผู้บังคับบัญชาของจำเลยที่ 2 พร้อมจะเป็นผู้กำกับดูแลให้ปฏิบัติตามเงื่อนไขของศาล ไม่ให้ก่อเหตุร้าย เเละมาศาลตามกำหนดนัด
กรณีน่าเชื่อว่าปล่อยชั่วคราวจำเลยทั้ง2จะไม่เป็นอุปสรรคแก่การดำเนินคดีของศาลฟังได้ว่าพฤติการณ์แห่งคดีได้เปลี่ยนแปลงไปจึงมีคำสั่งอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวจำเลยที่1-2ในระหว่างพิจารณาตีราคาหลักประกันคนละ 25,000 บาทโดยมีเงื่อนไขห้ามจำเลยทั้งสองเข้าร่วมกิจกรรมใดที่อาจจะก่อให้เกิดความวุ่นวายขึ้นในบ้านเมืองห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักรเว้นแต่ได้รับอนุญาตเป็นหนังสือจากศาล และให้มาศาลตามกำหนดนัดโดยเคร่งครัด ให้นาย มัยตรี สีสินธ์ ประธานชุมชนอินอุดมพัฒนา เป็นผู้กำกับดูแลจำเลยที่1 ให้นายนิสิต ตรีพงษ์ ผู้บังคับบัญชาของจำเลยที่ 2
นอกจากนี้ ศาลยังมีคำสั่งเนื่องจากมีการระบาดของโรคติดเชื้อโควิด 19 ภายในเรือนจำจึงมีคำสั่งให้ผู้ขอปล่อยชั่วคราวจำเลยที่ 1 นำตัวจำเลยไปตรวจสอบภาวะการติดเชื้อในทันทีและรายงานให้ศาลทราบภายใน 3 วันและผู้ขอปล่อยชั่วคราวจำเลยที่ 2นำตัวจำเลยที่ 2 ซึ่งปรากฏว่ารับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ส่งต่อไปโรงพยาบาลที่มีความสามารถในการรักษาพยาบาลจำเลยที่ 2โดยทันทีแล้วรายงานให้ศาลทราบ
