เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2564 เวลาประมาณ 14.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองจันทบุรี นำกำลังเข้าตรวจสอบและระงับเหตุกรณีได้รับแจ้งว่ามีผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 เกิดอาการคลุ้มคลั่งทำร้ายตัวเอง ที่บริเวณสวนหย่อม ด้านหน้าอาคารประชาธิปกศักดิเดช รพ.พระปกเกล้า จ.จันทบุรี ส่งผลทำให้ประชาชนที่มาใช้บริการ ตลอดจนแพทย์ พยาบาลและเจ้าหน้าที่เกิดแตกตื่น เกรงจะเกิดความวุ่นวายและความไม่ปลอดภัย
จากการเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุเบื้องต้นพบผู้ป่วยดังกล่าวเป็นหญิงวัยกลางคน อยู่ในอาการคลุ้มคลั่ง ส่งเสียงตะโกนโวยวายและก่นด่า พร้อมกับในมือถือไม้กวาดพื้นฟาดตีไปที่พื้น และศีรษะตัวเองหลายครั้ง ทำให้ประชาชนที่เข้ามาใช้บริการเกิดความวิตกหวาดกลัว
ขณะที่ทาง รปภ.ได้พยายามเข้าควบคุมคนไข้ดังกล่าวแต่ไม่เป็นผล ได้ประสานขอกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สภ.เมืองจันทบุรี เพื่อเข้ามาช่วยระงับเหตุ เบื้องต้นได้รับแจ้งจากทางเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลว่า หญิงคนดังกล่าวติดเชื้อโควิด ทำให้การทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และ รปภ.เกิดความยากขึ้นไปอีกเท่าตัว ประกอบกับคนไข้เริ่มมีอาการเครียดมากยิ่งขึ้น เนื่องจากมีผู้คนเข้ามามุงดูเหตุการณ์จำนวนมาก จนคลุ้มคลั่ง อาละวาดหนักไม่ยอมให้ใครเข้าใกล้ โดยยังได้ใช้ก้อนหินขว้างปาใส่เจ้าหน้าที่ และถ่มน้ำลายใส่เป็นระยะ
ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานได้สวมชุด ppe เพื่อเพิ่มความระมัดระวัง
ก่อนได้กระจายกำลังเข้ากระชับพื้นที่ให้อยู่ในวงจำกัด โดยทาง รปภ.และตำรวจได้เข้าทำการชาร์จตัวหญิงคนดังกล่าวให้นอนลงกับพื้น แต่เจ้าตัวพยายามดิ้นรนขัดขืนตลอดเวลา โดยใช้เวลาประมาณ 10 นาที จึงสามารถล็อกตัวหญิงคลั่งให้นอนลงกับเปลได้เป็นสำเร็จ ก่อนที่ทางทีมแพทย์ พยาบาล จะนำตัวขึ้นรถฉุกเฉินกลับไปรักษาอาการทันที
จากการสอบถามลูกสาวของคนไข้ผู้ติดเชื้อ (ขอสงวนชื่อ นามสกุล) ซึ่งเป็นผู้ป่วยติดเชื้อโควิด บอกว่า สาเหตุที่เดินทางมาที่โรงพยาบาลในวันนี้เนื่องจากก่อนหน้านี้ ตนและแม่พักอาศัยอยู่ที่บ้านพักที่ อ.ขลุง โดยแม่ได้ทำงานเป็นคนเฝ้าล้งผลไม้ในพื้นที่ ต.แสลง อ.เมืองจันทบุรี ต่อมาจากการสุ่มตรวจคัดกรองเชิงรุกพบมีคนงานที่ล้งติดเชื้อโควิด ซึ่งคนงานที่เหลือถือเป็นกลุ่มเสี่ยง รวมถึงแม่และเพื่อนคนงานที่เหลือ จึงพากันมาตรวจหาเชื้อโควิดและต้องเดินทางมาฟังผลตรวจในวันนี้
แต่เมื่อแม่ทราบผลตรวจพบว่าติดเชื้อโควิดทำให้เกิดอาการเครียด หวาดวิตก จนควบคุมสติไม่ได้ เนื่องจากต้องทำงานหาเงินทุกวัน และการเข้ารักษาตัวหลายวันจำเป็นต้องหยุดงานและทำให้ขาดรายได้ จนทำให้แม่เกิดอาการตามที่เห็นดังกล่าว ซึ่งต้องขอโทษทางโรงพยาบาลและประชาชนทุกคนที่ทำให้เกิดเหตุการณ์วุ่นวายในครั้งนี้
