นายนรสิทธิ์ สิทธิเวชวิจิตร รองประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการพาณิชย์ บริษัท LINE ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า ปีนี้ LINE ก้าวสู่ปีที่ 10 จึงวางกลยุทธ์เดินหน้าต่อเนื่อง ปรับโครงสร้างธุรกิจบริการบนแพลตฟอร์ม ขยาย LINE Consumer Business บุกตลาดด้วยการต่อยอด LINE STICKERS, LINE MELODY และ LINE ดูดวง เพื่อสร้างประสบการณ์ผู้ใช้ให้ดีกว่าเคย และยังคงสนับสนุนนักสร้างสรรค์คอนเทนต์ ทั้งสติกเกอร์ ดนตรี และศาสตร์ดวงชะตาแบบไทย ให้ก้าวไกลในตลาดโลกต่อไป
นายนรสิทธิ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาธุรกิจพาณิชย์ตลาดผู้บริโภคของ LINE ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี โดยเฉพาะธุรกิจหลักอย่าง LINE STICKERS ที่เปิดโอกาสให้ครีเอเตอร์ไทยเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างสรรค์ผลงานสติกเกอร์เทียบเคียงกับครีเอเตอร์ระดับโลก เพื่อใช้บนแพลตฟอร์มของ LINE มาตั้งแต่ปี 2557 จึงเห็นถึงศักยภาพการพัฒนาขยายธุรกิจ ในด้านของการทำธุรกิจลิขสิทธิ์ (Licensing) และธุรกิจจำหน่ายสินค้า (Merchandising) ต่อมาปี 2562 ได้ขยายธุรกิจส่วนของธุรกิจเพลง LINE MELODY โดยปรับโครงสร้างธุรกิจพาณิชย์ให้ชัดเจนยิ่งขึ้น ด้วยการเปิดกลุ่มธุรกิจใหม่ ‘LINE Consumer Business’ เพื่อพัฒนาและผลักดันธุรกิจพาณิชย์ต่าง ๆ เริ่มต้นด้วย 3 บริการ ได้แก่ LINE STICKERS, LINE MELODY และ LINE ดูดวง บริการที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคมากขึ้น และเสริมความแข็งแกร่งให้กับพันธมิตรทางธุรกิจของ LINE
ปี 2563 ธุรกิจพาณิชย์ภายใต้ LINE Consumer Business เติบโตอย่างแข็งแกร่ง มีครีเอเตอร์ไทยผู้สร้างสรรค์สติกเกอร์ร่วมงานกับ LINE (LINE Creators) ถึงกว่า 700,000 ราย มีสติกเกอร์วางจำหน่ายในตลาดของประเทศไทยกว่า 3.6 ล้านชุด และมีร้านค้าที่ได้รับอนุญาตเป็นตัวแทนจาก LINE STICKERS (LINE Verified Reseller) มากกว่า 12,000 ร้านค้า ในขณะเดียวกันได้เริ่มมีการต่อยอดความสำเร็จจาก LINE CREATORS MARKET ในการทำธุรกิจด้านลิขสิทธิ์ (Licensing) โดยได้ผนึกกำลังกับ เอไอเอส พัฒนาให้สติกเกอร์เป็นหนึ่งในเครื่องมือที่ใช้ในการบริหารความสัมพันธ์กับลูกค้า ด้วยสติกเกอร์ชุดพิเศษกว่า 80 ชุด ที่ถูกใช้โดยลูกค้า AIS กว่า 3 ล้านราย ตอกย้ำก้าวแรกของธุรกิจ Licensing ได้เป็นอย่างดี ส่วน LINE MELODY เสียงเรียกเข้าและเสียงรอสาย ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเช่นกัน มีผู้ใช้งานกว่า 1 ล้านคน จากการเปิดใช้งานเพียง 2 ปี มีคลังเพลงทั้งสิ้นกว่า 30,000 เพลงจากกว่า 36 พันธมิตรค่ายเพลง และ Music Distributors ทั้งไทยและต่างประเทศ และมีการทำแคมเปญพิเศษร่วมกับค่ายเพลงและศิลปินต่าง ๆ อย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี
ส่วนปีนี้ LINE ยังมุ่งมั่นเชื่อมต่อผู้ใช้ ข้อมูล และบริการให้ใกล้กันมากขึ้น (Closing The Distance) โดยนำความรู้ (Knowledge) และความเชี่ยวชาญ (Know-how) ทั้งในด้านเทคโนโลยี ด้านการตลาด และความเข้าใจในพฤติกรรมผู้บริโภคในระดับสากลมาประยุกต์ใช้ให้เหมาะกับการให้บริการ LINE Consumer Business ในประเทศไทย ด้วยกลยุทธ์การยกระดับงานครีเอทีฟไทยสู่ธุรกิจระดับโลก (Local Creativeness to Global Business)
“ตลอด 10 ปีที่ผ่านมา LINE มุ่งมั่นพัฒนาเพื่อที่เป็นแพลตฟอร์มที่ดีที่สุดทั้งในด้านการดำเนินชีวิตและด้านการทำธุรกิจ ด้วยข้อมูล นวัตกรรมเทคโนโลยีด้านดิจิทัล และทีมงานที่มีความรู้ในการทำธุรกิจ วันนี้ LINE จึงพร้อมที่จะเป็นแพลตฟอร์มพันธมิตรของคนไทยในทุกด้านเพื่อร่วมเดินหน้าพลักดันเศรษฐกิจดิจิตอลไทยไปสู่สากล ขับเคลื่อนให้ธุรกิจไทยเติบโตอย่างสร้างสรรค์และยั่งยืน” นายนรสิทธิ์ กล่าว
