‘นักวิชาการ’ ไม่เห็นด้วย ศธ.ให้ร.ร.เป็นรพ.สนาม ชี้อาจซ้ำเติมโอกาสการเรียนรู้ของเด็ก

‘นักวิชาการ’ ไม่เห็นด้วย ศธ.ให้ร.ร.เป็นรพ.สนาม ชี้อาจซ้ำเติมโอกาสการเรียนรู้ของเด็ก

เมื่อวันที่ 21 กรกฏาคม นายสมพงษ์ จิตระดับ นักวิชาการด้านการศึกษา เปิดเผยกรณีที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เร่งจัดเตรียมให้หน่วยงานอื่นใช้อาคารสถานที่ของโรงเรียน เพื่อจัดทำเป็นโรงพยาบาลสนาม หรือศูนย์พักคอยในชุมชน เพื่อเป็นสถานที่ให้ผู้ติดเชื้อ และผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ที่มีอาการไม่รุนแรง ให้ได้รับการดูแลเบื้องต้น ว่า การให้โรงเรียนเป็นโรวพยาบาลสนามนั้น ไม่เหมาะสม ศธ.ต้องคิดให้ดีและรอบคอบ เพราะโรงเรียนมีบทบาทและมีหน้าที่สำคัญที่ชัดเจนคือมห้ความรู้เด็ก และโรงเรียนส่วนใหญ่จะมีข่วงเวลาปิดเปิดต่างกันตลอด สิ่วที่เกิดขึ้นคือโรงเรียนไม่ได้ปิดตลอดแล้วสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในแต่ละพื้นที่ก็แตกต่างกัน แต่การเรียนรู่ของเด็กต้องเกิดขึ้น เช่น ถ้าในพื้นที่ ที่โควิด-19 ระบาดน้อย เด็กอาจมาเรียนที่โรงเรียน หรือหากโรงเรียนปิด แต่เด็กยังต้องเข้ามาเอาใบงานที่โรงเรียน เป็นต้น ดังนั้นการนำผู้ป่วยไปไว้ที่โรงเรียนเป็นการใช้คำสั่งที่ไม่ถูก ไม่ดูบริบทของโรงเรียนเท่าที่ควร เพราะทำให้เด็กและผู้ปกครองขาดความมั่นใจในเรื่องความปลอดภัยของโรงเรียน

“ศธ. เน้นย้ำเสมอว่าโรงเรียนเป็นสถานที่ปลอดภัย แต่กลับเอาโรงเรียนมาทำเป็นโรงพยาบาลสนาม ที่รับผู้ป่วยโควิด-19 ซึ่งถือว่าขัดแย้งกับนโยบายของศธ.อย่างมาก ผมคิดว่าการทำโรงพยาบาลสนาม ต้องดูสถานที่ด้วย ไม่ใช่สั่งจากข้างบนแล้วให้โรงเรียนทำตาม ผมคิดว่าในแต่ละจังหวัดมีสถานที่ ที่ดีกว่า เหมาะสมกว่า เช่น ค่ายทหาร สนามกีฬาประจำจังหวัด หรือวัด เป็นต้น ซึ่งสถานที่เหล่านี้ถือว่ามีความพร้อมและห่างไกลจากชุมชนพอสมควร การใช้โรงเรียนมาเป็นโรงพยาบาลสนาม ผมคิดว่าไม่เหมาะสม ไม่ใช่ผมไม่เห็นความสำคัญของปัญหานี้ แต่มองว่าไม่ใช่ทางออกที่จะให้โรงเรียนเป็นโรงพยาบาลสนาม มองว่าขณะนี้ ศธ.กำลังสับสนว่าจะทำให้โรงเรียนปลอดภันกับการนำผู้ป่วยเข้ามาโรงเรียนนั้น สอดคล้องกับเหตุและผลหรือไม่ ควรนำเรื่องนี้มาหารือพูดคุยในวงกว้าง เพราะถ้าจะให้โรงเรียนเป็นโรงพยาบาลสนาม โรงเรียนอาจจะมีความเสี่ยงที่จะถูกปิดยาว ซึ่งส่งผลกระทบต่อการจัดการเรียนการสอนแน่นอน ขอให้ ศธ.ทบทวนเรื่องนี้โดยด่วน เหมือนขณะนี้ ศธ.ได้ช่วยเหลือด้านหนึ่ง แต่กลับกลายเป็นว่าได้ซ้ำเติมระบบการศึกษาอยู่ เป็นการซ้ำเติมโอกาสการเรียนรู้ของเด็ก ผมคิดว่าศธ.ควรทำให้โรงเรียนเป็นพื้นที่ ที่ปลอดภัยอย่างแท้จริง อย่านำความเสี่ยงหรือสร้างปัจจัยที่ทำให้เด็กมีความเสี่ยงมากขึ้น และมีโอกาสเข้าเรียนในโรงเรียนได้น้อยลง” นายสมพงษ์ กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image