‘พช.เชียงใหม่’ จัดกิจกรรม จิตอาสาพัฒนาชุมชน’เอามื้อสามัคคี’ แปลงโคก หนอง นา

‘พช.เชียงใหม่’ จัดกิจกรรม จิตอาสาพัฒนาชุมชน’เอามื้อสามัคคี’ แปลงโคก หนอง นา เฉลิมพระเกียรติในหลวง

เมื่อวันที่ 16 กรกฏาคม นายบุญลือ ธรรมธรานุรักษ์ นายอำเภอแม่แจ่ม เป็นประธานพิธีเปิดกิจกรรมจิตอาสาพัฒนาชุมชนเอามื้อสามัคคี เพื่อเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยมีนางเสาวลักษณ์ ไชยเมือง พัฒนาการอำเภอแม่แจ่ม พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชนอำเภอ ประธานศูนย์เรียนรู้ (CLM) ระดับตำบล ครูพาทำ นักพัฒนาพื้นที่ต้นแบบ (นพต.) ผู้นำชุมชน และประชาชาชนจิตอาสา ร่วมกิจกรรม Kick off เอามื้อสามัคคี ปลูกผักสวนครัวและพืชสมุนไพร ซึ่งมีพื้นที่เป้าหมายที่เข้าร่วมโครงการฯ ประเภทศูนย์เรียนรู้ต้นแบบ ระดับตำบล จำนวน 7 แปลง และประเภทครัวเรือน จำนวน 1,396 ราย ในการนี้ นายเจริญ สีวาโย พัฒนาการจังหวัดเชียงใหม่ ได้มอบหมายนายวุฒิกร โคจรรุ่งโรจน์ ผู้ช่วยกลุ่มงานยุทธศาสตร์การพัฒนาชุมชน เข้าร่วมกิจกรรมจิตอาสาพัฒนาชุมชนอาสาเอามื้อสามัคคี ในแปลงพื้นที่เรียนรู้ชุมชนต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิต (Community Lab Model for quality of Life : CLM) ระดับตําบล ของ นายโชคชัย เลิศรุ่งอมรวงศ์ ณ หมู่ที่ 2 ตำบลแม่นาจร อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ บนพื้นที่ขนาด 15 ไร่ ซึ่งเป็นศูนย์เรียนรู้ต้นแบบจุดขยายผลอีกศูนย์หนึ่ง ในจำนวน 21แห่ง ของกรมการพัฒนาชุมชน ในปีงบประมาณ พ.ศ.2563 ที่ดำเนินการในอำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ ตามโครงการพัฒนาพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ประยุกต์สู่ “โคก หนอง นา พัฒนาชุมชน”

นายบุญลือ กล่าวน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว และเปิดเผยถึงการดำเนินกิจกรรมว่า เป็นการร่วมกันสร้างความรัก ความสามัคคี ช่วยเหลือเกื้อกูลกันในชุมชน รวมทั้งฝึกทักษะปฏิบัติทางหลักกสิกรรมธรรมชาติ ผ่านการจัดกิจกรรมรวมกลุ่มกันพัฒนาพื้นที่ และมอบเมล็ดพันธุ์ผัก (ตราศรแดง) จำนวน 3 ชนิด คือ กะเพราขาว ผักบุ้ง และผักคะน้า เพื่อให้พี่น้องประชาชนอำเภอแม่แจ่ม ได้มีแหล่งอาหารไว้รับประทานในครัวเรือน สามารถลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ให้แก่ครัวเรือน ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง หากต้องปิดหมู่บ้าน ครัวเรือนในชุมชนก็ยังสามารถมีแหล่งอาหารไว้บริโภค จากการขับเคลื่อนโครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุกต์สู่ โคก หนอง นา พัฒนาชุมชนนี้ เป็นการต่อยอดโครงการตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง โดยใช้การบูรณาการร่วมกันขององค์กรหลักในชุมชน เพื่อให้ชุมชนมีความเข้มแข็งและเกิดการพัฒนาพื้นที่อย่างยั่งยืน ผมขอชื่นชมพี่น้องประชาชนทุกท่านที่ได้เข้าร่วมกิจกรรมเอามื้อสามัคคีในวันนี้ เป็นการแสดงออกถึงความจงรักภักดี การมีจิตสาธารณะ ช่วยเหลือเกื้อกูลกันในสังคม โดยน้อมนำแนวทางพระราชดำริมาปฏิบัติให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม ร่วมมือ ร่วมใจกันทำความดีเพื่อประโยชน์ส่วนรวมโดยไม่หวังผลตอบแทน

นางเสาวลักษณ์ เปิดเผยว่า สำหรับกิจกรรมการ Kick off เอามื้อสามัคคี ในครั้งนี้ ประกอบด้วย 1) ดำนาในแปลงนาขั้นบันได ซึ่งเป็นวิถีชีวิตของพื้นที่สูง แปลงนาไม่มีพื้นที่กว้าง จึงได้ปรับพื้นที่นาเป็นขั้นบันได เพื่อใช้ปลูกข้าวไว้สำหรับบริโภคในครัวเรือน 2) การห่มดิน เพื่อสร้างความชุ่มชื่นแก่ผืนดิน/ต้นไม้ ตามหลักกสิกรรมธรรมชาติ ลดการละเหยของน้ำที่สร้างความชุ่มชื้นให้แก่ต้นไม้ 3)การปลูกต้นไม้ (ปลูกป่า 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง) มีการปลูกต้นโกโก้ ต้นเงาะ ต้นมะขาม ต้นจามจุรี ซึ่งเป็นต้นไม้เศรษฐกิจ สร้างรายได้ให้ครัวเรือน ตลอดได้ร่มเงา และคืนธรรมชาติให้แผ่นดิน 4) ปลูกพืชสมุนไพรต้านภัยโควิด 19 ได้แก่ ต้นมะนาว มะกูด กะเพรา โหระพา ขิง ข่า ตะไคร้ เป็นต้น หากทุกครัวเรือนมีการปลูกพืชสมุนไพรไทย จะเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่พี่น้องประชาชน สามารถพึ่งตนเองได้ ในท่ามกลางสถานการณ์โควิด-19 นี้ ได้อย่างปลอดภัย และต่อเนื่องจนเป็นนิสัยหรือวัฒนธรรมการปลูกพืชผักสวนครัวสร้างความมั่นคงด้านอาหาร

นายโชคชัย เปิดเผยถึงความรู้สึกที่ได้เข้าร่วมโครงการฯว่า รู้สึกโชคดีที่ได้รับโอกาสจากกรมการพัฒนาชุมชน ในการเข้าร่วมโครงการ และเป็นเป้าหมายของอำเภอกิจกรรมเอามื้อสามัคคี เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งเริ่มจากการเข้ารับการฝึกอบรมหลักกสิกรรมธรรมชาติ ทำให้ได้ความรู้ ได้เพื่อน และมีเครือข่ายในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน โดยตนเองมีความมุ่งมั่นและตั้งใจที่พัฒนาพื้นที่แห่งนี้ให้เป็นศูนย์เรียนรู้โคก หนอง นา นอกจากนั้น ยังได้วางแผนให้เป็นศูนย์เรียนรู้ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงแบบครบวงจร และเป็นศูนย์แบ่งปันให้กับชาวบ้านและบุคคลทั่วไป ได้มาศึกษาเรียนรู้ต่อไป

ทั้งนี้สำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอแม่แจ่มได้ดำเนินการตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 (COVID-19) อาทิ การสวมหน้ากากอนามัย การล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์และการเว้นระยะห่าง ตามมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดต่ออันตรายในท้องที่จังหวัดเชียงใหม่ อย่างเคร่งครัด

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image