จัดกำลัง คฝ. 15 กองร้อยดูแลม็อบบีบแตรไล่”บิ๊กตู่” เตือนชุมนุมเกิน 20 คนผิด กม.หวั่นเชื้อแพร่เชื้อโควิด

เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผบช.น. โฆษกบช. เปิดเผยการเตรียมความการดูแลความสงบเรียบร้อยการชุมนุมว่า กรณีมีกลุ่มผู้ชุมนุมประกาศเชิญชวนช่วงเวลา 16.00 น. วันที่ 2 ก.ค. มีกลุ่มแนวร่วมธรรมศาตร์และการชุมนุม กลุ่มคณะราษฎร์ เชิญชวนชุมนุมบริเวณแยกอุรุพงษ์ โดยนัดรวมตัว ที่แยกอุรุพงษ์ ก่อนเดินไปหน้าทำเนียบรัฐบาล ตามถนนพิษณุโลก “เปิดท้ายวันศุกร์รุกไล่เผด็จการนะจ๊ะ #ม็อบ 2 กรกฎา” ซึ่งกรณีเปิดตลาดนัดถือเป็นการชุมนุมที่ผิดกฎหมาย เนื่องจากขณะนี้มีการแพร่ระบาดโควิดรุนแรงในพื้นที่กทม. จากยอดการติดเชื้อมาวันที่ผ่านมา 1,960  คน เสียชีวิต 32 คน  จึงไม่สามารถชุมนุมได้ตามกฎหมาย ตามพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และประกาศของทางกรุงเทพมหานคร

ส่วนในวันที่ 3 ก.ค. มีการชุมของกลุ่มประชาชนคนไทย โดยนายนิติธร ล้ำเหลือ เวลา 15.00 น. นัดรวมกลุ่มที่ แยกอุรุพงษ์ แล้วเดินไปหน้าทำเนียบรัฐบาล เรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีลาออก กลุ่มไทยไม่ทน โดยนายจตุพร พรหมพันธุ์ และนายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ เวลา 16.00 น. นัดรวมกลุ่มที่แยกผ่านฟ้า แล้วเดินไปหน้าทำเนียบรัฐบาล ตามถนนนครสวรรค์ ขับไล่นายกรัฐมนตรี และกลุ่มนายสมบัติ บุญงามอนงค์ เวลา 17.00 น. นัดรวมกลุ่มทำกิจกรรม Car Mob ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ขับขี่รถไปทำเนียบรัฐบาล เปิดไฟกระพริบพร้อมบีบแตร ขับไล่นายกรัฐมนตรี การดำเนินการเช่นนั้นอาจทำให้จราจรติดขัด โดยเฉพาะมีการบีบแตรอื้ออึงแก่ประชาชนที่พักอาศัยและที่ใช้เส้นทางดังกล่าว การขับรถเป็นจำนวนมากในถนนหลวงอาจจะเป็นความผิดจับรถไม่คำนึงถึงความปลอดภัย ตามพ.ร.บ.ทางบกฯ พนักงานสอบสวนอาจยึดรถไว้เป็นของกลางการกระทำผิด

ทั้งนี้การรวมตัวมั่วสุมกันเกินกว่า 20 คนทั้งแกนนำ ผู้ชักชวน ผู้ร่วมชุมนุมเป็นการกระทำผิดกฎหมาย การปิดถนนสายสำคัญมีชุมนุม มีโรงพยาบาลมีสถานที่ราชการ ถือเป็นการซ้ำเติมให้เดือดร้อน จะมีการจัดบันทึกภาพนิ่งภาพเคลื่อนไหวดำเนินคดี ทั้งนี้ ขอให้พี่น้องประชาชนร่วมมือร่วมใจขอให้งดเว้นการร่วมชุมนุมดังกล่าว ส่วนการดำเนินการทาง บช.น.จัดกำลังในการรักษาความสงบเรียบร้อยใช้ประมาณ 6 กองร้อย วันที่ 3 ก.ค. 9 กองร้อย พร้อมป้องกันบุคคลที่สามส่วนความรุนแรงต้องถามกลุ่มที่ร่วมการชุมนุม

ส่วนการดำเนินคดีกลุ่มผู้ชุมนุมนั้น โฆษกบช.น. กล่าวว่า ตั้งแต่มีการชุมนุม 223 คดี สอบสวนส่งพนักงานอัยการ 163 คดี ระหว่างสอบสวนอีก 60 คดี พ.ร.บ.ควบคุมโรคติดต่อ ส่วนในวันที่ 24 มิ.ย.และ 26 มิ.ย.ที่ผ่านมา ทางสน.สำราญราษฎร์ได้ทำการดำเนินคดี ผู้ต้องหา 19 คน ความผิดตามพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ, พ.ร.บ.ควบคุมโรคติดต่อ, พ.ร.บ.จราจรทางบกฯ, พ.ร.บ.ความสะอาด, พ.ร.บ.การใช้เครื่องกระจายเสียง โดยออกหมายเรียกรับทราบข้อกล่าวหาในพรุ่งนี้วันที่ 3 ก.ค. ส่วนการชุมนุมสกายวอร์ค วันที่ 24 มิ.ย. สน.ปทุมวันร้องทุกข์ดำเนินคดีข้อหาเดียวกันกับพื้นที่สน.สำราญราษฎร์ ผู้ต้องหา 11 คน สน.นางเลิ้ง 2 คดี กลุ่มของนายจตุพร พร้อมพวก 12 คน ส่วนวันที่ 26 ทั้งสองกลุ่มดำเนินคดีผู้ต้องหา 5 คน หลังจากนี้จะรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติมว่ามีใครร่วมด้วยก็จะออกหมายเรียกตามกฎหมายต่อไป

Advertisement

ด้าน พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกตร. กล่าวว่า กรณีที่มีกระแสข่าวทางโซเชี่ยลมีเดียว่าผู้ประกอบการร้านอาหารจะรวมตัวกันฝ่าฝืนเปิดร้านอาหาร ขัดต่อคำสั่งประกาศ ศบค. ที่ห้ามพื้นที่กรุงเทพมหานคร และ จังหวัดอื่นๆ รวม 10 จังหวัด ซึ่งเป็นสีแดง เปิดร้านอาหารโดยให้นั่งในร้าน การฝ่าฝืนคำสั่งดังกล่าวถือว่าเป็นความผิด ทั้งผู้ยุยง และผู้ฝ่าฝืน ผู้ประกอบการจึงอย่าหลงเชื่อทำตามกระแสปลุกปั่นดังกล่าว ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว ตำรวจไม่อยากจะบังคับใช้กฎหมายจับกุมผู้ที่ฝ่าฝืน เพราะไม่อยากซ้ำเติมผู้ประกอบการที่ยังลำบากอยู่ในขณะนี้ จึงขอให้ผู้ประกอบการอดทน และให้ความร่วมมือกับภาครัฐไปก่อน ซึ่งเมื่ออาการคลี่คลาย ก็คงจะมีการคลายล็อกในเวลาต่อมา คุณสามารถเปิดได้ตามปกติ

ส่วนที่มีการร้องเรียนว่ามีการแอบเปิดสถานบันเทิงในย่านทองหล่อนั้น ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติก็ไม่ได้นิ่งดูดาย กำลังตรวจสอบว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่ หากพบมีการลักลอบเปิดจะดำเนินการตามกฏหมายอย่างเด็ดขาด เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดที่เคยเกิดขึ้นในสถานบันเทิงมาแล้ว สำหรับเรื่องการหลอกขายวัคซีนทางเลือก พบว่ามีการรวมตัวมาร้องทุกข์ในหลายพื้นที่ ประมาณ 10 ราย โดยเฉพาะในพื้นที่จ.อุดรธานี ใช้วิธีการแอบอ้างเป็นแพทย์และใช้ชื่อโรงพยาบาลต่างๆ ที่มีชื่อเสียง ซึ่งทางสำนักงานตรงชาติกำลังรวบรวมข้อมูล เพื่อดำเนินการกับผู้ที่ก่อเหตุ จึงฝากเตือนให้ตรวจสอบจากโรงพยาบาลที่ถูกกล่าวอ้างนั้นก่อนจะตัดสินใจสั่งซื้อจ่ายเงินไป

 

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image