นายศิรัตน์ รัตนไพฑูรย์ ผู้บริหารบริษัท วาว แฟคเตอร์ จำกัด (มหาชน) (W) และ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) ของบริษัท โดมิโน่ เอเซีย แปซิฟิค จำกัด เปิดเผยว่า ปัจจุบันอยู่ระหว่างดำเนินการปรับโครงสร้างทุนของบริษัท คาดแล้วเสร็จทุกกระบวนการภายในเดือน มิ.ย นี้ ซึ่งส่งผลให้บริษัทสามารถล้างขาดทุนสะสม และส่วนต่ำมูลค่าหุ้นที่เกิดขึ้นในอดีตได้จนหมด แม้งบการเงินไตรมาส 1/64 ยังปรากฏส่วนของผู้ถือหุ้นต่อทุนชำระแล้วอยู่ที่ร้อยละ 47 ซึ่งเข้าเกณฑ์ให้ตลาดหลักทรัพย์ขึ้นเครื่องหมาย C บนหลักทรัพย์ของ W ตั้งแต่วันที่ 19 พ.ค. 2564 หากไม่มีเหตุการณ์ที่ส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญ ทางผู้บริหารมั่นใจว่างบการเงินไตรมาส 2/64 ออกช่วงกลางเดือน ส.ค. จะแสดงฐานะทางการเงินของบริษัทที่มีการล้างขาดทุนสะสมจากการปรับโครงสร้างข้างต้น คาดว่าจะส่งผลให้บริษัทมีฐานะทางการเงินที่ไม่เข้าเกณฑ์เครื่องหมาย C อีกต่อไป และในอนาคตเมื่อบริษัทมีกำไรและกระแสเงินสดก็จะสามารถปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นได้ทันที
นายศิรัตน์ กล่าวถึงผลประกอบการไตรมาส 1/64 ว่า แม้ว่าสถานการณ์โควิด-19 จะอยู่กับเรามาตั้งแต่ปลายปี 2562 และกลับมาทวีความรุนแรงอีกครั้งตั้งแต่ช่วงปลายปี 2563 ซึ่งกระทบต่อธุรกิจในทุก Sector โดยเฉพาะธุรกิจอาหารรายได้ของบริษัทส่วนใหญ่ ลดลงประมาณร้อยละ 15 – 20 จากงวดไตรมาส 1/63 ขณะที่ธุรกิจอาหารของกลุ่ม W ที่ไม่รวม DOMINO’S PIZZA อันได้แก่ Kagonoya, Le Boeuf และกลุ่มขนม BAKE สามารถเติบโตได้อย่างมีนัยสำคัญ โดยมีรายได้เพิ่มขึ้น 30 ล้านบาท เทียบกับ Q1/63 เติบโตประมาณร้อยละ 75 เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของฐานลูกค้าซึ่งเป็นผลจากการปรับกลยุทธ์การขายตั้งแต่ช่วงโควิด-19 อีกทั้งเปิดสาขาของร้านอาหารKagonoya สาขาเซ็นทรัลปิ่นเกล้า ร้านLe Boeuf สาขาอารีย์ ทำอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ร้อยละ 50 ซึ่งลดลงจากปีก่อนเล็กน้อยจากการปรับลดราคาสำหรับการขายสินค้าผ่านช่องทางดิลิเวอรี่
เฉพาะธุรกิจ DOMINO’S PIZZA ในหลายๆสาขายอดขายลดลงมากกว่าร้อยละ 50 แต่ได้ปรับตัวโดยหารายได้จากลูกค้ากลุ่มอื่นมาช่วย ทำให้ผลประกอบการไตรมาส 1/64 สามารถคงผลขาดทุนรวม 30 ล้านบาท แต่ได้ปรับกลยุทธ์ด้วยการออกสินค้าและโปรโมชั่นใหม่ช่วงไตรมาส 4/63 ถึงไตรมาส 1/64 ได้รับผลตอบรับที่ดีมากจากผู้บริโภค โดยตั้งแต่ต้นไตรมาส 2 พบว่า DOMINO’S PIZZA มียอดขายเติบโตอย่างก้าวกระโดด จึงมีแผนขยายสาขาใหม่ในกรุงเทพและปริมณฑลอีกไม่น้อยกว่า 15 สาขา จะทำให้มีสาขารวมกว่า 40 สาขาใน Q3/64 และขยายสาขาจนมีสาขา 50 สาขาในสิ้นปี 2564
