เผย “เอฟเอเอ” สั่งให้ตรวจสอบระบบการบินอัตโนมัติของ โบอิ้ง 737 แม็กซ์ซ้ำเป็นระยะ
สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า เมื่อวันที่ 16 มิถุนายนนี้ องค์การบริหารการบินแห่งชาติ (เอฟเอเอ) ของสหรัฐอเมริกา มีคำสั่งถึง บริษัทโบอิ้ง ผู้ผลิตเครื่องบินโดยสาร โบอิ้ง 737 แม็กซ์ ให้แจ้งต่อ ผู้ประกอบการสายการบินนอกสหรัฐอเมริกา ให้กำหนดการตรวจสอบ ระบบการบินอัตโนมัติ หรือ เอ็มแคส ของเครื่องบินรุ่นนี้ ซ้ำทุกครั้งเมื่อมีชั่วโมงการบินเกินกว่า 6,000 ชั่วโมง หลังจากที่เคยออกคำสั่งเดียวกันนี้ให้โบอิ้ง กำหนดเป็นมาตรการที่จำเป็นต้องทำ ต่อผู้ประกอบการสายการบินที่ใช้เครื่อง 737 แม็กซ์ ทั่วสหรัฐอเมริกาไปเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ระบบเอ็มแคส ของเครื่องบิน 737 แม็กซ์ มีส่วนเกี่ยวข้องกับการตกของเครื่องบินรุ่นนี้ 2 ลำ จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 346 รายและทำให้เอฟเอเอออกคำสั่งห้ามขึ้นบินเมื่อเดือนมีนาคม 2019 นานถึง 20 เดือน เพื่อให้บริษัทปรับปรุงระบบอัตโนมัติจำนวนหนึ่งใหม่ พร้อมกับเพิ่มการฝึกการใช้เครื่องบินรุ่นนี้เป็นพิเศษ ก่อนอนุญาตให้ขึ้นบินได้อีกครั้งในเดือนพฤศจิกายนปี 2020 ที่ผ่านมา
โบอิ้ง แถลงว่า บริษัทสนับสนุนคำสั่งของทางเอฟเอเอเต็มที่ ต่อการกำหนดให้ตรวจสอบการทำงานของระบบ ควบคุมการบินดิจิทัล, การทำงานของสเตบิไลเซอร์ ทริม, ระบบควบคุมเสถียรภาพของห้องโดยสารทั้งระบบหลักและระบบสำรอง เป็นสิ่งที่ผู้ประกอบการสายการบินต้องทำ นอกเหนือจากการซ่อมบำรุงตามปกติแล้ว
ทั้งนี้ เอฟเอเอ ระบุว่า การตรวจสอบการทำงานของระบบทั้ง 3 เป็นสิ่งจำเป็นเพื่อให้แน่ใจว่าการทำงานของ ระบบอัตโนมัติเหล่านี้ทำหน้าที่ได้ตามปกติตลอดอายุของเครื่องบิน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิด “ความล้มเหลวแฝงเร้นของระบบควบคุมการบินอัตโนมัติ” ซึ่งหากผสมผสานเข้ากับ “ลักษณะท่าทางผิดปกติของเครื่อง หรือ เข้ากับความล้มเหลวของระบบควบคุมการบินอื่นๆ” จะส่งผลให้ความสามารถในการควบคุมการบินของเครื่องบินลดลง
รายงานข่าวระบุว่า คำสั่งของเอฟเอเอดังกล่าว มีผลต่อ เครื่องบิน 737 แม็กซ์จำนวน 72 ลำที่จดทะเบียนอยู่ในสหรัฐอเมริกากับอีก 389 ลำที่จดทะเบียนใช้อยู่ทั่วโลก
