เมื่อเวลา 11.20 น. วันที่ 3 สิงหาคม ที่ สน.ทองหล่อ นายสันธนะ ประยูรรัตน์ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้เลขที่ 362/2564 คดีอุ้มรีดเรียกค่าไถ่ชาวไต้หวัน ในข้อหากระทำความผิดฐานร่วมกันเป็นอั้งยี่ ซ่องโจร ข่มขืนใจ เปิดเผยภายหลังเดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.ศุภชัย หาญคำหล้า รอง ผกก.(สอบสวน) สน.ทองหล่อ โดยใช้เวลาสอบปากคำนานกว่า 3 ชั่วโมง ว่าปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาที่ทางตำรวจตั้งไว้ และใช้เงินประกันตัวออกมา มูลค่า 1 แสนบาท ส่วนลูกน้อง 4 คน ใช้เงินประกันตัวคนละ 5 หมื่นบาท ซึ่งทางตำรวจอนุญาตให้ประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวน ยอมรับน้อยใจในการทำงานของตำรวจเพราะขณะนี้ตนป่วยเป็นโรคโควิด-19 และหมอให้กักตัวจนถึงวันที่ 6 สิงหาคมนี้
นายสันธนะกล่าวอีกว่า คดีนี้เกิดขึ้นมา 4 เดือนแล้ว ตั้งแต่เดือนมีนาคม ควรรอให้ตนหายดีก่อนและจะมาพบพนักงานสอบสวน แต่กลับถูกตำรวจ สน.ทองหล่อ ออกหมายจับ 7 หมาย คือตนเองและผู้ติดตาม ซึ่งวันนี้มามอบตัวแล้ว 5 คน ส่วนอีก 2 คน ติดโควิด 1 คน และอยู่ในช่วงกักตัวอีก 1 คน โดยจะมามอบตัวภายหลัง โดยคาดว่าเรื่องนี้ถูกกลั่นแกล้งเพราะชาวต่างชาติที่ตนบอกมาเสมอว่ารู้จักกัน และถูกจับกุมตัวโดยตำรวจกองปราบปราม เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม จนนับถึงวันที่ 6 สิงหาคมนี้ จะครบกำหนดฝากขังผัดสุดท้าย รวมระยะเวลา 84 วัน ซึ่งในวันที่ 29 กรกฎาคมที่ผ่านมา ทำหนังสือถึง ผกก.สน.ทองหล่อ ว่าแพทย์ให้ตนกักตัวดูอาการ และทำหนังสือชี้แจงพนักงานสอบสวนแล้ว แต่เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม ตำรวจนำสำนวนไปขอหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ มากลั่นแกล้งให้ตนมีส่วนในคดี
ทั้งนี้ ทั้ง 7 คนถูกตั้งข้อหา “ร่วมกันเป็นอั้งยี่ ,ซ่องโจร, ข่มขืนใจผู้อื่น ให้กระทำการ ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สิน ของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเอง หรือผู้อื่น หรือโดยใช้กำลังประทุษร้าย จนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้น ไม่กระทำการนั้น หรือจำยอมต่อสิ่งนั้น โดยมีอาวุธ ร่วมกระทำความผิดตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป โดยอ้างอำนาจ อั้งยี่ หรือซ่องโจร ไม่ว่าอั้งยี่หรือซ่องโจรนั้นจะมีอยู่หรือไม่, หน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่น หรือกระทำด้วยประการใด ให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพและร่างกาย”
