“เขียว สัมพัน” ผู้นำเขมรแดงอุทธรณ์โทษ “ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์” ต่อศาลพิเศษในกัมพูชา
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า เมื่อวันที่ 16 สิงหาคมนี้ นายเขียว สัมพัน ผู้นำระดับสูงของเขมรแดงคนสุดท้ายที่ยังมีชีวิตอยู่ เดินทางไปยัง ศาลพิเศษคดีอาชญากรรมสงครามแห่งกัมพูชา (อีซีซีซี) เพื่อยื่นอุทธรณ์ต่อคำพิพากษาของศาลอีซีซีซี ก่อนหน้านี้ที่ระบุว่า นายเขียว สัมพัน มีความผิดจริงตามข้อกล่าวหาว่า กระทำการอันเข้าข่ายการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวกัมพูชาในช่วงของการปกครองของระบอบเขมรแดง ระหว่างปี 1975-1979 ซึ่งนำไปสู่การเสียชีวิตของชาวกัมพูชาราว 1.7 ล้านคน
รายงานข่าวระบุว่า นายเขียว สัมพัน ในวัย 90 ปี พร้อมนาย คง สัม ออน ทนายได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลกลับคำพิพากษาเดิม ที่ระบุว่า นายเขียว สัมพัน ในฐานะ ประธานสภาเปรซิเดียมสูงสุด และในฐานะประมุขของกัมพูชาในเวลานั้น กระทำการเข้าข่ายความผิดฐาน ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์, ก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติ และ ก่ออาชญากรรมสงคราม ซึ่งศาลมีคำพิพากษาไว้เมื่อปี 2018 ที่ผ่านมา โดยชี้ว่าหลักฐานที่ใช้พิพากษาความผิดดังกล่าวมีปัญหา รวมทั้งกระบวนการดำเนินคดีต่อตนมีความบกพร่องผิดพลาด
นายคง สัม ออน กล่าวต่อองค์คณะผู้พิพากษาของศาลอีซีซีซีว่า ลูกความของตนไม่ได้รับอนุญาตให้มีเวลาเพียงพอต่อการเตรียมการเพื่อต่อสู้คดี ในขณะที่องค์คณะของศาลก่อนหน้านี้ก็ไม่สามารถกำหนดคำพิพากษาเดิมบนพื้นฐานที่ถูกต้องเหมาะสม รวมถึงข้อบกพร่องอื่นๆ ดังนั้นคำพิพากษาดังกล่าวจึงควรเป็นโมฆะ ไม่มีผลบังคับ และเห็นควรให้องค์คณะของศาลสูงสุดของอีซีซี กลับคำพิพากษาดังกล่าว
ทั้งนี้คาดกันว่าคำพิพากษาของการอุทธรณ์ครั้งนี้จะมีขึ้นอย่างเร็วที่สุดในราวปี 2022
อย่างไรก็ตาม เอพีระบุว่า นักสังเกตการณ์หลายคนเห็นตรงกันว่า ยากที่จะมีการกลับคำพิพากษาตามคำขอของจำเลย นอกจากนั้นแม้ว่าศาลอาจกลับคำพิพากษา นายเขียว สัมพัน ก็ยังอยู่ระหว่างต้องคำพิพากษาให้จำคุกตลอดชีวิตอยู่ก่อนแล้ว จากคำพิพากษาเมื่อปี 2014 ที่เห็นว่า นายเขียว และพวกกระทำผิดฐานก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติ อันเนื่องมาจากการบังคับประชาชนจำนวนมากให้ย้ายถิ่นสู่ชนบท จนนำไปสู่การสูญหายและเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก คดีดังกล่าวนี้ศาลสูงสุดยกคำร้องอุทธรณ์ไปแล้วเมื่อปี 2016 ที่ผ่านมา
