“โนวาแวกซ์” เลื่อนยื่นขออนุมัติเอฟดีเอ เบนเป้ามุ่งผลิตขายชาติกำลังพัฒนา

REUTERS/Dado Ruvic/Illustration/File Photo

“โนวาแวกซ์” เลื่อนยื่นขออนุมัติเอฟดีเอ เบนเป้ามุ่งผลิตขายชาติกำลังพัฒนา

รอยเตอร์รายงานว่า เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม นาย สแตนลีย์ เอิร์ค ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) ของบริษัทโนวาแวกซ์ แห่งสหรัฐอเมริกา เปิดเผยว่าได้ชะลอการยื่นคำขออนุมัติเพื่อใช้วัคซีนป้องกันโควิด-19 ของบริษัทเป็นกรณีฉุกเฉินจากองค์การอาหารและยา (เอฟดีเอ) ของสหรัฐอเมริกา ออกไปอีกเป็นภายในไตรมาส 4 ของปีนี้ โดยอ้างว่าเพื่อให้ได้ผลการวิจัยที่มั่นคงมากกว่าที่เป็นอยู่ แต่เปิดเผยด้วยว่าหน่วยงานกำกับดูแลด้านยาของหลายชาติ อาทิ อินเดีย, อินโดนีเซียและฟิลิปปินส์ กำลังเร่งรัดให้การอนุญาตใช้วัคซีนนี้

ซีอีโอของโนวาแวกซ์ระบุด้วยว่า บริษัทตั้งใจจะผลิตวัคซีนนี้เพื่อขายให้กับชาติกำลังพัฒนาและชาติที่มีรายได้ต่ำ ซึ่งมีความต้องการวัคซีนสูงแต่ผลผลิตมีไม่พอกับความต้องการอยู่อีกมาก โดยในขณะนี้โนวาแวกซ์ผลิตวัคซีนได้ 100 ล้านโดสต่อเดือนและจะเพิ่มเป็น 150 ล้านโดสต่อเดือนในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ โดยสามารถเอาชนะอุปสรรคด้านวัตถุดิบได้แล้ว โดยมีวัคซีนอยู่ในคลังแล้วหลายสิบล้านโดส

ทั้งนี้วัคซีนโนวาแวกซ์เป็นวัคซีนประเภทโปรตีนเบส ผลการทดลองในคนระยะที่ 3 ให้ผลดีสามารถป้องกันการติดเชื้อ ป่วยและป่วยหนักได้ถึง 96 เปอร์เซ็นต์ โดยต้องฉีด 2 เข็มห่างกัน 21 วัน ทั้งนี้นายเอิร์ค ระบุว่า หลังฉีดครบ 2 เข็มผ่านไป 6 เดือนควรฉีดกระตุ้นเข็มที่ 3 ซึ่งจะทำให้ภูมิคุ้นกันเพิ่มขึ้น 4.6 เท่า โดยเตรียมขออนุมัติเข็ม 3 แยกต่างหากต่อไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image