นายกฯมาเลย์ แถลงลาออกแล้ว รักษาการรอรัฐบาลใหม่ ริงกิต-หุ้นร่วงกราวรูด
รอยเตอร์ รายงานมื่อวันที่ 16 สิงหาคมว่า นายมูห์ยิดดิน ยัสซิน นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย แถลงทางโทรทัศน์ที่ถ่ายทอดออกไปทั่วประเทศว่า ได้ลาออกจากตำแหน่งแล้ว หลังไม่ได้รับคะแนนเสียงไว้วางใจจากส่วนใหญ่ของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในสภา
นายมูห์ยิดดินกล่าวว่า สมเด็จพระราชาธิบดีได้ร้องขอให้รัฐบาลชุดปัจจุบันทำหน้าที่รักษาการไปพลางก่อนจนกว่าการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่จะแล้วเสร็จ และแสดงความคาดหวังว่า การฟอร์มรัฐบาลใหม่จะเป็นไปโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
ก่อนหน้านี้คณะรัฐมนตรีมาเลเซียภายใต้การนำของนายมูห์ยิดดิน ได้ส่งหนังสือกราบบังคมทูลลาออกต่อสมเด็จพระราชาธิบดีทั้งคณะ โดยนาย ไครี จามาลุดดิน รัฐมนตรีกระทรวงวิทยาศาสตร์ประกาศกรณีดังกล่าวผ่านทางอินสตาแกรมส่วนตัว หลังนายมูห์ยิดดิน ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีครั้งสุดท้ายเมื่อเวลา 09.00 น. แล้วเดินทางเข้าเฝ้าสมเด็จพระราชาธิบดีแห่งมาเลเซียหลังเสร็จสิ้นการประชุม
การลาออกของนายมูห์ยิดดิน ทำให้การดื้อแพ่งเพื่ออยู่ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีขณะที่เสียงสนับสนุนน้อยลงตามลำดับสิ้นสุดลงในเวลาเพียง 17 เดือน และอาจส่งผลกระทบต่อความพยายามฟื้นฟูเศรษฐกิจที่กระทบอย่างหนักจากการระบาดของโควิด-19 และก่อปัญหาความไม่แน่นอนทางการเมือง เนื่องจากไม่มีผู้นำทางการเมืองรายใดคุมเสียงข้างมากเด็ดขาดในสภาผู้แทนราษฎรได้
อย่างไรก็ตามมีรายงานข่าวสะพัดว่า การลาออกครั้งนี้อาจทำให้การเมืองมาเลเซียตกอยู่ในกำมือขององค์การมลายูสามัคคีแห่งชาติ (อัมโน) อีกครั้ง โดยมีแกนนำ 2 รายที่คาดว่าจะได้รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี คือนายซาบรี ยาค็อบ ซึ่งดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีในเวลานี้และ เต็งกู ราซาเลห์ ฮัมซาห์ ส.ส.รุ่นลายคราม ทั้งคู่มาจากอัมโน
ก่อนหน้านี้นายมูห์ยิดดิน อ้างว่า วิกฤตที่เกิดกับพรรคร่วมรัฐบาลของตน เกิดขึ้นเนื่องจากตนไม่ยอมทำตามคำขอให้ยกเลิกการดำเนินคดีในข้อหาคอร์รัปชันกับคนบางคน
ทั้งนี้ ในเวลานี้มีสมาชิกพรรคอัมโน ที่ถูกดำเนินคดีในข้อหาคอร์รัปชั่นอยู่ 2 ราย คือ นายนาจิบ ราซัก อดีตนายกรัฐมนตรี กับนาย อาหมัด ซาฮิด ฮามิดี ประธานพรรคอัมโนนั่นเอง
ผลจากการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในครั้งนี้ทำให้ค่าเงินริงกิตของมาเลเซียตกต่ำสุดในรอบปี ในขณะที่ตลาดหุ้นก็ร่วงลงอย่างหนักเช่นเดียวกัน
