รู้เบาะแส ‘คนร้าย’ ฉกพระเครื่องมูลค่าเกือบล้านจาก ‘ขนส่งดัง’

รู้เบาะแส ‘คนร้าย’ ฉกพระเครื่องมูลค่าเกือบล้านจาก ‘ขนส่งดัง’

กรณีมิจฉาชีพสวมรอยฉกพระเครื่องราคาแพงกว่า 50 องค์ ส่วนใหญ่เป็นพระเครื่องเกจิชื่อดังของ จ.สมุทรสงคราม รวมมูลค่ากว่า 8 แสนบาท ที่นายวรากร ส้มเตี้ย อายุ 35 ปี เซียนพระชื่อดังของ จ.สมุทรสงคราม และพรรคพวก นำใส่กล่อง จำนวน 28 กล่องไปฝากส่งให้ลูกค้าที่สั่งซื้อทางออนไลน์ จากบริษัทรับส่งสินค้าชื่อดัง “เคอรี่” สาขา 2795 ภายในปั้มน้ำ ปตท. ต.บ้านปรก อ.เมืองสมุทรสงคราม โดยมิจฉาชีพอ้างเป็นเจ้าของมาขอยกเลิกการส่งและขอรับพัสดุคืน เหตุเกิดเมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2564 ต่อมาวันที่ 28 กรกฎาคม 2564 ปรากฏว่าลูกค้าที่สั่งซื้อไม่ได้รับสินค้า จึงติดตามทวงถามจากนายวรากรและทีมงานผู้ขายจึงรีบตรวจสอบและได้รับแจ้งจากพนักงานเคอรี่ว่า มีผู้ชายวันกลางคนมาขอยกเลิกการส่งและขอรับพัสดุคืนไปหมดแล้วหลังจากนายวรากรมาส่งและกลับไปไม่ถึง 2 ชั่วโมง นายวรากรถึงกับตกใจจึงรีบเข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.วรบุรณ์ บุญมาก พนักงานสอบสวน สภ.เมืองสมุทรสงครามขอเปิดดูกล้องวงจรปิดทำให้ทราบรถแท็กซี่และคนขับที่มาขอรับพัสดุคืนไปแล้วนั้น

ล่าสุดเมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 29 กรกฎาคม 2564 ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัด(ภ.จว.) สมุทรสงคราม นายวรากร พร้อม น.ส.ยุพาพร ส้มเตี้ย อายุ 34 ปี ผู้เสียหาย ได้เดินทางเข้าพบ พล.ต.ต.สุเมธ ปุณสีห์ ผบก.ภ.จว.สมุทรสงคราม เพื่อรับทราบความคืบหน้าทางคดี พล.ต.ต.สุเมธ เปิดเผยถึงความคืบหน้าว่าเจ้าหน้าที่ทราบผู้ต้องสงสัยแล้ว 2 คนเป็นผู้หญิงกับผู้ชาย ขณะนี้กำลังส่งทีมสืบสวนลงพื้นที่ที่ผู้ต้องสงสัยมีภูมิลำเนา และประสานตำรวจพื้นที่เฝ้าติดตามผู้ต้องสงสัยแล้ว เพื่อจะตรวจสอบข้อเท็จจริง เชื่อว่าจะใช้เวลาไม่นานจะคลี่คลายคดีนี้ได้ เท่าที่ทราบจาการสืบสวนทราบว่าได้มีการจำหน่ายพระที่ผู้ก่อเหตุได้ไปส่วนหนึ่งแล้ว ส่วนของกลางจะพยายามติดตามคืนให้ได้มากที่สุด เราจะพยายามทำเต็มที่

ส่วนกรณีคนขับเท็กซี่เบื้องต้นเป็นการรับจ้างมาจากศูนย์วิทยุ ซึ่งชุดสืบสวนก็ตามไปสืบจนทราบว่าเป็นตัวละครเดียวกันกับผู้ต้องสงสัย ดังนั้นเป็นไปได้สูงที่ผู้ต้องสงสัยรายนี้จะเป็นผู้ต้องหา เบื่องต้นเตรียมแจ้งข้อหายักยอกทรัพย์ ซึ่งมั่นใจว่าจะจับตัวได้เร็วๆนี้

ต่อมาเวลา 14.30 น.วันเดียวกัน ที่ สภ.เมืองสมุทรสงคราม ตัวแทนจากบริษัทรับส่งสินค้า (เคอรี่) 5-6 คน และนายวรากร ส้มเตี้ย น.ส.ยุพาพร ส้มเตี้ย ผู้เสียหายกับพวก ได้มาเจรจากรณีพนักงานบริษัทรับส่งสินค้าหละหลวมในการทำงานขาดการตรวจสอบทำให้มิจฉาชีพขอคืนสินค้าที่ฝากส่งไปได้ง่ายๆ แต่เจ้าหน้าที่ห้ามถ่ายภาพอ้างเจรตำรวจมีคำสั่งห้ามถ่ายภาพบนโรงพัก ส่วนตัวแทนบริษัทปฏิเสธให้ข้อมูลแนวทางการรับผิดชอบในครั้งนี้

Advertisement

ด้านนายรุ่ง พลลาภ อายุ 46 ปี คนขับแท็กซี่ซึ่งเป็นผู้มารับพัสดุเคอรี่ ได้เดินทางมาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนเพื่อแสดงความบรสุทธิ์ใจ กล่าวว่า ตนได้รับงานจากศูนย์วิทยุแท็กซี่ให้มารับของที่เคอรี่ดังกล่าวได้รับค่าจ้าง 1,100 บาท ซึ่งตนก็ไม่รู้ว่าใครยกเลิกพัสดุ ตนแค่เดินทางไปรับของแล้วก็ไปส่งตามที่ศูนย์แท็กซี่สั่งมาเท่านั้น พนักงานเคอรี่ก็ยังไม่ขอดูบัตรประชาชนของตนเลย ตนเดินเข้าไปถามพนักงานว่า “น้องๆ ของผมอยู่ไหนที่ยกเลิกพัสดุ พนักงานก็ชี้ว่าอยู่นั้นไงค่ะพี่ไปเช็กดี 28 กล่อง ตนก็ไปเช็กของถ่ายรูปให้ผู้ว่าจ้างและก็ขนของขึ้นรถขับรถไปส่งปลายทาง” ตนไม่รู้เรื่องและยืนยันไม่มีส่วนเกี่ยวข้องมีหัวหน้าศูนย์เป็นพยาน และมีคลิปเสียงเป็นหลักฐาน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image