“ไอพีซีซี”เตือนผลกระทบโลกร้อนมาเร็วกว่าที่คิด ร้ายแรงขนาดพืช-สัตว์สูญพันธุ์ คนหลายสิบล้านอดอยากเรื้อรัง

(AP Photo/Michael Probst, File)

“ไอพีซีซี”เตือนผลกระทบโลกร้อนมาเร็วกว่าที่คิด ร้ายแรงขนาดพืช-สัตว์สูญพันธุ์ คนหลายสิบล้านอดอยากเรื้อรัง

เอเอฟพีรายงานเมื่อวันที่ 23 มิถุนายนนี้ว่า คณะกรรมการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (ไอพีซีซี) ซึ่งประกอบด้วยคณะนักวิทยาศาสตร์ด้านภูมิอากาศจากนานาประเทศ ที่ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาด้านภูมิอากาศให้กับสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ได้จัดเตรียมร่างรายงานพิเศษว่าด้วยภาวะโลกร้อน ที่แสดงให้เห็นว่า ผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ จะเกิดขึ้นเร็วและรุนแรงกว่าที่คิดกันไว้แต่เดิมมาก โดยจะส่งผลกระทบถึงระดับเปลี่ยนแปลงพื้นฐานการดำรงชีวิตของสรรพสิ่งบนโลกภายในระยะเวลาอีกไม่กี่สิบปีข้างหน้า

ร่างรายงานของไอพีซีซี ระบุว่า ภายในไม่ถึง 30 ปีนับจากนี้ โลกจะเผชิญกับสถานการณ์การสูญพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตหลายสปีชีส์, เกิดโรคระบาดแพร่หลายกว้างขวางมากขึ้น, พบกับอุณหภูมิร้อนแรงเหลือเชื่อ, ระบบนิเวศล่มสลาย, เมืองใหญ่ริมชายฝั่งต้องรับมือกับระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้นมาก พร้อมๆ กับการเผชิญหน้ากับผลกระทบร้ายแรงที่ก่อให้เกิดการทำลายล้างซึ่งเกิดขึ้นในอัตราความเร็วทวีขึ้นและสร้างความเจ็บปวดมากขึ้นพร้อมกันไปด้วยในระยะเวลาอันสั้น ชนิดที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้อีกแล้ว

แต่ไอพีซีซี เตือนเอาไว้ด้วยว่า สิ่งที่ผู้คนในรุ่นนี้ต้องเผชิญจะเลวร้ายน้อยกว่าที่จะเกิดขึ้นกับลูกหลานของเราในอนาคตมากมายนัก

ร่างรายงานหนา 4,000 หน้าของไอพีซีซี เตือนว่า ผลกระทบจากภาวะโลกร้อนดังกล่าวนี้จะเข้ามาเกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันของมนุษย์ในทุกๆ ด้านอย่างเป็นระบบ ในขณะเดียวกันก็ไม่เป็นธรรมอย่างยิ่ง เนื่องจากบรรดาผู้ที่จะได้รับผลกระทบสาหัสที่สุดกลับเป็นผู้ที่มีส่วนร่วมในการปล่อยก๊าซเรือนกระจกน้อยที่สุด และก่อนหน้าที่จะเกิดภาวะช็อคทางภูมิอากาศครั้งใหญ่ สภาวะโลกร้อนก็ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงต่อสภาพแวดล้อมโดยรวมมหาศาลแล้ว ถึงขนาดทำให้สิ่งมีชีวิตส่วนใหญ่สูญพันธุ์ไปจากโลก

Advertisement

“สิ่งมีชีวิตอื่นๆ สามารถฟื้นตัวจากการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศขนานใหญ่ได้ด้วยการวิวัฒนาการไปสู่สปีชีส์ใหม่ๆ แล้วรังสรรค์สิ่งแวดล้อมใหม่ของตัวเองขึ้นมา แต่มนุษย์ทำแบบเดียวกันนั้นไม่ได้” รายงานดังกล่าวระบุ

ร่างรายงานใหม่นี้ ชี้ให้เห็นผลกระทบจากภาวะโลกร้อนที่เร็วขึ้นและรุนแรงขึ้นกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด ตัวอย่างเช่นแบบจำลองที่เผยแพร่ในรายงานครั้งนี้ผ่านมา แสดงให้เห็นว่า เราไม่น่าจะได้เห็นผลการเปลี่ยนแปลงของโลกจากการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศก่อนหน้าปี 2100 แต่ในร่างรายงานใหม่ระบุว่า แม้ในเวลานี้ ซึ่งอุณหภูมิเฉลี่ยของโลกอยู่ที่ 1.1 องศาเซลเซียส สูงกว่าระดับอุณหภูมิก่อนหน้าปฏิวัติอุตสาหกรรม ผลกระทบต่อโลกก็เริ่มแสดงให้เห็นแล้ว และหากอุณหภูมิเพิ่มขึ้นเป็น 1.5 องศา ก็สามารถก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ร้ายแรง เรื้อรังนานเป็นหลายศตวรรษ และในบางกรณีก็ไม่สามารถฟื้นคืนกลับมาได้อีก

ทั้งนี้ องค์การอุตุนิยมวิทยาโลก คาดการณ์ไว้เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาว่า โลกจะเข้าสู่ระดับอุณหภูมิที่สูงกว่าระดับก่อนหน้าการปฏิวัติอุตสาหกรรม 1.5 องศาภายในปี 2026 นี้นี่เอง

Advertisement

ไอพีซีซีคาดการณ์ว่า ในปี 2050 ประชากรโลกหลายสิบล้านคนจะตกอยู่ในภาวะอดอยากเรื้อรังจากภาวะโลกร้อน พร้อมๆ กับที่อีกราว 130 ล้านคนตกอยู่ในสถานะยากจนสุดขีด ภายในอีก 10 ปีถัดไปอันเนื่องมาจากสภาพเหลื่อมล้ำ

ในปี 2050 เมืองต่างๆ ที่เป็น “ด่านหน้า” ตามแนวชายฝั่งทะเลซึ่งมีประชากรโลกอยู่รวมหลายร้อยล้านคนจะเผชิญกับระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้น เพราะการละลายของน้ำแข็งกรีนแลนด์และขั้วโลกใต้ ที่อาจทำให้ระดับน้ำทะเลเพิ่มขึ้นได้สูงสุดถึง 13 เมตร เกิดปรากฏการณ์สตอร์มเซิร์จ ที่ร้ายแรง ทำลายชีวิตมากขึ้น อีกราว 350 ล้านคน ในเขตเมืองจะเผชิญกับภาวะขาดแคลนน้ำ จากภาวะแล้งจัดในกรณีที่อุณหภูมิถึงระดับ 1.5 องศา แต่ถ้าถึงระดับ 2.0 องศา จำนวนเหยื่อภาวะแล้งจะเพิ่มเป็น 410 ล้านคน ในขณะที่ อีก 420 ล้านคนจะเผชิญกับคลื่นความร้อนรุนแรงถึงขีดสุด ชนิดที่ทำให้เสียชีวิตได้

ร่างรายงานชิ้นนี้เตือนเอาไว้ว่า โลกและรัฐบาลของทุกประเทศควรตระหนักและต้องเตรียมพร้อมเพื่อเผชิญกับผลกระทบต่างๆเหล่านี้ โดยย้ำว่า “การปรับตัวในระดับที่เป็นอยู่ในเวลานี้ไม่เพียงพอต่อการรองรับความเสี่ยงด้านภูมิอากาศในอนาคต” ไอพีซีซีระบุ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image