‘สิระ’ ลงพื้นที่ตรวจสอบหลุมดินยุบขนาดใหญ่กลางไร่อ้อย

‘สิระ’ ลงพื้นที่ตรวจสอบหลุมดินยุบขนาดใหญ่กลางไร่อ้อย

เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสิระ เจนจาคะ ประธานกรรมาธิการกฎหมาย สภาผู้แทนราษฎรและคณะ ได้เดินทางมาจะลงพื้นที่ดู ที่ดินไร่อ้อยของเกษตรกรที่ ประสบกับปัญหาดินยุบตัวเป็นหลุมลึกขนาดใหญ่กลางไร่อ้อยของเกษตรกร ซึ่งพบว่ามีทั้งหลุมขนาดเล็กและใหญ่ ของชาวบ้านประมาณ 15 ครอบครัว ในพื้นที่ใกล้เคียงกัน โดย มี นายวุฒิพงษ์ ศิริสถิตย์ นายก อบจ.หนองบัวลำภู ว่าที่ร้อยตรีรักชัย เลิศสุบิน นายอำเภอนากลาง และผู้ใหญ่บ้านหนองด่าน บ้านนากุดผึ้ง และชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบนำดูสภาพของการเกิดหลุมดินยุบตัวขนาดใหญ่ โดย มี นายอำเภอนากลาง ได้นำเสนอสภาพของการเกิดหลุมดินขนาดใหญ่ให้กับ ทางคณะกรรมาธิการกฏหมายสภาผู้แทนราฎรและคณะได้รับทราบถึงสภาพการเกิดหลุมดังกล่าว ซึ่งในช่วงเช้าที่ผ่านมา ทางจังหวัดหนองบัวลำภู ซึ่งนำโดย นางศิวพร ฉั่วสวัสดิ์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้มาตรวจสอบยังสถานที่ดังกล่าวแล้วว่า สาเหตุของการเกิดดินยุบตัวจนเป็นหลุมขนาดใหญ่นั้น มาจากสภาพพื้นที่ของหินปูนใต้พื้นดิน เมื่อมีรอยแตกและมีน้ำเข้าไปจะทำให้เกิดเป็นโพรงได้ เมื่อเป็นโพรงใต้ดิน และพื้นดินด้านบนรับน้ำหนักไม่ไหวก็จะเกิดการหยุบตัวลง

จากนั้น นายสิระ และคณะหลังได้รับฟังข้อมูลแล้วได้เดินทางไปดูสถานที่หลุมดินยุบตัวขนาดใหญ่ ในพื้นที่ดินของ นางจันทร์เพ็ญ วรบุตร อายุ 43 ปี ที่เกิดดินยุบตัวบริเวณถนนที่ได้มีการนำหินลูกรังมาทำการถมแล้วในช่วงฤดูแล้งที่ผ่านมา แต่ก็ยังมายุบตัวลง และบริเวณไร่อ้อย ห่างจากหลุมดินบนถนนออกไปเล็กน้อย พบหลุมดินขนาดใหญ่ ความยาวประมาณ 60 เมตร ส่วนความกว้างบางจุดก็กว้างมากกว่า 20 เมตร พบเป็นทางน้ำไหลเสียงดังเหมือนกับน้ำตก ไหลลงจากพื้นดินด้านบนลงด้านล่างไปตามอุโมงค์ และยังพบต้นอ้อยที่ดินทรุดลงกองอยู่พื้นดิน จากสภาพดินที่ทรุดทำให้มองเห็นพื้นด้านล่างเป็นลักษณะของหินปูนจากการกัดเซาะของน้ำ

นางจันทร์เพ็ญ  กล่าวกับ นายสิระ เจนจาคะ อยากให้ทางหน่วยงานราชการมาช่วยเหลือทำเป็นทางน้ำไปยังลำน้ำพะเนียง เพราะจะทำให้น้ำไม่ไหลบ่ากระจายไปทั่ว ถ้าน้ำมีทางน้ำไหลไปตามร่องทางน้ำแล้วก็อาจจะไม่ทำให้ปัญหาเกิดนี้ขึ้น และไม่อยากจะโทษว่าเป็นเพราะอะไร อยากทำให้ตนเองปลอดภัย รักษาพื้นที่ตรงนี้ไว้ให้ทำมาหากิน ไม่ได้ว่าใครทำ เราไม่รู้ ไม่มีความรู้ เชื่อตามที่ทางนักธรณีวิทยาบอก เป็นเรื่องของภัยธรรมชาติและอยากให้ถมหลุมให้ด้วยเพราะว่าถ้าไม่ถมจะพังลงเรื่อย ๆ และทำทางน้ำให้ ซึ่งชาวบ้านและเจ้าของที่ดินที่ได้รับผลกระทบหลังจากเห็นว่า มีหน่วยงานภาครัฐ หน่วยงานต่างๆเดินทางมาดูมารับทราบปัญหาแล้ว ได้นำเสนอสภาพปัญหาแล้วก็รู้สึกสบายใจ ขอบคุณทุกหน่วยงานที่ได้มาดูแล


ด้าน นายสิระ กล่าวว่า ขอให้ทางนักวิชาการตรวจสอบพิสูจน์ก่อนว่าเกิดจากสาเหตุใด แล้วถึงจะหาทางแก้ไขให้ถูกหลัก จะดูแลทางรัฐให้ด้วยให้รู้ปัญหาก่อนรู้วิธีแก้ปัญหาด้วย นอกจากนั้นประธานกรรมาธิการกฎหมายสภาผู้แทนราษฎร ยังกล่าวอีกว่า ส่วนหนึ่งจะไปดูกฎหมายเกี่ยวกับการระบำดหิน ว่ามันระเบิดเขาเหนือจากดินขึ้นไป การระเบิดหินมันทำได้เฉพาะข้างบนหรือชั้นใต้ดินด้วยได้หรือไม่ ขอไปดูในเรื่องของกฎหมาย ส่วนล่างลงไปมันทำได้หรือไม่ ตรงนี้ต้องไปศึกษาเรื่องของโรงโม่ ไปดูระเบียบกฎหมายว่าโรงโม่ทำถูกระเบียบกฎหมายหรือไม่ มีผลกระทบเป็นร่องน้ำลงมา จึงขอไปดูในเรื่องนี้ก่อน

Advertisement

ทางด้าน นายศักดิ์สิทธิ์ ทูลพุทธา ผู้ใหญ่บ้านหนองด่าน กล่าวว่า ดินทรุดทางลูกบ้านแจ้งว่าดินทรุดก็ได้ออกสำรวจ พบว่า เหตุการณ์จริงๆตั้งแต่ปี 2559 แต่หลุมใหญ่จริงๆ เกิดปี 2563 และมาปีนี้เกิดขึ้นอีกใหญ่กว่าเดิมทำให้เกิดปัญหา ชาวบ้านเดือดร้อนจึงอยากให้ผู้ใหญ่มาตรวจสอบให้ เพื่อช่วยเหลือชาวบ้านก็รอคำตอบอยู่ สำหรับพื้นที่เสียหายจะเป็นบริเวณกว้างในละแวกนี้ แต่ถ้าเสียหายจริงๆ ก็หลายไร่เหมือนกัน แปลงที่ใหญ่จริงๆ ไม่ต่ำกว่า 2 ไร่

“ตอนนี้ชาวบ้านคิดว่าจะเกิดไปมากกว่านี้ไหมเป็นความวิตกกังวลของชาวบ้าน อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาเยียวยาทางด้านจิตใจ จุดที่อยู่มันจะเสี่ยงไหม จะเกิดความปลอดภัยไหม เป็นพื้นที่เราทำมาหากิน เมื่อทำงานอยู่ หรือเครื่องจักรทำงานอยู่แล้วดินจะทรุดลงไปไหม เคยมีรถทำงานอยู่ดินทรุดลงแต่มันไม่ลึกรถขึ้นได้ ตอนนี้หลายหน่วยงานได้จะหาวิธีการพิสูจน์ให้แน่ชัดว่า จะให้อยู่ได้ ให้เกิดความปลอดภัย ตอนนี้อุ่นใจขึ้น ส่วนบริเวณที่เกิดหลุม เกิดความเสียหายจะอยู่บริเวณด้านหน้า จะว่าเป็นจากโรงโม่หินมันก็ไม่ได้กระจายไปที่อื่นแนวมันมีจุดเดียว ชาวบ้านก็เข้าใจว่าอยู่ใกล้โรงโม่จริง แต่ว่าหากเกิดจากโรงโม่จริงทำไมไม่ไปเกิดที่อื่น”นายศักดิ์สิทธิ์ กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image