เมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 19 มิถุนายน พล.ต.ต.พงศ์อานันต์ คล้ายคลึง ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 9 (ผบก.น.9) และ พ.ต.อ.นครินทร์ สุคนธวิท รอง ผบก.น.9 นำกำลังฝ่ายสืบสวน สน.หลักสอง และ กก.สส.บก.น.9 จับกุม พ.ต.อ.พันธุ์ศิริ ศรีเพ็ญ นักเรียนนายร้อยตำรวจ (นรต.) รุ่น 34 อดีต ผกก.ฝ่ายบริการศึกษา ศูนย์ฝึกอบรมตำรวจภูธรภาค 4 อายุ 62 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาธนบุรี เลขที่ 283/2564 ลงวันที่ 19 มิถุนายน 2564 ข้อหาวิ่งราวทรัพย์ พร้อมของกลาง รถยนต์ฟอร์ด รุ่นเอเวอร์เรส ไททาเนียม สีบรอนซ์เทา ทะเบียน 5กจ 6813 กรุงเทพมหานคร มูลค่าประมาณ 1.7 ล้านบาท ซึ่งได้มาจากการวิ่งราวทรัพย์เต็นท์รถมือสอง จับกุมได้ที่บ้านพักในซอยบางแวก 81 แขวงคลองขวาง เขตภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร
สืบเนื่องมาจากเมื่อเวลาประมาณ 12.00 น.วันที่ 18 มิถุนายนที่ผ่านมา พ.ต.อ.พันธุ์ศิริ ปกติเป็นคนศีรษะล้านสวมวิกผม เข้าไปทำทีขอดูรถของกลางกับพนักงานที่เต็นท์รถยนต์มือสอง ถนนกาญจนาภิเษก แขวงบางแคเหนือ เขตบางแค กรุงเทพมหานคร จากนั้นวางแผนให้พนักงานขายสตาร์ตรถลองเครื่องยนต์ จากนั้นอาศัยจังหวะเผลอขับรถหลบหนีออกมา มุ่งหน้าไปทาง จ.นนทบุรี เมื่อผู้เสียหายเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.หลักสอง ทางชุดจับกุมลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบผู้ต้องหาขับรถวนกลับเข้า กทม.มาจอดไว้ที่ลานจอดรถวัดมะพร้าวเตี้ย ถนนบางแวก ก่อนจะขับรถยนต์ส่วนตัวที่นำมาจอดไว้มุ่งหน้ากลับบ้านพักห่างไปอีก 2 กิโลเมตร เมื่อรวบรวมพยานหลักฐานแล้วพนักงานสอบสวนจึงขออนุมัติหมายจับจากศาลอาญาธนบุรี นำกำลังเข้าจับกุมตัวดังกล่าว
สอบสวน พ.ต.อ.พันธุ์ศิริให้การอ้างว่า ก่อเหตุไปโดยไม่รู้สึกตัว เนื่องจากขาดยาหลายชนิดที่กินรักษาอาการป่วยหลายโรคอยู่ กระทั่งตำรวจนำกำลังเข้าจับกุมตัวได้ในบ้านพักสติจึงฟื้นคืนกลับมา ชุดจับกุมยังไม่ปักใจเชื่อ ต้องรอสอบปากคำญาติพี่น้อง และพิจารณาหลักฐานจากแพทย์อีกครั้งเนื่องจาก พ.ต.อ.พันธุ์ศิริเคยถูกให้ออกจากราชการ เมื่อปี พ.ศ.2558 หลังก่อเหตุในลักษณะเดียวกัน ในท้องที่ สน.ตลิ่งชัน เหตุเกิดเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2558 พ.ต.อ.พันธุ์ศิริเคยวางแผนเข้าไปซื้อรถยนต์มือสอง ยี่ห้อฮอนด้า ซีวิค ไฮบริด สีขาว ทะเบียน 3กว 7405 กรุงเทพมหานคร มูลค่า 6.9 แสนบาท จากเต็นท์รถยนต์มือสอง บนถนนบรมราชชนนี ซึ่งระหว่างขับลองรถใช้สเปรย์ดับกลิ่นกายฉีดใส่หน้าพนักงานประจำเต็นท์จนต้องวิ่งหนีตาย จากนั้นขับรถไปจอดไว้ที่โรงแรมเวียงใต้ ถนนข้าวสาร กระทั่งชุดสืบสวน บก.สส.บช.น.ติดตามจับกุม โดยครั้งนั้นเจ้าตัวถูกดำเนินคดีชิงทรัพย์ ติดคุกนาน 5 ปี จนพ้นโทษออกมาก่อเหตุซ้ำอีก
