‘เขาใหญ่’ ปิดสถานที่ท่องเที่ยว น้ำตกแก่งหินเพิง หลังจังหวัดกลายเป็นพื้นที่สีแดงเข้ม เผยก่อนหน้านี้ นทท.เบาบาง ผลกระทบธุรกิจโรงแรม รีสอร์ต ผู้ประกอบการล่องแก่งพังระนาว ต้องนิ่งในที่ตั้ง ไร้ลูกค้า ขณะวัดล้านหอยประติมากรรมจากหอยล้านตัว นทท.หายเช่นกัน
วันนี้ 8 สิงหาคม ผู้สื่อข่าว จ.ปราจีนบุรี รายงานว่า นายอดีศักดิ์ ภูสิทธิ์วงศานุยุต หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ได้มีประกาศ เรื่อง ขอปิดสถานที่ท่องเที่ยวน้ำตกแก่งหินเพิง อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เป็นการชั่วคราว
โดยข้อความระบุว่า … เพื่อปฏิบัติตามมาตรการฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา (COVID -19) ตามคำสั่งศูนย์บริหารราชการในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา (COVD-19) ลงวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ.2564
ข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ประกาศให้พื้นที่ 29 จังหวัด เป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา (COVD-19) ในระลอกใหม่ โดยจังหวัดปราจีนบุรีถูกจัดอยู่ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด เพื่อให้พนักงานเจ้าหน้าที่สามารถดำเนินการสกัดกั้นและระงับยับยั้งสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา (COVID-19) ได้ทันท่วงที
ทั้งนี้ อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ได้ตระหนักถึงความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวและเจ้าหน้าที่ในอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่เป็นประการสำคัญ ซึ่งน้ำตกแก่งหินเพิงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวในพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาจากหลายพื้นที่ อันเป็นการเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา (COVID-19) นั้น
อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ พิจารณาแล้ว เพื่อเป็นการป้องกันและลดความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา (COVID-19) อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 25 และมาตรา 35 (4) แห่งพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2562 จึงขอประกาศปิดสถานที่ท่องเที่ยวน้ำตกแก่งหินเพิง อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ตั้งแต่วันที่ 7 สิงหาคม 2564 เป็นต้นไป หรือจนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่สภาวะปกติ เพื่อให้เกิดความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยว และให้การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่เป็นไปด้วยความเรียบร้อยจึงประกาศให้ทราบโดยทั่วกัน ประกาศ ณ วันที่ 7 สิงหาคม พ.ศ.2564
โดยแก่งหินเพิง เป็นแก่งหินขนาดใหญ่กลางแม่น้ำใสใหญ่ในเขต อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี แก่งหินเพิงจะสวยงามมากที่สุดในยามน้ำหลาก ราวเดือนกรกฎาคม-พฤศจิกายน ฤดูฝนจึงเป็นช่วงเวลาที่เหมาะที่สุดสำหรับการท่องเที่ยวแก่งหินเพิง มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเล่นน้ำตามแก่งต่างๆ เป็นจำนวนมาก สำหรับผู้ชื่นชอบความตื่นเต้นเร้าใจ ยังนิยมนำการล่องแก่งแพยางจากแก่งหินเพิงลงมายังหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ ขญ.9 อีกด้วย อันเป็นการสร้างเศรษฐกิจสู่ท้องถิ่นในฤดูกาลนี้นั้น
ผู้สื่อข่าว ลงพื้นที่พบแก่งหินเพิง สภาพน้ำเต็ม แต่ไร้เงาของนักท่องเที่ยวที่เข้ามาผจญภัย โดยก่อนหน้านี้ ทางอุทยานฯเขาใหญ่ ได้อนุญาตให้จัดกิจกรรมได้ แต่ต้องปฏิบัติตามคำสั่งของรัฐบาล (ศปค.) อย่างเคร่งครัด ได้พบกับนายดำริห์ หรืออู๊ด รัตนชินกรณ์ นายกสมาคมการท่องเที่ยว จ.ปราจีนบุรี และผู้ประกอบการเรือยางล่องแก่งหินเพิง กล่าวว่า “ทางอุทยานฯได้มีคำสั่งออกมาวานนี้ (7 ส.ค.) โดยก่อนหน้านี้ ทางอุทยานฯเขาใหญ่ ได้อนุญาตให้จัดกิจกรรมผจญภัยล่องแก่งได้มาตั้งแต่ช่วงเดือน ก.ค.64
แต่เนื่องจากสถานการณ์ระบาดของโรคจังหวัดปราจีนบุรี พบไม่มีนักท่องเที่ยว หรือมีแต่น้อยมาก ผู้ประกอบการล่องเรือยางในการล่องแก่ง ที่มีรวม 5 ราย พยายามโปรโมตทุกวิถีทาง แต่ไม่สำเร็จ รวมถึงธุรกิจโรงแรม ร้านอาหาร รีสอร์ตต้องอยู่ในที่ตั้งเท่านั้น เนื่องจากไม่มีลูกค้าเลย ทั้งนี้ พบว่าไม่มีลูกค้ามาตั้งแต่เดือน ก.พ.เป็นต้นมา ปริมาณที่จะนับเป็นเปอร์เซ็นต์นับไม่ได้เลย วันนี้ทางผู้ประกอบการล่องเรือยางแก่งหินเพิงทั้ง 5 ราย จึงต้องปิด-จบเอาตัวให้รอดไว้ก่อน
และก่อนหน้าของการที่จะประกาศเป็นพื้นที่สีแดงเข้มนั้น ทำให้การเดินทางมาเที่ยวอาจจะลำบาก นทท.ต้องมาเช้าเย็นกลับ ทุกวันก็จะมีลูกค้าเข้ามาล่องแก่งกันทุกวันอยู่ แต่ไม่เยอะ อย่างเช่นหากมีมาอยู่ 1 กลุ่ม 4 คน มาด้วยกัน ทางรีสอร์ตก็ให้ล่องกลุ่มเดียวกัน ไม่มีที่จะให้ไปลงเรือกับกลุ่มอื่น
ในกรณีที่มาหลายคน ที่รีสอร์ตนี้จะใช้มาตรการเหมาลำทั้งหมดเพื่อป้องกันเชื้อโรคโควิด-19 มีมาตรการการตรวจคัดกรองของทางรีสอร์ตและพนักงานของรีสอร์ตทุกคนก็ได้รับวัคซีนเข็มที่ 2 แล้วทุกคน แม้กระทั้งคนบังคับเรือก็ได้รับวัคซีนเข็มที่ 2 แล้วก็ตาม แต่ นทท.ก็หดหายตามสถานการณ์ และผลประกาศล็อกดาวน์นี้ การท่องเที่ยวผจญภัย แก่งหินเพิงจึงเป็นจุดเริ่มต้นบทอวสานเริ่มยาวจากวันนี้” นายดำริห์กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานต่อไปว่า เสร็จจากล่องแก่งหินเพิงแล้ว พบว่าสถานที่ นทท.แวะไหว้พระวัดรัตนเนตตาราม (วัดล้านหอย) อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี ในการชมประติมากรรมสวยๆ จากหอยที่นำมาประดับประดาเป็นล้านๆ ตัวสวยงาม พาให้ชวนหลงใหล ไม่ว่าจะ มณฑป เมรุหอย ซึ่งตอนนี้ก่อสร้างแล้วประมาณ 80% และพระพุทธรูปสวยๆ ประดับด้วยเปลือกหอย เดินเลาะพื้นไม้ไผ่ไปดื่มกาแฟกลางทุ่งแวะซื้อของกลับบ้าน ไม่มีนักท่องเที่ยวเช่นกัน
