“ก้าวไกล” แจงจุดยืน แก้รธน. แนะเร่งประชามติจัดทำรธน.ใหม่ที่มาจากปชช.-ใช้ บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ

“ก้าวไกล” แจงจุดยืน แก้รธน. แนะเร่งประชามติจัดทำรธน.ใหม่ที่มาจากปชช.-ใช้ บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ แบบจัดสรรปันส่วนผสม เพื่อตอบสนองเจตจำนงปชช.มากที่สุด

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 15 มิถุนายน ที่รัฐสภา นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) พร้อมด้วยนายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ รองหัวหน้าพรรค นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรค และนายรังสิมันต์ โรม รองเลขาธิการ พรรค ร่วมแถลงผลการการประชุม ส.ส. พรรคก้าวไกล เกี่ยวกับเรื่องการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญว่า ที่ประชุมมีมติดังต่อไปนี้ 1.พรรคก้าวไกลเห็นว่าหนทางที่ดีที่สุดในการออกจากวิกฤตรัฐธรรมนูญในปัจจุบันคือ การยกเลิกรัฐธรรมนูญปี 2560 ซึ่งมาจากการรัฐประหารและจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่โดยสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนโดยตรง ประตูบานแรกที่จะไปสู่เป้าหมายดังกล่าวด้วยวิธีประชาธิปไตย คือ การจัดทำประชามติขอความเห็นชอบจากประชาชนผู้ทรงอำนาจสถาปนารัฐธรรมนูญ ซึ่งขณะนี้ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ออกเสียงประชามติยังอยู่ระหว่างการพิจารณาของรัฐสภา ดังนั้นพรรคก้าวไกลขอคัดค้านหากประธานรัฐสภา จะเตะถ่วงการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ออกเสียงประชามติที่ค้างอยู่ และนำวาระร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตราขึ้นมาพิจารณาก่อน ตามความต้องการของพรรคพลังประชารัฐ ทั้งที่ไม่มีเหตุความจำเป็นเร่งด่วนแต่อย่างใด ในการประชุมร่วมกันของรัฐสภาปลายเดือนนี้ ซึ่งประธานรัฐสภาต้องกำหนดวาระตามปกติ ให้พิจารณาร่าง พ.ร.บ.ออกเสียงประชามติแล้วเสร็จก่อนเข้าสู่วาระอื่น

Advertisement

นายพิธา กล่าวต่อว่า 2.พรรคก้าวไกลเห็นว่าการเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคพลังประชารัฐ มีหลายมาตราที่พยายามเบี่ยงเบนเป้าหมายของการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ออกจากการยกเลิกรัฐธรรมนูญฉบับคสช. และยุติกลไกการสืบทอดอำนาจของคณะรัฐประหาร และดำเนินการต่ออายุให้กับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไปอีกครั้ง ผ่านการแก้ไขการเลือกตั้งที่ตนเองจะได้เปรียบทั้งอำนาจรัฐและอำนาจทุน ผ่านการเปิดช่องให้นักการเมืองฝ่ายรัฐบาลสามารถเข้าไปเบียดบังงบประมาณ และแทรกแซงข้าราชการได้ง่ายขึ้น และ 3.การพยายามเสนอแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ 2560 หลากหลายมาตราตามเกมของพรรคพลังประชารัฐนั้นมีแต่จะทำให้เกิดความสับสน หรือแย่ไปกว่านั้นคือไปช่วยตกแต่งให้รัฐธรรมนูญ คสช.ดูดีขึ้น และช่วยกันต่ออายุให้ระบอบประยุทธ์ ดังนั้นการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญรายมาตราในสถานการณ์ปัจจุบันควรพุ่งเป้าให้ชัดไปยังการปลดกลไกสำคัญ ในการสืบทอดอำนาจของรัฐประหาร ที่ประชุมส.ส.ของพรรคก้าวไกลจึงเสนอให้มีการปิดสวิตซ์ ส.ว. ยกเลิกอำนาจในการเลิกนายกรัฐมนตรีของ ส.ว. 250 คนที่มาจากการคัดเลือกของคสช.เอง โดยส.ส.พรรคก้าวไกลจะลงชื่อเสนอร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมในประเด็นนี้ ร่วมกับพรรคร่วมฝ่ายค้าน และยื่นต่อประธานสภาผู้แทนราษฎรในวันพรุ่งนี้ (16 มิถุนายน)

นายพิธา กล่าวว่า 4.ไม่ร่วมลงชื่อกับร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมของพรรคเพื่อไทย ที่เสนอแก้ไขมาตรา 256 เพื่อตั้ง ส.ส.ร.เนื่องจากไม่เห็นด้วยกับการไปจำกัดอำนาจของ ส.ส.ร.ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน ห้ามแก้ไขหมวด 1 หมวด 2 ของรัฐธรรมนูญ พรรคก้าวไกลยืนยันมาตลอดว่า การกำหนดห้ามดังกล่าวเป็นการสร้างบรรทัดฐานทางการเมืองที่ผิด ซึ่งจะส่งผลเสียต่อการพัฒนาประชาธิปไตยในระยะยาวและเป็นการไม่เคารพต่ออำนาจสถาปนารัฐธรรมนูญของประชาชน พรรคก้าวไกลเชื่อมั่นเสมอว่า ส.ส.ร.ที่มาจากประชาชน มีความชอบธรรมทางประชาธิปไตย ที่จะจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ได้ทุกหมวด และ ส.ส.ร.ควรเป็นเวทีที่เปิดกว้างให้กับทุกฝ่าย เคารพอำนาจของประชาชน เพื่อนำไปสู่ฉันทามติใหม่ของสังคมไทยร่วมกัน

Advertisement

นายพิธา กล่าวต่อว่า 5.ระบบการเลือกตั้ง พรรคก้าวไกลเห็นว่าหากมีการแก้ไขระบบเลือกตั้งต้องมีเป้าหมายในการระบบเลือกตั้งที่ดี ไม่ใช่มีเป้าหมายแค่แสวงหาระบบเลือกตั้ง ที่พรรคการเมืองขนาดใหญ่ได้ประโยชน์มากที่สุด ระบบการเลือกตั้งที่ดีต้องทำให้เสียงทุกเสียงมีความหมาย สะท้อนเจตนารมณ์ของประชาชนได้ดีที่สุด รวมถึงเป็นระบบที่ช่วยส่งเสริมความเข้มแข็งของสถาบันพรรคการเมือง และสร้างประสิทธิภาพของระบบรัฐสภากับรัฐบาล ระบบการเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญ 2560 ไม่ใช่ระบบที่ดี ขณะเดียวกันระบบการเลือกตั้ง 2540 ก็ยังมีข้อด้อยที่ต้องปรับปรุง ซึ่งพรรคก้าวไกลเห็นว่าระบบเลือกตั้งที่ดี ควรเป็นระบบจัดสรรปันส่วน ผสมที่ใช้บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ คือการเลือกตั้ง ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง 1 ใบและเลือกพรรคการเมืองอีก 1 ใบ เพื่อนำคะแนนเลือกพรรคการเมืองมาใช้คำนวน ส.ส.แบบพึงมีแต่ละพรรค เพื่อให้เสียงของประชาชนไม่ตกน้ำ และได้สัดส่วนของแต่ละพรรคตามเจตนารมณ์ของประชาชนมากที่สุด ซึ่งหมายถึงเสียงของประชาชนส่วนใหญ่ที่ไม่ต้องการต่ออายุ พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯ อีก ทุกเสียงต้องถูกนับ สุดท้ายนี้พรรคก้าวไกลขอย้ำว่าทางออกจากวิกฤตรัฐธรรมนูญปัจจุบัน ไม่ใช่การเข้าร่วมแก้ไขรัฐธรรมนูญตามเกมของพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งต้องการพิทักษ์รัฐธรรมนูญของคณะรัฐประหาร และต่ออายุให้ระบอบประยุทธ์ แต่ต้องร่วมกันผลักดันให้เกิดการลงประชามติเพื่อยกเลิกรัฐธรรมนูญ 2560 คู่ขนานไปกับการทำลายหัวใจการสืบทอดอำนาจด้วยการปิดสวิตซ์ ส.ว.ก่อนการแก้ไขระบบเลือกตั้งหรือประเด็นปลีกย่อยอื่นๆ โดยไม่ยกเลิกอำนาจ ส.ว.ในการเลือกนายกฯ ย่อมเป็นการเดินเข้าสู่กับดักและขนมล่อทางการเมืองของระบอบประยุทธ์

เมื่อถามว่าจะยื่นร่างที่มีการตั้งส.ส.ร.เองหรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า ต้องทำพ.ร.บ.ออกเสียงประชามติให้เสร็จก่อน เพราะครั้งที่แล้วที่มีการยื่นมาตรา 256 เข้าไปก็ถูกศาลรัฐธรรมนูญตีความมาเช่นนั้น ฉะนั้นตามหลักแล้วไม่ว่าจะเป็นเนื้อหาของมาตรา 256 ที่มีอยู่หรือตามกระบวนการแล้วก็ต้อทำพ.ร.บ.ประชามติให้เสร็จก่อน ถามต่อว่าที่ต้องทำพ.ร.บ.ประชามติก่อนเพราะไม่เชื่อมั่นว่าหากยื่นไปแล้วจะถูกตีตกอีกใช่หรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า ตามกระบวนการครั้งที่แล้วเมื่อไปถึงวาระ 1 วาระ 2 ศาลรัฐธรรมนูญก็บอกว่าต้องทำประชามติก่อน ทั้งนี้พ.ร.บ.ประชามติที่อยู่ในการพิจารณาของรัฐสภามาในขณะนี้ก็เหลือประมาณ 10 มาตราตามการเรียงลำดับความสำคัญของกฎหมาย ก็คิดว่าพ.ร.บ.ประชามติน่าจะขึ้นมาก่อนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ

เมื่อถามความเห็นของรธน. 40 มองว่าพรรคก้าวไกลเสียเปรียบจากระบบเลือกตั้งนี้ใช่หรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า ไม่จริง พรรคก้าวไกลพร้อมที่จะต่อสู้กับทุกระบบการเลือกตั้ง และพรรคก้าวไกลเห็นด้วยกับบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ ซึ่งระบบเลือกตั้งมีหลายระบบไม่จำเป็นต้องเป็นระบบเลือกตั้งแบบ 2540 อย่างเดียว เราต้องการการเลือกตั้งที่ตอบเจตจำนงของประชาชนและใกล้เคียงกับเจตจำนงของประชาชนมากที่สุด ถ้า 20% ของประชาชนต้องการเลือกพรรคการเมืองนี้ เขาก็ควรที่จะมีส.ส.แบบเขตและบัญชีรายชื่อตามเจตจำนงของเขาโดยตรง เสียงต้องไม่ตกน้ำหรือไม่ใช่การเลือกตั้งที่ผลออกมาแล้ว ไม่เป็นพรรคใหญ่ก็มีแค่พรรคเล็กไปเลย ระบบบัตรสองใบเป็นเรื่องดี เพราะประชาชนสามารถเลือกคนที่ใช่ เลือกพรรคที่ชอบได้ แต่วิธีการคำนวณจัดสรร ส.ส.แบบเขตกับบัญชีรายชื่อมีหลายแบบ ซึ่งระบบแบบเยอรมันเป็นระบบที่ไม่มีเสียงตกน้ำ เราจึงเชื่อว่าเป็นระบบที่เหมาะสมและตอบสนองเจตจำนงประชาชนมากที่สุด

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image