รัฐบาลทหารเมียนมา เลือก “วีระศักดิ์ ฟูตระกูล” เป็นทูตพิเศษ อาเซียนเตรียมถกรับรอง 2-6 ส.ค. นี้
สำนักข่าวรอยเตอร์และสำนักข่าวเกียวโด รายงานว่า พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง ลาย ผู้นำรัฐประหารเมียนมา แถลงทางโทรทัศน์เมื่อวันที่ 1 สิงหาคมนี้เว่า รัฐบาลทหารเมียนมาพร้อมให้การต้อนรับ ทูตพิเศษของสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ที่จะเดินทางเข้าประเทศเพื่อทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการหารือกับทุกฝ่ายที่มีส่วนเกี่ยวข้องเพื่อหาทางออกจากวิกฤตการณ์ในเมียนมาโดยสันติ
พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง ลาย ยังประกาศให้สัญญาว่าจะจัดให้มีการเลือกตั้ง “แบบหลายพรรคการเมืองที่เป็นเสรีและยุติธรรม” อย่างช้าที่สุดในเดือนสิงหาคม 2023 หลังจากที่การประกาศภาวะฉุกเฉิน 2 ปีหมดอายุลง
“ผมอยากพูดว่า เมียนมาพร้อมที่จะทำงานร่วมภายในอาเซียนด้วยกันภายใต้กรอบของอาเซียนซึ่งรวมถึงการเจรจาหารือกับทูตพิเศษของอาเซียนในเมียนมา” พล.อ.มิน อ่อง ลาย ระบุ
ทั้งนี้เกียวโด รายงานว่าผู้นำรัฐบาลทหารเมียนมากล่าวว่า ทางอาเซียนได้เสนอชื่อผู้ที่จะทำหน้าที่เป็นทูตพิเศษ 3 คนให้กับทางการเมียนมาพิจารณา และรัฐบาลของตนเลือกนายวีระศักดิ์ ฟูตระกูล อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศที่เคยเป็นเอกอัครราชทูตไทยประจำเมียนมามาแล้วและขณะนี้ดำรงตำแหน่งสมาชิกวุฒิสภาของไทยให้ทำหน้าที่ทูตพิเศษดังกล่าว อย่างไรก็ตามการคัดเลือกตัวผู้ทำหน้าที่ทูตพิเศษดังกล่าวจะมีการรับรองอย่างเป็นทางการในระหว่างการประชุมระดับรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนที่จะมีขึ้นแบบทางไกลเสมือนจริงระหว่างวันที่ 2-6 สิงหาคมนี้
เกียวโด อ้างแหล่งข่าวในอาเซียนเปิดเผยว่า ผู้ที่ถูกเสนอชื่อให้เมียนมาพิจารณาอีก 2 คนคือ นาย ฮัสซัน วิรายุดา อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศอินโดนีเซียและนายราซาลี อิสมาอิล ชาวมาเลเซียซึ่งเคยทำหน้าที่เป็นทูตพิเศษของสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ประจำเมียนมาในช่วงทศวรรษ 2000 ภายใต้ภารกิจอำนวยให้เกิดความสมานฉันท์และพัฒนาการไปสู่ประชาธิปไตยขึ้นในชาติ ในขณะที่รอยเตอร์ระบุว่า นายเอรีวัน ยูโซฟ รัฐมนตรีกิจการการต่างประเทศคนที่ 2 ของบรูไน เปิดเผยว่า ตนเป็นหนึ่งในตัวเลือกทั้งหมดซึ่งมี 4 คนด้วยกัน
เดิมทีคาดการณ์กันว่า ทูตพิเศษจะเดินทางเยือนเมียนมาในราวเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา แต่จนถึงเมื่อเร็วๆ นี้ทางการเมียนมาก็ไม่ได้แสดงท่าทีว่าจะตอบรับเรื่องนี้แต่อย่างใด การยอมรับทูตพิเศษให้เดินทางเข้าประเทศนี้ เป็นส่วนหนึ่งในความตกลง 5 ประการที่เมียนมารับปากไว้ในที่ประชุมอาเซียนนัดพิเศษเมื่อปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา ซึ่งรวมถึงการยุติความรุนแรงในทันทีและการยอมรับการให้ความช่วยเหลือเพื่อมนุษยธรรมจากอาเซียนอีกด้วย
