คาร์ทิป : วิธีขจัดกลิ่นอับชื้นในรถ

ช่วงหน้าฝนมักพบปัญหากลิ่นไม่พึงประสงค์ภายในรถ อย่างกลิ่นอับชื้นจากฝน โดยเฉพาะผู้โดยสารและผู้ขับขี่เสื้อผ้าเปียกชื้นแฉะ น้ำติดตามรองเท้า ทำให้เกิดกลิ่นอับสะสมติดเบาะ พรม และห้องโดยสาร

วิธีขจัดกลิ่นอับในรถ รอช่วงหมดฝนแล้ว ลองหาวันว่างลงมือจัดการกับเจ้ากลิ่นอับชื้น ล้างตู้แอร์ หากพบว่ามีกลิ่นอับชื้นออกมาจากแอร์

ตากรถกลางแดด เปิดประตู และกระจกทั้งสี่ด้าน เก็บของออกจากรถให้หมด เพื่อสะดวกในการทำความสะอาด ทำความสะอาดเบาะ ดูดฝุ่น และซักพรม

เบาะเนื้อกำมะหยี่ ใช้ผงซักฟอกสูตรที่มีสารจำพวกซิลเวอร์นาโน จะช่วยฆ่าและยับยั้งแบคทีเรียได้ดี โดยนำมาผสมกับน้ำเล็กน้อย นำแปรงขนอ่อนจุ่มและขัด จากนั้นก็ใช้ผ้าเช็ดออก

Advertisement

เบาะหนัง ใช้ผ้าหมาดๆ เช็ดให้ทั่ว หากสกปรกมาก แนะนำให้ใช้น้ำสบู่กับแปรงสีฟันขัดเบาๆ แล้วนำผ้ามาเช็ดออก

เบาะผ้า ดูดฝุ่นหรือตีเบาะให้ฝุ่นกระจายออกมาก่อน จากนั้นซักเบาะด้วยผลิตภัณฑ์สำหรับซักเบาะผ้า นำผ้าแห้งเช็ดแล้วใช้ไดร์ช่วยเป่าให้แห้ง แต่ควรระวังอย่าใช้ความร้อนสูงจนเกินไป

ส่วนเทคนิคง่ายๆ ใช้ของใกล้ตัว เช่น ถ่านหุงต้ม ดูดกลิ่นได้ดี ดูดความชื้นได้เล็กน้อย, ใบเตย ช่วยดับกลิ่น นำใบเตยมาม้วนเป็นกำ แล้วไว้ในรถเพื่อดูดกลิ่นเหม็นอับ, ใบชาตากแห้ง หรือกากกาแฟตากแห้ง ใส่ชาม หรือถุงผ้าวางไว้ตามมุมต่างๆ, กระดาษหนังสือพิมพ์ ดูดกลิ่นและความชื้น ใช้ได้ประมาณ 3 วัน, เบกกิ้งโซดา แบ่งใส่ภาชนะแล้วตั้งทิ้งไว้ช่วยดูดกลิ่นอับได้ ใช้ได้นาน 6-12 เดือน, น้ำส้มสายชู ใส่ถ้วยแล้ววางไว้ในรถ หรือจะผสมน้ำเปล่าในสัดส่วน 1:1 แล้วสเปรย์ให้ทั่วรถ เมื่อแห้งแล้ว กลิ่นเหม็นจะเบาบางลง, กล่องดูดความชื้น อายุการใช้งานประมาณ 1 เดือน ราคาราว 50-100 บาท

Advertisement

หากลองวิธีที่แนะนำไปทั้งหมด แต่ยังพบว่ากลิ่นอับยังคงมีอยู่ในรถ ควรใช้บริการศูนย์ล้างรถ เปลี่ยนพรม ผ้าหรือหนังของเบาะ เพื่อให้กลิ่นเหล่านั้นหายไป 100% แต่หากทำทุกอย่างครบแล้ว รถก็ยังไม่หายเหม็น ต้องตรวจดูท่อน้ำทิ้งของแอร์ว่าไหลออกนอกตัวรถหรือไม่ เพราะอาจรั่วซึมใต้คอนโซลจนเกิดความอับชื้นสะสมก็ได้ หากแก้ปัญหาถูกจุด กลิ่นอับในรถก็หมดไปอย่างแน่นอน

ส่วนความเชื่อผิดๆ กับการดับกลิ่นในรถ ได้แก่ น้ำหอม การบูร พิมเสน ไม่ควรไว้ในรถ น้ำหอมปรับอากาศ ช่วยดับกลิ่นได้ก็จริง แต่โทษก็มีเช่นกัน ไอระเหยของสารในเครื่องหอมเหล่านี้ จะหมุนเวียนในระบบปรับอากาศ สะสมทำให้เกิดเมือกและความชื้นเกาะอยู่ตามกรองแอร์ และคอยล์เย็น เป็นสาเหตุให้ฝุ่นจับตัวหนาได้ง่าย ทำให้อุดตัน ระบบทำความเย็น และเครื่องยนต์ต้องทำงานหนัก และเปลืองน้ำมัน

การสูดดมน้ำหอมกลิ่นแรงเป็นเวลานาน จะทำลายสุขภาพ เกิดอาการมึนศีรษะ โพรงจมูกอักเสบ หรือแสบตา แสบผิวได้ นอกจากนี้ พิมเสนตากแดดหรือเก็บไว้ในอุณหภูมิสูง จะระเหยและละลายหายไป ทำให้ระคายเคืองตา เมื่อสูดดมปริมาณมากๆ ติดต่อกันเป็นเวลานาน ทำให้เวียนหัว แสบจมูก และเป็นสารก่อมะเร็งชนิดหนึ่งด้วย

สำหรับในช่วงโรคระบาดโควิด-19 หลายคนคงมีเวลาว่างมากขึ้น หากทำความสะอาดรถด้วยตัวเอง เบื้องต้นควรเปิดหน้าต่างรถเพื่อให้อากาศถ่ายเท แล้วทำความสะอาดโดยนำผ้าไมโครไฟเบอร์ชุบน้ำยาฆ่าเชื้อที่มีส่วนผสมของคลอรีนเป็นหลัก หรือแอลกอฮอล์ 70%

ไม่ควรใช้สารฟอกขาว หรือผลิตภัณฑ์ที่มีไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ เพราะสามารถทำลายเบาะและสารเคลือบผิวภายในรถได้ จากนั้นลงมือทำความสะอาดทุกซอกมุมได้เลย และควรทำเป็นประจำอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง

การทำความสะอาดภายในรถควรเน้นพื้นผิวสัมผัสบ่อยๆ เพราะบางจุดอาจเป็นจุดเสี่ยงในการแพร่เชื้อโรค เช่น พวงมาลัยรถ หน้าต่าง และกระจกมองหลัง เกียร์ ที่จับประตู ทั้งด้านในและด้านนอก เบาะนั่ง ตัวปรับที่นั่ง และที่พักแขน หน้าจอสัมผัส และปุ่มต่างๆ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image