TFG คุมเข้มปลอดภัย “เนื้อไก่-สุกร” ป้องกันปนเปื้อนโควิด ชี้ปีนี้ธุรกิจโตดี ความต้องการเพิ่มสูง

นายเพชร นันทวิสัย ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ บริษัท ไทยฟู้ดส์ กรุ๊ป จำกัด(มหาชน) หรือ TFG เปิดเผยว่า บริษัทฯและบริษัทในเครือ ในฐานะผู้ผลิตสินค้าปศุสัตว์ ผลิตภัณฑ์ไก่และสุกร เห็นความสำคัญและตระหนักถึงความปลอดภัยและความพึงพอใจของผู้บริโภคเป็นสำคัญ สุกรและไก่ทุกตัวที่เลี้ยงภายใต้ระบบการเลี้ยงของบริษัท จะถูกเลี้ยงอยู่ในภายในฟาร์มที่ได้รับรองมาตรฐานฟาร์ม (GAP Standard) จากกรมปศุสัตว์ โดยระบบการเลี้ยงแบบ EVAP system 100% ทุกโรงเรือนจะมีการควบคุมอุณหภูมิ ความชื้น และการระบายอากาศภายในโรงเรือน และเป็นไปตามหลักสวัสดิภาพสัตว์ “Five Freedoms” อีกทั้งยังได้รับการดูแลการจัดการจากสัตวบาลที่มีประสบการณ์ และมีสัตวแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญในการดูแลด้านสุขภาพของสัตว์

รวมทั้งมีระบบการควบคุมคุณภาพตลอดทั้งห่วงโซ่การผลิต สุกรและไก่ ซึ่งจะได้รับอาหารจากโรงงานอาหารสัตว์ ที่มีมาตรฐานทั้ง GMP และ HACCP กระบวนการขนส่ง ไปจนถึงโรงชำแหละที่ได้รับรองมาตรฐานการส่งออก และมีกระบวนการตรวจสอบและควบคุมคุณภาพจากฟาร์มถึงโรงงาน โดยทีม Food Safety เพื่อให้มั่นใจได้อย่างเต็มที่ว่าผลิตภัณฑ์ไก่และสุกร มีความปลอดภัยจากยาปฏิชีวนะตกค้าง ปลอดสารเร่งเนื้อแดง ปลอดภัยจากสารเคมี และปลอดภัยจากเชื้อโรคต่างๆ ที่จะเป็นอันตรายต่อผู้บริโภคอย่างแน่นอน

“ในสถานการณ์ที่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 เช่นนี้ บริษัทฯมีนโยบายเน้นย้ำและเพิ่มความเข้มงวดในกระบวนการควบคุมคุณภาพ มีการพ่นฆ่าเชื้อโรคอย่างสม่ำเสมอในทุกจุดตลอดการเลี้ยง โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านมาตรการรักษาสุขอนามัย โดยพนักงานทุกคนที่มีการปฏิบัติงานที่ต้องสัมผัสกับสัตว์ และกระบวนการเลี้ยงสัตว์ ตลอดจนภายในโรงชำแหละ ต้องผ่านการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย จุ่มเท้าฆ่าเชื้อ สเปรย์มือด้วยแอลกอฮอล์ สวมหน้ากากอนามัย และมีการตรวจสอบทุกครั้งก่อนเข้าปฏิบัติงาน ขณะที่บริษัทฯใส่ใจความปลอดภัยต่อผู้บริโภค จึงแนะนำให้เลือกซื้อเนื้อสัตว์ด้วยความระมัดระวัง โดยพิจารณาจากผู้ผลิตที่มีมาตรฐาน และมีมาตรการป้องกันโควิด-19 ที่ดี

ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ กล่าวถึงภาพรวมการดำเนินธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลัง 2564 คาดว่า ปริมาณความต้องการบริโภคเนื้อสัตว์ น่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้น ขณะที่แนวโน้มราคาสุกรเริ่มกลับมาฟื้นตัวได้ดีขึ้น จึงมั่นใจว่าผลงานปีนี้จะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยเติบโตในระดับ 10-15%

Advertisement

นายเพชร ได้กล่าวถึงการขยายฟาร์มระดับพ่อแม่พันธุ์สุกรทั้งในประเทศไทย และเวียดนามว่า เริ่มดำเนินไปแล้วบางส่วน รอรับปัจจัยบวกจากการได้รับใบอนุญาตให้ส่งออกไปที่สหภาพยุโรป (EU) เพิ่มเติมในส่วนของสินค้าปรุงสุก รวมไปถึงการขยายธุรกิจร้านสะดวกซื้อ สำหรับเนื้อสดในรูปแบบตลาดสดภายใต้ชื่อร้าน Thai foods fresh market (ตลาดสดไทยฟู้ดส์) ปัจจุบันมี 21 สาขา ตั้งเป้า 50 สาขาในปีนี้ “ปีนี้ถือเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับเนื้อสัตว์ ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นโดยรวมน่าจะดีขึ้น ช่วยผลักดันรายได้กำไรเติบโตอย่างแข็งแกร่ง”

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image